Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

มีนาคม 29, 2024, 08:43:56 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,519
  • หัวข้อทั้งหมด: 647
  • Online today: 82
  • Online ever: 82
  • (วันนี้ เวลา 05:37:34 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 63
Total: 63

ฟารีดเฟ็นดี้แหกตา ข้อแตกต่างระหว่างซุนนะห์และชีอะฮ

เริ่มโดย L-umar, พฤษภาคม 31, 2010, 05:42:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar

ฟารีดเฟ็นดี้แหกตา ข้อแตกต่างระหว่างซุนนะห์และชีอะฮ์


อ้างอิงบทความจากนายฟารีดเฟ็นดี้

ขอให้ท่านคลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความที่นายฟารีดเฟ็นดี้ใส่ร้ายชีอะฮ์

http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=110





۩  วิจารณ์

บทความของนายฟารีดชื่อ  " ข้อแตกต่างด้านโครงสร้างศาสนาระหว่างซุนนะห์และชีอะฮ์ "   เขาเขียนเพื่อใส่ความชีอะฮ์ว่า  มีความเชื่อไม่เหมือนเขา   แต่น่าแปลกที่เขาไม่ยอมมองย้อนกลับบ้างว่า   ทำไมเขามีความเชื่อไม่เหมือนพวกอะชาอิเราะฮ์ทั้งๆที่เป้นซุนนี่เหมือนกัน  กล่าวคือในขณะที่นายฟารีดเชื่อว่าพระเจ้าทรงนั่งประทัยอยู่บนอารัชบ้างบนกุรซีบ้าง แต่พวกซุนนี่อะชาอิเราะฮ์ไม่เชื่อแบบนี้ และทุกวันนี้พวกเขายังหาข้อสรุปที่ลงตัวกันไม่ได้  
หรือในขณะที่ชาวซุนนี่ด้วยกันยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าพระเจ้าของพวกเขามีห้านิ้วหรือหกนิ้ว ดู http://www.q4sunni.com/believe/index.php?option=com_kunena&Itemid=71&func=view&catid=2&id=1673

แต่นายฟารีดกลับมานั่งวิจารณ์เรื่องชีอะฮ์อย่างผิดๆ และไม่ถูกต้อง หรือนั่นคือวิสัยทรามของนายฟารีดเฟ็นดี้อันติดมาแต่กำเนิดจนศาสนาที่เขาร่ำเรียนก็ไม่อาจล้างจิตของเขาให้สะอาดได้  


ก่อนอื่นท่านต้องเข้าใจว่า  ชีอะฮ์คือผู้ปฏิบัติตาม
หนึ่ง -  คัมภีร์กุรอ่าน
สอง -  สิ่งที่มีรายงานมาจากท่านนะบี(ศ)และอิม่ามสิบสองที่มาจากอะฮ์ลุลบัยต์นะบี(อ)



เมื่อคัมภีร์กุรอ่านกล่าวว่า

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُواْ آمِنُواْ بِاللّهِ وَرَسُولِهِ وَالْكِتَابِ الَّذِي نَزَّلَ عَلَى رَسُولِهِ وَالْكِتَابِ الَّذِيَ أَنزَلَ مِن قَبْلُ وَمَن يَكْفُرْ بِاللّهِ وَمَلاَئِكَتِهِ وَكُتُبِهِ وَرُسُلِهِ وَالْيَوْمِ الآخِرِ فَقَدْ ضَلَّ ضَلاَلاً بَعِيدًا

โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงศรัทธาต่ออัลลอฮ์และรอซูลของพระองค์เถิด และคัมภีร์(อัลกุรอาน)ที่พระองค์ได้ทรงประทานลงมาแก่รอซูลของพระองค์ และคัมภีร์ที่พระองค์ได้ทรงประทานลงมาก่อนหน้านั้น และผู้ใดปฏิเสธการศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และมลาอิกะฮ์ของพระองค์และบรรดาคัมภีร์ของพระองค์และบรรดารอซูลของพระองค์ และวันสิ้นโลกแล้วไซร้ แน่นอนเขาได้หลงทางอย่างห่างไกล    
 
ซูเราะฮ์อัน-นิซาอ์ : 136

อัลกุรอ่านระบุว่าอีหม่านมีแค่  5 ประการคือ
1.   การศรัทธาต่ออัลลอฮ์
2.   มลาอิกะฮ์ของพระองค์
3.   บรรดาคัมภีร์ของพระองค์
4.   บรรดารอซูลของพระองค์
5.   วันสิ้นโลก


หากชีอะฮ์คนใดปฏิเสธอีหม่านห้าประการดังกล่าว  ชีอะฮ์คนนั้นก็เป็นกาเฟ็ร
หากซุนนี่คนใดปฏิเสธอีหม่านห้าประการดังกล่าว  ซุนนี่คนนั้นก็เป็นกาเฟ็รเหมือนกัน



ตำราชีอะฮ์บันทึกเรื่องกอฎอ กอดัร (การศรัทธาต่อการกำหนดสภาวการณ์) เป็นหะดีษดังนี้

عن أبي حازم، عَنْ عَمْرُو بْنِ شُعَيْبٍ عَنْ أَبِيهِ عَنْ جَدِّهِ ، قال: قال رسول الله صلى الله عليه وآله وسلم: لا يؤمن أحدكم حتى يؤمن بالقدر خيره وشره وحلوه ومره
كتاب : التوحيد  للشيخ الصدوق  ج 27 / ص 12  ح 27

จากอะบีฮาซิม จากอัมรู บินชุอัยบ์ จากบิดาของเขาจากปู่ของเขาเล่าว่า  

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า  คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านจะยังมีอีหม่าน(ไม่สมบูรณ์)จนกว่าเขาจะมีศรัทธาต่อเรื่องเกาะดัร  

ดูหนังสืออัตเตาฮีด โดยเชคศอดูก   หะดีษที่ 27  


ฉะนั้นชีอะฮ์คนปฏิเสธเรื่องกอดอ กอดัรของอัลเลาะฮ์ตะอาลา ชีอะฮ์คนนั้นก็กาเฟ็ร
และซุนนี่คนปฏิเสธเรื่องกอดอ กอดัรของอัลเลาะฮ์ตะอาลา ซุนนี่คนนั้นก็กาเฟ็รเช่นกัน


จุดประสงค์ของนายฟารีดคือ จะโจมตีชีอะฮ์ว่า
อะกีดะฮ์ห้าข้อนี้ไม่มีในกุรอ่านหรือฮะดีษแบบกล่าวเรียงไว้ ก็แค่นั้นเอง
คำตอบคือ อะกีดะฮ์ทั้งห้านี้ได้เอามาจากอัลกุรอานและฮะดีษ เพียงแต่ไม่ได้กล่าวเรียงกันเท่านั้น

หากนายฟารีดโต้แย้งว่า :
ในเมื่ออะฮ์ลุลบัยต์ไม่ได้กำหนดอะกีดะฮ์ไว้แบบนี้ ก็แสดงว่าอะกีดะฮ์ทั้งห้านี้เป็นเรื่องบิดอะฮ์  

เราขอถามนายฟารีดบ้างว่า

เชคมุฮัมมัด บินอับดุลวะฮาบ ผู้ก่อตั้งแนวทางวาฮาบี (1115-1206 ฮ.ศ.) ได้แบ่งเตาฮีดออกเป็น 3 ประเภทคือ  

1,เตาฮีดอุลูฮียะฮ์

2, เตาฮีดรุบูบียะฮ์
 
3, เตาฮีดอัสมาอ์วะซิฟาต  


การแบ่งนี้ไม่มีระบุไว้ในอัลกุรอาน ฮะดีษนบี  และบรรดาซอฮาบะฮ์  ตาบิอีน  และตาบิอิตตาบิอีน  ก็ไม่ได้กล่าวไว้เลยเป็นที่ทราบดีว่า การแบ่งเตาฮีดออกเป็น 3 ข้อเช่นนี้ไม่เคยมีในยุคศตวรรษที่ 3  จนถึงศตวรรษที่ 6 เมื่อถึงศตวรรษที่ 7 การแบ่งเตาฮีดเป็นอุลูฮียะฮฺและรุบูบียะฮฺพึ่งเกิดขึ้น
ขอถามวาฮาบีอย่างนายฟารีดว่า :
การแบ่งเตาฮีดออกเป็น 3 ประเภทนี้  เป็นบิดอะฮ์ใช่ไหม ?

จริงอยู่ที่ในรายละเอียดของเรื่องอีหม่าน เราอาจเข้าใจและอธิบายลึกซึ้งกันไปเช่นชีอะฮเชื่อว่า อัลลอฮ์ตะอาลาทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมพระองค์ไม่เคยกดขี่หรืออธรรมต่อมนุษย์

การที่ชีอะฮ์เชื่อว่า  พระเจ้าทรงมีความยุติธรรม เพราะอัลลอฮ์ตรัสว่า
 
مَنْ عَمِلَ صَالِحًا فَلِنَفْسِهِ وَمَنْ أَسَاء فَعَلَيْهَا وَمَا رَبُّكَ بِظَلَّامٍ لِّلْعَبِيدِ
ผู้ใดทำความดีก็ได้แก่ตัวเขาเอง และผู้ทำความชั่วมันก็ตกหนักแก่ตัวเขาเอง และพระผู้อภิบาลของเจ้าไม่เคยอยุติธรรมต่อบ่าว     ฟุศศิลัต : 46  

และอัลลอฮ์ตรัสว่า
إِنَّ اللّهَ لاَ يَظْلِمُ النَّاسَ شَيْئًا وَلَـكِنَّ النَّاسَ أَنفُسَهُمْ يَظْلِمُونَ
แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงอธรรม(ซอเล็ม)แก่มนุษย์แต่อย่างใด แต่มนุษย์ต่างหากที่อธรรมต่อตัวของพวกเขาเอง   ยูนุส : 44

และอัลลอฮ์ตรัสว่า

مَن جَاء بِالْحَسَنَةِ فَلَهُ عَشْرُ أَمْثَالِهَا وَمَن جَاء بِالسَّيِّئَةِ فَلاَ يُجْزَى إِلاَّ مِثْلَهَا وَهُمْ لاَ يُظْلَمُونَ
ผู้ใดที่นำความดีมา เขาก็จะได้รับสิบเท่าของความดีนั้น และผู้ใดนำความชั่วมาเขาจะไม่ถูกตอบแทน นอกจากเท่าความชั่วนั้นเท่านั้น และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม  อันอาม : 160

คำถามสำหรับวาฮาบี

ท่านเชื่อว่า  อัลลอฮ์ ตะอาลามีความยุติธรรมหรือไม่
ถ้าท่านไม่เชื่อสิ่งนี้ก็แสดงว่าท่านเป็นกาเฟ็ร

หากท่านเชื่อว่าอัลลอฮ์มีความยุติธรรม นั่นแสดงว่าท่านมีความเชื่อเหมือนชีอะฮ์ใช่ไหม  เพราะหลักศรัทประการหนึ่งของชีอะฮ์คืออัลลอฮ์อาดิล   ส่วนหลักศรัทธาของท่านไม่มีกล่าวว่าอัลลอฮ์อาดิล

ถ้าถามว่า  :   ใครกำหนดอะกีดะฮ์ห้าข้อนี้ ?
1,เตาฮีด 2,อดิล 3,นุบูวะฮ์ 4,อิมามะฮ์ 5,มะอ๊าด

ตอบง่ายๆคือ :   เชคมุฟีด  

แล้วเชคมุฟีดเป็นใคร  ตอบ  อุละมาอ์ชีอะฮ์คนหนึ่ง
เชคมุฟีด ชื่อจริงคือ มุฮัมมัด บินมุฮัมมัด บินอัน-นุอ์มาน ชาวเมืองแบกแดด ประเทศอิรัค เกิดวันที่ 11 ซุลกิอ์ดะฮ์ ฮ.ศ.336 มรณะคืนวันศุกร์ที่ 3 รอมฎอน ฮ.ศ. 413 รวมอายุ 95 ปี  สัยยิดมุรตะฏอเป็นอิม่ามนำ นมาซญะนาซะฮ์ให้ มีทั้งซุนนี่และชีอะฮ์มาร่วมนมาซญะนาซะฮ์ให้เขาอย่างเนืองแน่น เดิมร่างถูกฝังไว้ที่บ้านสองปี ต่อมาได้ย้ายไปฝังไว้ที่เมืองกาซิมัยน์ เคียงข้างกับอาจารย์ของเขาคือเชคศอดูก ตรงบิรเวณด้านล่างสุสานของท่านอิม่ามญะวาด อะลัยฮิสสลาม
เชคมุฟีดนับได้ว่าเป็นนักวิชาการที่มีความรู้สูงสุดในยุคที่เขามีชีวิตอยู่ มีความฉลาดหลักแหลมในการตอบคำถามและเชี่ยวชาญวิชาฟิกฮ์  ,ริวายะฮ์และอิลมุลกะลาม  เขาแต่งตำราไว้สองร้อยกว่าเล่ม ซึ่งคนรุ่นหลังล้วนได้รับประโยชน์จากเขาอย่างมากมาย  


เชคมุฟีดเป็นบุคคลแรกที่ได้ประมวลอะกีดะฮ์ชีอะฮ์จากกุรอ่านและฮะดีษไว้หนังสือชื่อ " อัน-นุกัต อัลเอี๊ยะอ์ติกอดียะฮ์ " หนังสือเล่มนี้เชคมุฟีดได้แบ่งหลักศรัทธาออกเป็น 5 บทคือ
1.   มะอ์ริฟะตุลเลาะฮ์วะศิฟาติฮี (การรู้จักพระเจ้าและคุณลักษณะของพระองค์)
2.   อัลอัดลุ (ความยุติธรรมของอัลลอฮ์)
3.   อัน-นุบูวะฮ์ ( การศรัทธาต่อศาสดาของอัลลอฮ์)
4.   อัลอิมามะฮ์  ( การศรัทธาต่อผู้นำที่สืบต่อจากนบีมุฮัมมัด)
5.   อัลมะอ๊าด (การศรัทธาต่อวันปรโลก)  

จนยุคต่อๆมานักวิชาการชีอะฮ์ได้เรียบเรียงหนังสืออะกีดะฮ์โดยแบ่งเรื่องหลักศรัทธาออกเป็นห้าหัวข้อเหมือนที่เชคมุฟีดได้นำเสนอไว้จนกลายเป็นเรื่องมุตะวาติรถ่ายทอดกันมาจนถึงปัจจุบันนี้  วัลลอฮุอะอ์ลัม


ท่านจะเห็นได้ว่า   ไม่น่าเชื่อที่คนอย่างนายฟารีดจะไม่รู้ว่า  ชีอะฮ์เขามีความเชื่ออย่างไร แต่เนื่องจากนายฟารีดเจตนาโจมตีชีอะฮ์แบบไม่ลืมหูลืมตา  และนี่คือนิสัยทรามของเขานั่นเอง


คำถามสำหรับวาฮาบีอย่างนายฟารีด

ในตำราชีอะฮ์มีหลักฐานใดที่ท่านสามารถนำมายืนยันได้ว่า ชีอะฮ์ไม่เชื่อไม่ศรัทธาต่อ
1.   อัลเลาะฮ์
2.   มลาอิกะฮ์ของพระองค์
3.   บรรดาคัมภีร์ของพระองค์
4.   บรรดารอซูลของพระองค์
5.   วันสิ้นโลก
6.   การศรัทธาต่อการกำหนดสภาวการณ์
หากท่านหาหลักฐานมาแสดงไม่ได้  นั่นแสดงว่า   นายฟารีดคือคนโกหกนั่นเอง
  •  

63 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้