ข่าว:

SMF - Just Installed!

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - L-umar

#21

เราพบเวบไซต์นี้


http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=4408.0


ตั้งหัวข้อเรื่องว่า

ซอฮะบะฮฺท่านหนึ่งได้ทำชิริกตามทัศนะของเชคบินบาซ


เพื่อชี้ให้พี่น้องมุสลิมเห็นว่า    พวกซุนนี่แนววาฮาบี   ชอบตำหนิมุสลิมทั้งโลกว่า  ทำชีรีก ต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา    ไม่เว้นแม้กระทั่ง ซอฮาบะฮ์
#22
ไม่เข้าหมวด / ดุอาอ์หลังนมาซ 5 วาระ
กุมภาพันธ์ 13, 2011, 09:54:06 ก่อนเที่ยง

ดุอาอ์หลังนมาซ  5  วาระ

ศ่อลาต ซุบฮิ


بِسْمِ اللهِ وَصَلَّى اللهُ عَلى مُحَمَّد وآلِهِ وَاُفَوِّضُ اَمْريى اِلَى اللهِ اِنَّ اللهَ بَصيرٌ بِالْعِبادِ فَوَقاهُ اللهُ سَيِّئاتِ ما مَكَرُوا لا اِلهَ إلاّ أَنْتَ سُبْحانَكَ اِنّي كُنْتُ مِنَ الظّالِمينَ فَاسْتَجَبْنا لَهُ وَنَجَّيْناهُ مِنَ الْغَمِّ وَكَذلِكَ نُنْجِي الْمُؤْمِنينَ حَسْبُنَا اللهُ وَنِعْمَ الْوَكيلُ فَاْنَقَلَبُوا بِنِعْمَة مِنَ اللهِ وَفَضْل لَمْ يَمْسَسْهُمْ سُوءٌ ما شاء اللهُ لا حَوْلَ وَلا قُوَّةَ اِلاّ بِالله ما شاءَ اللهُ لا ما شاءَ النّاسُ ما شاءَ اللهُ وَاِنْ كَرِهَ النّاسُ حَسْبِيَ الرَّبُّ مِنَ الْمَرْبُوبينَ حَسْبِيَ الْخالِقُ مِنَ الَْمخْلُوقينَ حَسْبِيَ الرّازِقُ مِنَ الْمَرْزُوقينَ حَسْبِيَ اللهُ رَب الْعالَمينَ حَسْبى مَنْ هُوَ حَسْبي، حَسْبي مَنْ لَمْ يَزَلْ حَسْبي، حَسْبي مَنْ كانَ مُذْ كُنْتُ لَمْ يَزَلْ حَسْبي، حَسْبِيَ اللهُ لااِلهَ اِلاّ هُوَ عَلَيْهِ تَوَكَّلْتُ وَهُوَ رَبُّ الْعَرْشِ الْعَظيمِ .

اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَآلِ مُحَمَّدٍ

ศ่อลาต ซุฮ์ริ

بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ

لا اِلهَ اِلاَّ اللهُ الْعَظيمُ الْحَليمُ لا اِلهَ اِلاَّ اللهُ رَبُّ الْعَرْشِ الْكَريمُ اَلْحَمْدُ للهِِ رَبِّ الْعالَمينَ اَللّهُمَّ اِنّي أَسْأَلُكَ مُوجِباتِ رَحْمَتِكَ وَ عَزائِمَ مَغْفِرَتِكَ وَالْغَنيمَةَ مِنْ كُلِّ بِرٍّ وَالسَّلامَةَ مِنْ كُلِّ اِثْم اَللّهُمَّ لا تَدَعْ لي ذَنْباً اِلاّ غَفَرْتَهُ وَلا هَمّاً اِلاّ فَرَّجْتَهُ وَلا سُقْماً اِلاّ شَفَيْتَهُ وَلا عَيْباً اِلاّ سَتَرْتَهُ وَلا رِزْقاً اِلاّ بَسَطْتَهُ وَلا خَوْفاً اِلاّ امَنْتَهُ وَلا سُوءاً اِلاّ صَرَفْتَهُ وَلا حاجَةً هِيَ لَكَ رِضاً وَلِيَ فيها صَلاحٌ اِلاّ قَضَيْتَها يآ اَرْحَمَ الرّاحِمينَ أمينَ رَبَّ الْعالَمينَ

اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَآلِ مُحَمَّدٍ

ศ่อลาต อัซรี่

بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ

اَسْتَغْفِرُ اللهَ الَّذي لا اِلهَ اِلاّ هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ الرَّحْمنُ الرَّحيمُ ذُو الْجَلالِ وَالاِْكْرامِ وَأَسْأَلُهُ اَنْ يَتُوبَ عَلَيَّ تَوْبَةَ عَبْدٍٍِِ ذَليل خاضِع فَقير بائِس مِسْكين مُسْتَكين مُسْتَجير لا يَمْلِكُ لِنَفْسِهِ نَفْعاً وَلا ضَرّاً وَلا مَوْتاً وَلا حَياةً وَلا نُشُوراً اَللّهُمَّ اِنّي اَعُوذُ بِكَ مِنْ نَفْس لا تَشْبَعُ وَمِنْ قَلْب لا يَخْشَعُ وَمِنْ عِلْمٍ لا يَنْفَعُ وِ مِنْ صلاةٍ لا تُرْفَعُ وَمِنْ دُعآءٍ لا يُسْمَعُ اَللّهُمَّ اِنّي أَسْأَلُكَ الْيُسْرَ بَعْدَ الْعُسْرِ وَالْفَرَجَ بَعْدَ الْكَرْبِ وَالرَّخاءَ بَعْدَ الشِّدَّةِ اَللّهُمَّ ما بِنا مِنْ نِعْمَة فَمِنْكَ لا اِلهَ اِلاّ اَنْتَ اَسْتَغْفِرُكَ وَاَتُوبُ اَلِيْكَ .    

اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَآلِ مُحَمَّدٍ

ศ่อลาต มัฆริบ

بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ

اِنَّ اللهَ وَمَلائِكَتَهُ يُصَلُّون عَلَى النَّبِيِّ يا اَيُّهَا الَّذينَ امَنُوا صَلُّوا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوا تَسْليماً اَللّهُمَّ صَلِّ عَلى مُحَمَّد النَّبِيِّ وَعَلى ذُرِّيَّتِهِ وَعَلى اَهْلِ بَيْتِهِ  
بِسْمِ اللهِ الرَّحْمنِ الرَّحيمِ وَلا حَوْلَ وَلا قُوَّةَ اِلاّ بِاللهِ الْعَلِيِّ الْعَظيمِ  اَلْحَمْدُ للهِِ الَّذي يَفْعَلُ ما يَشاءُ وَلا يَفْعَلُ ما يَشاءُ غَيْرُهُ   سُبْحانَكَ لا اِلهَ اِلاّ اَنْتَ اغْفِرْ لي ذُنُوبي كُلَّها جَميعاً فَاِنَّهُ لا يَغْفِرُ الذُّنُوبَ كُلَّها جَميعاً اِلاّ اَنْتَ . اَللّهُمَّ اِنّي أَسْأَلُكَ مُوجِباتِ رَحْمَتِكَ وَعَزائِمِ مَغْفِرَتِكَ وَالنَّجاةُ مِنَ النّارِ وَمِنْ كُلِّ بِلِيَّة وَالْفَوْزَ بِالْجَنَّةِ وَالرِّضْوانِ في دارِ السَّلامِ وَجَوارِ نَبِيِّكَ مُحَمَّد عَلَيْهِ وَآلِهِ اَلسَّلامُ اَللّهُمَّ ما بِنا مِنْ نِعْمَة فَمِنْكَ لا اِلهَ اِلاّ اَنْتَ اَسْتَغْفِرُكَ وَاَتُوبُ اِلَيْكَ.  

اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَآلِ مُحَمَّدٍ

ศ่อลาต อีซาอ์

بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ

اَللّهُمَّ اِنَّهُ لَيْسَ لي عِلْمٌ بِمَوْضِعِ رِزْقي وَاِنَّما اَطْلُبُهُ بِخَطَراتٍ تَخْطُرُ عَلى قَلْبي فَاَجُولُ فى طَلَبِهِ الْبُلْدانَ فَاَنَا فيما اَنَا طالِبٌ كَالْحَيْرانِ لا اَدْري اَفى سَهْل هَوُ اَمْ في جَبَل اَمْ في اَرْض اَمْ في سَماء اَمْ في بَرٍّ اَمْ في بَحْر وَعَلى يَدَيْ مَنْ وَمِنْ قِبَلِ مَنْ وَقَدْ عَلِمْتُ اَنَّ عِلْمَهُ عِنْدَكَ وَاَسْبابَهُ بِيَدِكَ وَاَنْتَ الَّذي تَقْسِمُهُ بِلُطْفِكَ وَتُسَبِّبُهُ بِرَحْمَتِكَ اَللّهُمَّ فَصَلِّ عَلى مُحَمَّد وَآلِهِ وَاجْعَلْ يا رَبِّ رِزْقَكَ لي واسِعاً وَمَطْلَبَهُ سَهْلاً وَمَأخَذَهُ قَريباً وَلا تُعَنِّني بِطَلَبِ ما لَمْ تُقَدِّرْ لي فيهِ رِزْقاً فَاِنَّكَ غَنِىٌّ عَنْ عَذابي وَاَنَا فَقيرٌ اِلى رَحْمَتِكَ فَصَلِّ عَلى مُحَمَّد وَآلِهِ وَجُدْ عَلى عَبْدِكَ بِفَضْلِكَ اِنَّكَ ذُو فَضْل عَظيم.

اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ وَآلِ مُحَمَّدٍ
#23
หลักฐานเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดมัจลิสอาชูรอ  เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของท่านอิม่ามฮูเซน  อะลัยฮิสสลาม   ที่ค่อนข้างครอบคลุมทุกประเด็นทุกขบวนความนั้น

เราสามารถนำฮะดีษที่มีสายรายงานซอฮิฮ์บทนี้มาอ้างอิงได้  ซึ่งมันถูกบันทึกอยู่ใน


หนังสืออะมาลี  โดยเชคตูซี่   หน้า  161-162  หะดีษที่ 268

เชค อะบู ญะอ์ฟัร อัตตูซี่ย์ รายงาน


روي أبو جعفر محمد بن الحسن (الشيخ)الطوسي : حدثنا محمد بن محمد(بن النعمان اي الشيخ المفيد)، قال حدثنا أبو القاسم جعفر بن محمد بن قولويه ، قال حدثني أبي، قال حدثني سعد بن عبد الله، عن أحمد بن محمد بن عيسى، عن الحسن بن محبوب الزراد، عن أبي محمد الأنصاري( عَبْدُاللَّه بنُ حمّادالأنْصاريُّ)، عن معاوية بن وهب، قال :



كنت جالسا عند جعفر بن محمد (ع) إذ جاء شيخ قد انحنى من الكبر، فقال السلام عليك و رحمة الله و بركاته. فقال له أبو عبد الله و عليك السلام و رحمة الله و بركاته، يا شيخ ادن مني، فدنا منه فقبل يده فبكى، فقال له أبو عبد الله(ع) و ما يبكيك يا شيخ قال له يا ابن رسول الله، أنا مقيم على رجاء منكم منذ نحو من مائة سنة، أقول هذه السنة و هذا الشهر و هذا اليوم، و لا أراه فيكم، فتلومني أن أبكي قال فبكى أبو عبد الله (ع) ثم قال يا شيخ، إن أخرت منيتك كنت معنا، و إن عجلت كنت يوم القيامة مع ثقل رسول الله (ص). فقال الشيخ ما أبالي ما فاتني بعد هذا يا ابن رسول الله. فقال له أبو عبد الله (ع) يا شيخ، إن رسول الله (ص) قال إني تارك فيكم الثقلين ما إن تمسكتم بهما لن تضلوا كتاب الله المنزل، و عترتي أهل بيتي، تجي ء و أنت معنا يوم القيامة. قال يا شيخ، ما أحسبك من أهل الكوفة. قال لا. قال فمن أين أنت قال من سوادها جعلت فداك. قال أين أنت من قبر جدي المظلوم الحسين (ع) قال إني لقريب منه. قال كيف إتيانك له قال إني لآتيه و أكثر. قال يا شيخ، ذاك دم يطلب الله (تعالي) به، ما أصيب ولد فاطمة و لا يصابون بمثل الحسين (ع) و لقد قتل (ع) في سبعة عشر من أهل بيته، نصحوا لله و صبروا في جنب الله، فجزاهم أحسن جزاء الصابرين، إنه إذا كان يوم القيامة أقبل رسول الله (ص) و معه الحسين (ع) و يده على رأسه يقطر دما فيقول يا رب، سل أمتي فيم قتلوا ولدي. و قال (ع) :  كُلُّ الْجَزَعِ وَ الْبُكاءِ مَكْرُوهٌ سِوَى الْجَزَعُ وَ الْبُكاءُ عَلَى الحُسَينِ (ع)




คำแปล

อะบูญะอ์ฟัร  มุฮัมมัด บินฮาซัน อัตตูซี่ย์รายงาน
มุฮัมมัด บินมุฮัมมัด บินนุอ์มาน( คือเชคมุฟีด)ได้เล่าให้เราฟัง เขากล่าวว่า  
อะบุลกอซิม ญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด  บินกูละวัยฮฺ ได้เล่าให้เราฟัง เขากล่าวว่า  
บิดาของฉันได้เล่าให้ฉันฟัง เขาเล่าว่า
สะอัด บินอับดุลลอฮ์เล่าให้ฉันฟัง  จาก
อะหมัด บินมุฮัมมัด บินอีซา(อัลอัชอะรี อัลกุมมี )  จาก
ฮาซัน บินมะห์บูบ อัสสัรรอด จาก
อะบี มุฮัมมัด อัลอันซอรีย์ (คืออับดุลลอฮ์ บินฮัมมาด อัลอันซอรีย์)  จาก

มุอาวียะฮ์ บินวะฮับเล่าว่า :

ฉันนั่งอยู่กับท่านอิม่ามญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด(อ)  ทันใดนั้นได้มีชายชราหลังโค้งงอเพราะความชราภาพมากคนหนึ่งเข้ามาหา   เขาได้ให้สลามว่า  ขอสันติ ความเมตตาและบะร่อกัตจงมีแด่ท่านอิม่าม ท่านอิม่ามญะอ์ฟัรได้ตอบรับสลามแก่เขาว่า    ขอสันติ ความเมตตาและบะร่อกัตจงมีแด่ท่าน  โอ้คุณตาโปรดเข้ามาใกล้ๆฉันเถิด  ชายชราได้เข้ามาใกล้ท่านอิม่ามแล้วจูบมือท่านพลางร่ำไห้ออกมา

อิม่ามญะอ์ฟัร(อ)ได้กล่าวกับเขาว่า  โอ้คุณตา อะไรทำให้ท่านร้องไห้หรือ ?  

ชายชราได้กล่าวว่า   โอ้บุตรหลานของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)   ฉันได้ดำรงชีวิตอยู่บนความหวัง จากพวกท่านนับตั้งแต่ร้อยปีมาแล้ว โดยฉันได้เฝ้ารำพันว่า (มันคือ) ปีนี้  เดือนนี้ และวันนี้ (หมายถึงเดือนมุฮัรรอมและวันอาชูรอ) และฉันก็ไม่เห็นมัน(การแสดงการไว้อาลัยให้กับมุซีบัตของอิม่ามฮูเซนได้ปรากฏขึ้น)ในหมูพวกท่านเลย

แล้วท่านจะตำหนิฉันไหม ถ้าฉันจะร้องไห้(ให้กับอิม่ามฮูเซน) ?
มุอาวียะฮ์ บินวะฮับเล่าว่า :  อิม่ามญะอ์ฟัร(อ)ถึงกับร่ำไห้ออกมา แล้วกล่าวว่า   โอ้คุณตา  หากท่านยังมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยความหวังของท่าน(แบบนี้) ท่านก็จะอยู่กับพวกเรา(หมายถึงเป็นพวกของเรา) และหากท่ารนด่วนจากไปเสียก่อนในวันกิยามัต ท่านก็จะได้ไปอยู่กับสิ่งหนักของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)

ชายชราได้กล่าวว่า   ฉันจะไม่สนใจสิ่งที่จะต้องสูญเสียหลังจากนี้อีกแล้วโอ้บุตรหลานของท่านรอซูลุลลอฮ์

อิม่ามญะอ์ฟัร(อ)ได้กล่าวกับเขาว่า  โอ้คุณตาครับ  

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้กล่าวว่า  แท้จริงฉันได้มอบสิ่งหนักสองสิ่งไว้ในหมู่พวกท่าน  ซึ่งหากพวกท่านยึดมั่นต่อสองสิ่งนี้ไว้ พวกท่านก็จะไม่หลงทางอย่างเด็ดขาดคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ์ที่ถูกประทานลงมา และอิตเราะฮ์คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  ท่านจะได้มาพร้อมกับพวกเราในวันกิยามัต

ท่านอิม่ามกล่าวว่า   ฉันคิดว่า ท่านคงไม่ใช่ชาวเมืองกูฟะฮ์  
เขาตอบว่า  ไม่ใช่

ท่านอิม่ามถามว่า แล้วท่านมาจากที่ไหน ?

เขาตอบว่า  จากรอบนอกของเมืองกูฟะฮ์ครับ

ท่านอิม่ามกล่าวว่า  ที่ไหน  ท่านอยู่ห่างจากสุสานของท่านปู่ฮุเซนของฉัน ผู้ถูกกดขี่แค่ไหน ?

เขาตอบว่า  ฉันอยู่ใกล้ๆกับที่นั่นครับ

ท่านอิม่ามถามว่า  แล้วท่านไปหา(เยี่ยมสุสาน)ท่านอิม่ามฮุเซนอย่างไร

เขากล่าวว่า  ไปสิ  ฉันไปเยี่ยม(สุสาน)นั้นบ่อยมาก

ท่านอิม่ามกล่าวว่า  โอ้คุณตา  เลือดนั้น(หมายการสังหารอิม่ามฮูเซน)คือสิ่งที่อัลเลาะฮ์ ตะอาลาจะสอบถามถึงมัน ในสิ่งที่ได้มาประสบกับบุตรชายของท่านหญิงฟาติมะฮ์(อ)ซึ่งพวกเขาไม่เคยมีใครได้ประสบเยี่ยงที่อิม่ามฮูเซน(อ)ได้ประสบ

แน่นอนเขา(อิม่ามฮูเซน)กับครอบครัวของเขาอีกสิบเจ็ดชีวิตได้ถูกสังหาร  (เพียงเพราะ)พวกเขาได้(ทำหน้าที่)สั่งสอนตักเตือน(ผู้คน)เพื่ออัลลอฮ์ และพวกเขาก็ได้อดทนอยู่เคียงข้างอัลลอฮ์
ดังนั้นพระองค์จึงทรงตอบแทนอย่างดีงามที่สุดแก่พวกเขา อันเป็นการตอบแทนรางวัลสำหรับบรรดาผู้อดทน

แท้จริงเมื่อวันกิยามัตมาถึง   ท่านรอซูลุลลอฮ์(ส)จะมุ่งหน้ามาหา โดยมีท่านฮุเซนมาพร้อมกับท่าน  โดยมือของท่านรอซูลฯ(ศ)จะวางอยู่บนศรีษะของท่านมีโลหิตไหลออกมา แล้วท่าน(ศ)จะร้องทุกข์ว่า
โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน   โปรดสอบถามประชาชาติของฉันด้วยเถิดว่า  เหตุใดใยพวกเขาจึงต้องลงมือสังหารหลานชายของฉัน ?

แล้วท่านอิม่าม(ญะอ์ฟัร อ.) ได้กล่าวว่า

كُلُّ الْجَزَعِ وَ الْبُكاءِ مَكْرُوهٌ سِوَى الْجَزَعُ وَ الْبُكاءُ عَلَى الحُسَينِ (ع)


ทุกๆการแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและการร้องไห้(นั้นอิสลามถือว่า) เป็นมักโร๊ะฮ์ ( น่ารังเกียจไม่ส่งเสริมให้กระทำ)

ยกเว้น การแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและการร้องไห้ให้กับท่านอิม่ามฮูเซน (ซึ่งอิสลามถือว่าเป็นมุสตะฮับที่ส่งเสริมให้กระทำ)



อ้างอิงจากหนังสือ

อัลอะมาลี  เชคตูซี่   หน้า  161-162  หะดีษที่ 268

สถานะหะดีษ  : ซอแฮะฮ์



تَخْريجُ الحديث :
كل جزع مكروه سوى الجزع والبكاء على الحسين (عليه السلام)
ما رأيكم في رواية معاوية بن وهب عن الصادق (عليه السلام) كل الجزع والبكاء مكروه سوى الجزع والبكاء على الحسين (عليه السلام) ، سنداً ودلالة؟
بسمه تعالى; هي تامة دلالةً وصحيحة سنداً، واللّه العالم.
الأنوار الإلهية في المسائل العقائدية - (ج 20 / ص 3)
آية الله العظمى الميرزا جواد التبريزي


อ่านการวิจารณ์สายรายงานหะดีษนี้ได้ที่เวบ

http://www.bahrainforums.com/showpost.php?p=8724792&postcount=216
#24
ฮะดีษฆอดีร ซอแฮะฮ์

จากตำรา ซุนนี่  และ ชีอะฮ์
#25
ไม่เข้าหมวด / สถานการณ์โลก ตอนที่ 1
พฤศจิกายน 06, 2010, 02:34:27 หลังเที่ยง

สถานการณ์โลก ตอนที่ 1


โดย ฮุจญะตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี


เรื่องของ สถานการณ์โลกอิสลามในช่วงเวลานี้นั้น แน่นอนมีหลายๆสถานการณ์เกิดขึ้นอย่างมากมาย แต่สถานการณ์ที่สำคัญและร้อนที่สุดในโลกตะวันตกและอิสลามขณะนี้ ซึ่งมีความจำเป็นต้องทราบและติดตามอย่างใกล้ชิด ต้องเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในทุกๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือสถานการณ์หนึ่งสิ่งที่จะนำไปสู่เหตุการณ์อีกหลายๆเหตุการณ์ของโลก ก็คือสถานการณ์ของแนวทางชีอะห์ในยุคปัจจุบัน อาจจะกล่าวได้ว่าในสถานการณ์ยุคปัจจุบัน ชีอะห์ทั่วโลกกำลังอยู่ท่ามกลางอันตรายที่สุด

เนื่องจากการร่วมมือ กันของบรรดาพันธมิตรทั้งศัตรูคู่สงคราม และมุสลิมผู้กลับกลอกลัทธิวะฮาบีย์ได้รวมตัวกัน บุคคลเหล่านี้ซึ่งประกาศตัวเป็นศัตรูกับอะห์ลุลบัยต์ (อ.) อย่างชัดแจ้ง ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะหาทางหยุดการแพร่ขยายของแนวทางชี อะห์อิมามิยะห์ทั่วโลก ที่กำลังแพร่ขยายอย่างรวดเร็วไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก และที่น่าหวาดกลัวที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือ การแพร่ขยายในแถบประเทศอาหรับต่างๆ อย่างมาก ณ วันนี้ เหตุผลสำคัญที่ทำให้แนวทางแห่งอะห์ลุลบัยต์ (อ.) เป็นแนวทางที่ทำให้พี่น้องชาวอาหรับในประเทศต่างๆเริ่มเข้ามาน้อมรับ คือการได้รับชัยชนะของฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอนเหนือรัฐเถื่อนอิสราเอลในสงคราม 33 วัน


หลังจากการได้รับ ชัยชนะของฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ทำให้ชาวอาหรับมากมายที่ยังมีอุดมการณ์ที่พวกเขาเห็นพี่น้องชาวปาเลสไตน์ พี่น้องอาหรับของพวกเขาถูกกดขี่มาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แต่ยังไม่มีประเทศอาหรับชาติหนึ่งชาติใดที่สามารถจัดการกับอิสราเอลได้เลย ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งนำไปสู่ความเชื่อที่ว่าอาหรับจะไม่มีวันที่จะมีชัยเหนืออิสราเอล ได้อีกแล้ว ทั้งๆที่ว่าอิสราเอลนั้นเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในตะวันออกกลาง ประชากรของอิสราเอลเมื่อเทียบกับชาติอาหรับถือว่าน้อยเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ชาติอาหรับมีประชากรจำนวนมากมีกองทัพมากมาย

แต่ไม่มีศักยาภาพพอที่ จะต่อกรกับอิสราเอลได้ซึ่งสภาพเช่นนี้ได้ทำให้เหล่าชนชาติอาหรับเบื่อหน่าย ต่อปัญหาปาเลสไตน์ อันความเป็นจริงแล้วปัญหาปาเลสไตน์สำหรับชาติอาหรับนั้นสำคัญอย่างมากที่พวก เขาต้องรับผิดชอบ เหตุผลแรกที่เขาต้องรับผิดชอบในฐานะที่พวกเขาคือชนชาติอาหรับ และอีกประการคือชาวปาเลสไตน์เป็นพี่น้องมุสลิมของพวกเขา ดังนั้นด้วยเหตุผลสองประการนี้ชาติอาหรับต่างๆไม่สามารถที่จะปัดความ รับผิดชอบปัญหาของชาวปาเลสไตน์ได้ แต่ทว่าภาพที่ถูกสร้างมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก่อนหน้าสงคราม 33 วันนั้น ได้ทำให้ขวัญและกำลังใจของชนชาติอาหรับหมดสิ้น ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับอิสราเอล เนื่องจากบทเรียนที่ได้มาจากสงคราม 6 วัน (Six-Day War) ที่อิสราเอลมีชัยเหนือชาติอาหรับอย่างราบคาบเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้ว

สงครามที่อิสราเอลใน วันนั้นเพิ่งจะก่อร่างสร้างประเทศขึ้นมากองทัพก็ไม่ได้มีมากมายแต่สามารถรบ ชนะชาติอาหรับใหญ่ๆหลายชาติได้อย่างราบคาบ ซึ่งในวันนั้นมีประเทศอาหรับหลักๆคือ อียิป ซีเรีย จอร์แดน และเลบานอน แต่แค่ภายในเวลา 6 วัน อิสราเอลสามารถยึดครองคาบสมุทรซีนาย ฉนวนกาซา ดินแดนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนหรือเวสต์แบงก์ และเขตที่ สูงโกลันได้ ซึ่งทั้งหมดนี้รวมเรียกว่าเขตยึดครอง (Occupied Territories) นั่นคือฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนชนชาติอาหรับทั้งมวลมาตลอด แต่เป็นฝันกำลังใจของอิสราเอลและชาติตะวันตก อิสราเอลและชาติตะวันตกจึงใช้บทเรียนสงคราม 6 วันนั้น เป็นผีหลอกผู้นำชาติอาหรับและชนชาติอาหรับมาตลอดเวลา จนกระทั่งมาถึงสงคราม 33 วันระหว่างฮิซบุลลอฮและอิสราเอลจนทำให้อิสราเอลนั้นพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เป็นชัยชนะที่ไม่มีใครคาดคิดและคาดฝันมาก่อนทั้งอาหรับและไม่ใช่อาหรับ

ชนชาติอาหรับช๊อคกับ ชัยชะในครั้งนี้ของฮิซบุลลอฮ์ เนื่องจากว่าฮิซบุลลอฮ์เป็นเพียงกองกำลังเล็กๆกองกำลังหนึ่งเท่านั้นเอง ฮิซบุลลอฮเป็นแค่ส่วนหนึ่งของประชากรประเทศเลบานอน ซึ่งประเทศเลบานอนก็เป็นประเทศที่ยากจนประเทศหนึ่งเนื่องจากต้องประสพกับ ปัญหาสงครามกลางเมืองมาตลอด และฮิซบุลลอฮก็เป็นแค่กองกำลังกลุ่มหนึ่งของประเทศเลบานอนแต่สามารถมีชัย เหนือกองกำลังอิสราเอลที่เป็นหนึ่งในบรรดามหาอำนาจโลก

ดังนั้นชัยชนะครั้งนี้ ของฮิซบุลลอฮ์จึงเรียกขวัญและกำลังใจของชนชาติอาหรับกลับคืนมาอีกครั้ง ทำให้ชนชาติอาหรับรู้ว่าเราสามารถมีชัยเหนืออิสราเอลได้เหมือนกัน ชัยชนะครั้งนี้ได้ทำให้ฮิซบุลลอฮกลายเป็นฮีโร่และเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่ว ทั้งโลกโดยเฉพาะในชนชาติอาหรับ แต่ที่สำคัญกว่านั้น นั่นก็คือ \\\"ฮิซบุลลอฮ์คือขบวนการของชีอะห์\\\" และนั่นเป็นบทพิสูจน์ให้ชนชาติอาหรับเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่สุดว่า \\\"ฮิซบุลลอฮ์สามารถพิชิตอิสราเอลได้เพราะพวกเขาอยู่ในแนวทางชีอะห์\\\" จนทำให้ชนชาติอาหรับทั้งหมดและชาวโลกเริ่มศึกษาแนวทางชีอะห์

รายงานล่าสุดตอนนี้ใน โลกอาหรับกำลังปั่นป่วนอย่างมากที่สุดในทุกระดับชนชั้นต่อการเริ่มศึกษา แนวทางชีอะห์ตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับนักการเมืองระดับสูง ซึ่งขณะนี้นั้นผู้นำประเทศอิยิปได้สั่งจำคุกที่ปรึกษาของเขาหลายคนเพราะ ที่ปรึกษาเหล่านั้นเข้าสู่แนวทางชีอะห์ เรื่องราวแบบนี้ได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศอาหรับหลายประเทศ บุตรชายของเชคยุซุฟ ก๊อรฏอวี ซึ่งเป็นอุลามะอ์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของพี่น้องสุนนี่ที่เป็นที่ยอมรับของโลก มุสลิมเกือบทั้งโลก ได้ประกาศตัวว่าเขาเข้ารับแนวทางชีอะห์อิมามิยะห์แล้ว จนเป็นเหตุให้ เชคยูซุฟ ก๊อรฏอวี ซึ่งไม่เคยต่อต้านชีอะห์มาเลยก่อนหน้านี้ และเวลานี้เขากำลังต่อต้านชีอะห์อย่างรุนแรงแล้วเนื่องจากว่าไม่พอใจที่ลูก ชายของเขาเข้ารับแนวทางชีอะห์

และรายงานล่าสุดตอนนี้ บรรดาอุลามาอ์ระดับแนวหน้าของวะฮาบีย์ในประเทศซาอุดิอาราเบียซึ่งเหมือนจะ เป็นศรัตรูถาวรของชีอะห์ แต่เมื่อฮิซบุลลอฮ์ซึ่งเป็นชีอะห์มีชัยนะเหนืออิสราเอล ทำให้บรรดาอุลามาอ์ระดับแนวหน้าเหล่านั้นเริ่มกลับมาศึกษาแนวทางชีอะห์และ หลายคนประกาศตัวเข้ารับแนวทางชีอะห์แล้ว จนต้องถูกจองจำในคุกและกักบริเวณแต่ข่าวถูกปกปิดเอาไว้ นี่คือกระแสทางด้านบวกที่เกิดขึ้นตามแนวทางอะฮ์ลุลบัยต์


#26


วาฮาบีกับวิธีการใส่ร้ายป้ายสีชีอะฮ์  สุดยอด


http://www.muslimthai.com/mnet/content.php?bNo=43&qNo=4882&kword=
#28
สนทนาเรื่อง      ประโยชน์ในช่วงการไม่ปรากฏตัวของอิม่ามอัลมะฮ์ดี  คืออะไร  ?
#29
สนทนาเรื่อง ประวัติที่มาของอะฮ์ลุสซุนนะฮ์และชีอะฮ์
#30
สนทนาเรื่อง  หลักการฮุก่มมุสลิมเป็นกาเฟ็ร ตามทัศนะซุนนี่และชีอะฮ์
#31
สนทนาเรื่อง คอลีฟะฮ์(ผู้นำ)ในทัศนะซุนนี่และชีอะฮ์
#32
สนทนาเรื่อง คัมภีร์กุรอ่าน   ในทัศนะซุนนี่และชีอะฮ์
#33
สนทนาเรื่อง ซอฮาบะฮ์ ในทัศนะซุนนี่และชีอะฮ์
#34
สนทนาแลกเปลี่ยน  อะกีดะฮ์ซุนนี่และชีอะฮ์
#35
อิม่ามมะฮ์ดีคือผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากอิม่ามฮูเซน  บุตรอิม่ามอาลี (อ)


หลักฐานความเชื่อของชีอะฮ์ในเรื่องนีคือ




رَوَاهُ الشَّيْخُ عَلِيُّ بْنُ الْحُسَيْنِ بْنِ باَبَوَيْه الْقُمِّيُّ (المتوفي 329 هـ) وَالِدُ الشَّيْخِ الصَّدُوْقِ :

سَعْدُ بْنُ عَبْدِ اللهِ قاَلَ : حَدَّثَناَ يَعْقُوبُ بْنُ يَزِيْدَ، عَنْ حَمَّادِ بْنِ عِيسَى عَنْ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ مُسْكاَنَ، عَنْ أَبَانَ بْنِ تَغْلِبَ ، عَنْ سُلَيْمِ بْنِ قَيْسٍ الْهِلاَلِيِّ، عَنْ سَلْمَانَ الْفَارِسِىِّ رَضِىَ اللَّهُ عَنْهُ قَالَ : دَخَلْتُ عَلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَآلِهِ ، فَإِذا الْحُسَيْنُ بْنُ عَلِيٍّ عَلَى فَخِذِهِ، وَهُوَ يُقَبِّلُ عَيْنَيْهِ وَيَلْثِمُ فاَهُ، وَيَقُوْلُ : أَنْتَ سَيِّدٌ اِبْنُ سَيِّدٍ، أَنْتَ إِماَمٌ اِبْنُ إِماَمٍ أَبُوْأَئِمَّةٍ، أَنْتَ حُجَّةُ اللهِ اِبْنُ حُجَّتِهِ، وَأَبُوْحُجَجٍ تِسْعَةُ مِنْ صُلْبِكَ، تاَسِعُهُمْ قاَئِمُهُمْ

كِتاَب : الْإِماَمَةُ وَالتَّبْصِرَةُ مِنَ الْحَيْرَةِ   ص 111  ح 96
باَبُ : 29  أنَّ الْمَهْدِيَّ مِنْ وَلَدِ الْحُسَيْنِ عَلَيْهِ السَّلاَمٌ
لِواَلِدِ الصَّدُوْقِ الشيخُ عَلِيُّ بْنُ الحسين بن باَبَوَيْه القمي (المتوفي 329 هـ)


เชคอาลี บินอัลฮูเซน บินบาบะวัยฮฺ  อัลกุมมี (มรณะฮ.ศ. 329) คือบิดาเชคศอดูก รายงานว่า

สะอัด บินอับดุลลอฮ์กล่าวว่า  : ยะอ์กูบ บินยาซีด เล่าให้เราฟัง  จากฮัมมาด บินอีซา จากอับดุลลอฮ์ บินมุสกาน  จากอะบาน บินตัฆลิบ  จากสุลัยม์ บินก็อยส์  จาก

ท่านซัลมานอัลฟาริซี (รฎ.)เล่าว่า :



ฉันได้เข้ามาหาท่านนะบี(ศ) แล้วมีท่านฮูเซน บินอาลีอยู่บนตักของท่าน  ขณะนั้นท่านกำลังจูบดวงตาทั้งสองของเขาและจูบปากของเขาและท่านกล่าว(กับหลาน)ว่า  :

เจ้าคือสัยยิด บุตรของสัยยิด

เจ้าคืออิม่ามผู้นำ  บุตรของอิม่ามผู้นำ  คือบิดาของบรรดาอิม่าม

เจ้าคือฮุจญะฮ์(หลักฐาน)ของอัลลอฮ์  คือบุตรของฮุจญะฮ์ของพระองค์
และคือบิดาของบรรดาฮุจญะฮ์ทั้งเก้าคนที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้า
 

คนที่เก้าของพวกเขาคือ กออิม(ฉายาของอัลมะฮ์ดี)ของพวกเขา


อ้างอิงจากหนังสือ อัลอิมามะฮ์ วัตตับศิเราะฮ์  หน้า  1111 หะดีษที่  96
บาบที่  29  เรื่องอัลมะฮ์ดีนั้นมาจากบุตรของอิม่ามฮูเซน (อ)
โดยเชคอาลี บินอัลฮูเซน บินบาบะวัยฮฺ  อัลกุมมี (มรณะฮ.ศ. 329) บิดาของเชคศอดูก




۩  พิเคราะห์สะนัด

เชคอาลี บินอัลฮูเซน บินบาบะวัยฮฺ  อัลกุมมี (มรณะฮ.ศ. 329) เขาคือบิดาเชคศอดูก

الشيخ علي بن الحسين بن بابويه القمي(ت329) والد الشيخ الصدوق
علي بن الحسين بن موسى بن بابويه القمي شيخ القميين في عصره، ومتقدمهم، وفقيههم، وثقتهم
رجال النجاشي  رقم : 684
علي بن الحسين بن موسى بن بابويه القمي، يكنى أبا الحسن، ثقة،
رجال الشيخ الطوسي  رقم 6191
สะอัด บินอับดุลลอฮ์


سعد بن عبد اللّه القمّي (المتوفى 299 أو 301هـ)
سعد بن عبد الله القمي جليل القدر، واسع الأخبار، كثير التصانيف، ثقة،
الفهرست للطوسي  رقم : 306
سعد بن عبد الله بن أبي خلف الأشعري القمي أبو القاسم شيخ هذه الطائفة وفقيهها ووجهها. كان سمع من حديث العامة شيئا كثيرا
رجال النجاشي  رقم : 467
سعد بن عبد الله بن ابي خلف الاشعري القمي، يكنى ابا القاسم. جليل القدر، واسع الاخبار، كثير التصانيف، ثقة،
خلاصة الاقوال للعلامة الحلي  ج 1 ص 145  رقم 3

ยะอ์กูบ บินยาซีด
يعقوب بن يزيد
يعقوب بن يزيد الكاتب  يزيد أبوه ثقتان.
رجال الشيخ الطوسي رقم : 5488
يعقوب بن يزيد بن حماد الأنباري السلمي روى عن أبي جعفر الثاني عليه السلام، وانتقل إلى بغداد، وكان ثقة صدوقا
رجال النجاشي  رقم : 1215
يعقوب بن يزيد بن حماد الانباري السلمي ثقة صدوقا
رجال ابن داود  رقم : 1735
ฮัมมาด บินอีซา
حماد بن عيسى (قبل 119 ـ 209 هـ )
حماد بن عيسى الجهني بصري، له كتب، ثقة.
رجال الشيخ الطوسي رقم : 4970

حماد بن عيسى أبو محمد الجهني
روى عن أبي عبد الله عليه السلام عشرين حديثا وأبي الحسن والرضا عليهما السلام، ومات في حياة أبي جعفر الثاني عليه السلام،  ثقة في حديثه صدوقا
رجال النجاشي  رقم : 370

อับดุลลอฮ์  บินมุสกาน  
عبدالله بن مسكان (ت قبل 183 هـ)
عبد الله بن مسكان ثقة، عين، روى عن أبي الحسن موسى عليه السلام
رجال النجاشي  رقم : 559
عبد الله بن مسكان - بالميم المضمومة، والسين الساكنة المهملة، والنون بعد الالف - أبو محمد، مولى عنزة، ثقة عين،
خلاصة الاقوال  للعلامة الحلي  ج 1 ص 181 رقم 22
عبدالله بن مسكان أبو محمد فقيه عين معظم من الستة الذين أجمعت العصابة على تصديقهم وثقتهم
رجال ابن داود رقم : 907

อะบาน บินตัฆลิบ  
أبانُ بنُ تَغْلِب (المتوفي  141 هـ)
أبان بن تغلب بن رباح
أبو سعيد البكري الجريري مولى بني جرير بن عباد بن ضبيعة بن قيس بن ثعلبة بن عكاشة بن صعب بن علي بن بكر بن وائل، ثقة جليل القدر عظيم المنزلة في أصحابنا لقي أبا محمد علي بن الحسين و أبا جعفر و أبا عبد الله عليهم السلام و روى عنهم،
الفهرست للطوسي  رقم : 51

أبان بن تغلب : ثقة جليل القدر سيد عصره وفقيهه
رجال ابن داود  رقم : 4
أبان بن تغلب بن رباح : عظيم المنزلة في أصحابنا، لقي علي بن الحسين وأبا جعفر وأبا عبد الله عليهم السلام، روى عنهم،
رجال النجاشي  رقم : 7
ابان بن تغلب ثقة جليل القدر عظيم الشأن في اصحابنا،
خلاصة الاقوال للعلامة الحلي  ج 5 ص 16 رقم 1

สุลัยม์ บินก็อยส์  
سُلَيْمُ بنُ قَيْسٍ الْهِلاَلِيُّ (وَلِدَ سنة  2 قبل الهجرة ـ المتوفي 76 هـ )

قال أحمد بن محمد بن خالد البرقي (المتوفّى274هـ) :
و من أصحاب أمير المؤمنين عليه السلام : سليم بن قيس الهلالي
رجال البرقي  ج 1  ص 2

قال العلامة الحلي  :  والوجه عندي: الحكم بتعديل المشار اليه( اي سليم بن قيس الهلالي)
خلاصة الاقوال للعلامة الحلي  ج 16 ص 5 رقم 1

قال العلامة السيد الخوانساري في روضات الجنات: (قد كان من قدماء علماء أهل البيت عليهم السلام وكبراء أصحابهم
روضات الجنات: ج 4 ص 65، 73

قال السيد محسن الأمين العاملي في أعيان الشيعة: (إن المترجم (أي سليم)...
أعيان الشيعة: ج 35 ص 293
يكفي فيه عد البرقي إياه من أولياء أمير المؤمنين عليه السلام،

قال العلامة المامقاني في تنقيح المقال: (هو من الأولياء المتنسكين والعلماء المشهورين بين العامة والخاصة، وظاهر أهل الرجال أنه ثقة معتمد عليه، وقد يطمئن بوثاقة الرجل من عد الشيخ في باب أصحاب السجاد عليه السلام إياه صاحب أمير المؤمنين عليه السلام وجعله إياه من أوليائه وغير ذلك مما لا يخفى على أهل الفن)  
تنقيح المقال: ج 2 ص 54

قال المحقق الخبير السيد حسن الصدر في كتابه (تأسيس الشيعة لعلوم الإسلام): سليم ابن قيس الهلالي التابعي صاحب علي عليه السلام والملازم له وللحسنين عليهما السلام المنقطع إليهم. أول من كتب الحوادث الكائنة بعد وفاة رسول الله صلى الله عليه وآله، ثقة صدوق متكلم فقيه كثير السماع)
تأسيس الشيعة لعلوم الإسلام: ص 282، 357

قال السيد الخوئي : الاولى أن سليم بن قيس في نفسه ثقة جليل القدر عظيم الشأن
ويكفى في ذلك شهادة البرقي بانه من الاولياء من أصحاب أميرالمؤمنين عليه
معجم رجال الحديث  للسيد الخوئي  ج 9  ص 156  رقم  : 5401


รายงานจากท่านซัลมานอัลฟาริซี (รฎ.) คือซอฮาบะฮ์ของท่านรอซูลุลเลาะฮ์(ศ
)
#36
การสนทนาเรื่อง    -   บิดาของอิม่ามมะฮ์ดีชื่อ    อับดุลลอฮ์  หรือ  ฮาซันอัสการี   ???



ประการแรก


เพื่อประโยชน์ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้  เราอยากให้คุณฟารูกช่วยนำเสนอหลักฐานที่ระบุว่า    บิดาของอิม่ามมะฮ์ดีมีชื่อว่า    อับดุลเลาะฮ์    ด้วยหลักฐานที่ซอแฮะฮ์



ประการที่สอง


เราอยากให้คุณฟารูกช่วยกรุรากล่าวถึงรายละเอียดสักนิด  เกี่ยวกับ  อะฮ์ลุลบัยต์นะบีที่ชื่อ  อับดุลลอฮ์ ที่คุณเชื่อว่า  เขาคือ บิดาของอัลมะฮ์ดี เช่น   เขาคนเมืองอะไร   เป็นต้น...          


 
#37
สืบเนื่องมาจากบทความที่  คุณฟารูก ได้โพสต์เข้ามาดังนี้



ก็อบเค้ามาครับ

ผู้เล่าหะดีษได้กล่าวว่า เขาเคยได้ยินท่านอาลีได้กล่าวว่า "เราเป็นพระเนตรของอัลลอฮ เป็นพระหัตถ์ของพระองค์ เป็นพระวรกายทางด้านสีข้างของพระองค์ และเป็นทางผ่านไปสู่พระองค์" จากหนังสือ อุศูล อัล-กาฟีย์ หน้า 309
#38
นักปราชญ์ซุนนี่ชื่อ    เชคมุฮัมมัด   อามีน  



เวบไซต์ของเชคมุฮัมมัดอามีน


http://www.ibnamin.com/


เชคมุฮัมมัดอามีนได้แต่งตำราเล่มหนึ่งให้ชื่อว่า    ((  ดออีฟุล บุคอรีย์  วัลมุสลิม  ))


ซึ่งเป็นตำราวิจัยว่า    หนังสือซอแฮะฮ์บุคอรีและมุสลิม  มีหะดีษดออีฟมากมาย



ท่านสามารถอ่านตำราเล่มนี้ได้ จากเวบ


http://www.ibnamin.com/daef_bukhari_muslim.htm
#40
อื่น ๆ / เรื่องราวของบาดหลวง เข้ารับ อิสลาม
มิถุนายน 24, 2010, 05:44:57 หลังเที่ยง
เรื่อง การเข้ารับอิสลามของบาทหลวงคริสต์


เรื่องราวของบาทหลวงคาทอลิกชาวอาร์มีเนียคนหนึ่งได้เข้ารับอิสลาม เพราะการศึกษาค้นคว้าจนพบสัจธรรม  ซึ่งเขามีนามหลังจากเขารับอิสลามว่า

เชค มุฮัมมัด ศอดิก  ฟัครุลอิสลาม  มรณะปี ฮ.ศ. 1330

บาดหลวงผู้นี้คือเจ้าหนังสือชื่อ    أَنِيْسُ الْأَعْلاَمِ فِيْ نُصْرَةِ الْاِسْلاَمِ

อะนีซุลอะอ์ลาม ฟีนุศเราะติลอิสลาม

เขาได้บอกเล่าในบทแรกของหนังสือเล่มนี้ถึงเรื่องราวการเข้ารับอิสลามของเขา ภายใต้หัวข้อชื่อ   " บั้นปลายชีวิตที่สับสน " ดังนี้