Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

มีนาคม 29, 2024, 06:00:10 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,519
  • หัวข้อทั้งหมด: 647
  • Online today: 82
  • Online ever: 82
  • (วันนี้ เวลา 05:37:34 ก่อนเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 46
Total: 46

หลักฐานที่พิสูจน์ว่า พวกชีอะฮ์ ตะห์รีฟ อัลกุรอ่าน

เริ่มโดย L-umar, มิถุนายน 11, 2010, 05:04:04 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar

เราได้พบเจอทั้งวาฮาบี และอะชาอิเราะฮ์ชวนกันรุมประณามชีอะฮ์ในเวบของพวกเขาอย่างเมามันว่า


พวกชีอะฮ์เชื่อว่า  คัมภีร์กุรอ่านฉบับนี้  ถูกตัดทอน หรือ ถูกเพิ่มเติมเข้าไป  ซึ่งภาอาหรับว่า  การตะห์รีฟ



พวกเขายังได้หยิบยกตำราต่างๆออกมาแสดงว่า  ชีอะฮ์เชื่อแบบนั้นจริงๆ    


อนึ่งตำราที่พวกเขาหยิบยกมาแสดง  ถ้าเป็นหะดีษ  พวกเขาก็ไม่เคยไปตรวจสอบค้นคว้าดูเสียก่อนว่า  หะดีษชีอะฮ์ดังกล่าวนั้น  

ซอฮิ๊ฮ์ หรือ ดออีฟ   สักแต่ว่ายกมาอ้างเท่านั้น แล้วก็บังคับให้ชีอะฮ์ยอมรับไปโดยปริยายว่า มันถูกต้อง


หรือไม่พวกเขาก็ชอบอ้างตำราชื่อฟัศลุลคิตอบของเชคนูรี  เรื่องซูเราะฮ์อัลวิลายะฮ์  อะไรทำนองนั้นออกมาแสดง


การกระทำเหล่านี้ได้ส่อแสดงถึงความโง่ออกมาอย่างไม่รู้ตัว  และแถมยังเป็นการชี้โพรงให้กระรอกเห็นอีกด้วย

กล่าวคือ   เรามุสลิมทั้งโลกต่างมีความภาคภูมิใจว่า   อัลกุรอ่านเป็นคัมภีร์เล่มเดียวที่สมบูรณ์



แต่มาวันนี้ทั้งวาฮาบี  ทั้งอะชาอิเราะฮ์ กลับไม่ยอมรับฟังเหตุผล และคำชี้แจงจากฝ่ายชีอะฮ์ในเรื่องนี้


ฉะนั้นบัดนี้   เราจึงขอนำหลักฐานมาแสดงให้ชาวชีอะฮ์และท่านผู้มีวิจารณญาณได้อ่าน    
 

คำฟัตวาของอุละมาอ์ชีอะฮ์ว่าด้วยเรื่อง  อัลกุรอ่านไม่ได้ถูกตะห์รีฟ( เพิ่มเติมหรือตัดทอน)


ดังต่อไปนี้
  •  

L-umar

หนึ่ง - เชคศอดูก  มรณะฮ.ศ.381 กล่าวว่า



اعتقادنا أن القرآن الذي أنزله الله تعالى على نبيه محمد صلى الله عليه وآله وسلم هو ما بين الدفتين، وهو ما في أيدي الناس، ليس بأكثر من ذلك، ومبلغ سوره عند الناس مائة وأربع عشرة سورة
ومن نسب إلينا أنا نقول إنه أكثر من ذلك فهو كاذب

ความเชื่อของเรา(ชีอะฮ์)คือ  แท้จริงอัลกุรอ่านที่อัลลอฮ์ตะอาลาทรงประทานมันลงมาแก่นะบีของพระองค์คือศาสดามุฮัมมัด(ศ)นั้นคือสิ่งที่อยู่ระหว่างสองข้างนี้(หมายถึงที่อยู่ในปกหน้าหลังที่หุ้มห่อซูเราะฮ์ต่างๆ) และมันคือสิ่งที่อยู่ในมือผู้คน มันไม่มีมากไปกว่านั้น จำนวนซูเราะฮ์ต่างๆของมันที่อยู่กับผู้คนคือ 114 ซูเราะฮ์

ผู้ใดอ้างมายังเรา(ชีอะฮ์)ว่า พวกเราพูดว่าแท้จริงอัลกุรอ่านมีจำนวนมากกว่านั้น เขาคือคนโกหก


ดูหนังสืออัลอิ๊อ์ติกอด๊าต  โดยเชคศอดูก  หน้าที่  93 - 94


เชคศอดูกในสายตาของนักปราชญ์ชีอะฮ์


เชคตูซี่กล่าวว่า
 
محمد بن علي بن الحسين بن موسى بن بابويه القمي، يكنى أبا جعفر، كان جليلا حافظا للأحاديث بصيرا بالرجال ناقدا للأخبار لم ير في القميين مثله في حفظه و كثرة علمه،
มุฮัมมัด บินอาลีบินฮูเซน บินมูซา บินบาบะวัยฮฺ อัลกุมมี ฉายาอะบูญะอ์ฟัร เขาคือผู้ทรงคุณวุฒิ  เป็นนักท่องจำหะดีษต่างๆ เป็นผู้เชี่ยวชาญต่อชีวประวัตินักรายงานหะดีษ  เป็นนักวิจารณ์รายงานหะดีษ  ไม่เคยมีผู้ใดเหมือนเขาในหมู่นักปราชญ์ชาวเมืองกุมในเรื่องความจำและความรู้อันมากมายของเขา

ดูอัลฟะฮ์ร็อส โดยเชคตูซี่  อันดับที่ 695


เชคนะญาชีกล่าวว่า

محمد بن علي بن الحسين بن موسى بن بابويه القمي أبو جعفر، نزيل الري، شيخنا وفقيهنا ووجه الطائفة بخراسان،

มุฮัมมัด บินอาลีบินฮูเซน บินมูซา บินบาบะวัยฮฺ อัลกุมมี อะบูญะอ์ฟัร  ผู้พำนักอยู่ที่เมืองเรย์(อิหร่าน) เขาคือเชคของพวกเรา และคือฟะกีฮ์ของพวกเราและเขาคือหัวหน้ากลุ่มแห่งเมืองคูรอซาน

ดูริญาล นะญาชี โดยเชคนะญาชี  อันดับที่ 1049
  •  

L-umar

เมื่อวาฮาบีอย่างฟารีดและพวกพ้อง  กล่าวว่า  ชีอะฮ์เชื่อว่าอัลกุรอ่าน ถูกตะห์รีฟ


เพราะฉะนั้น  นายฟารีดและพวกคือ  คนโกหก    ตามที่เชคศอดูก กล่าวไว้
  •  

L-umar

สอง - เชคมุฟีด มรณะ 413 ฮ.ศ.กล่าวว่า


وقد قال جماعة من أهل الإمامة إنه لم ينقص من كلمة ولا من آية ولا من سورة ولكن حذف ما كان مثبتا في مصحف أمير المؤمنين (ع) من تأويله وتفسير معانيه على حقيقة تنزيله وذلك كان ثابتا منزلا وإن لم يكن من جملة كلام الله تعالى الذي هو القرآن المعجز،
وأما الزيادة فيه فمقطوع على فسادها

แน่นอนมีนักปราชญ์กลุ่มหนึ่งจากชาวชีอะฮ์อิมามียะฮ์กล่าวว่า  แท้จริงมัน(อัลกุรอ่าน)ไม่เคยถูกตัดออกไปจาก(มันไม่ว่าจะเป็น)คำหนึ่ง หรืออายะฮ์หนึ่ง หรือซูเราะฮ์หนึ่ง    แต่ที่ถูกตัดออกไป(จากอัลกุรอ่าน)คือสิ่งที่มีอยู่ในมุศฮัฟของท่านอิม่ามอาลี(อ) ซึ่งเป็นการตะอ์วีลของเขาและการตัฟสีรความหมายต่างๆของเขาตามความเป็นจริงแห่งการประทานมันลงมา และนั่นมันเป็นตัวยืนยันเรื่องการประทาน  และถึงแม้ว่ามันไม่ใช่ส่วนหนึ่งจากพระดำรัสของอัลลอฮ์ตะอาลา ที่มันคืออัลกุรอ่าน อัลมหัศจรรย์ก็ตาม...
เชคมุฟีดได้กล่าวในตอนท้ายว่า  ส่วนกรณีเรื่องมีการเพิ่มเติมเข้าไปในอัลกุรอ่านนั้น แน่ใจได้เลยว่ามันเป็นเรื่องบาเต้ล(คือไม่จริง)

ดูหนังสืออะวาอิลุลมะกอลาต  โดยเชคมุฟีด หน้า 81 บาบ 59



วิจารณ์

1.   เชคมุฟีดลูกศิษย์คนหนึ่งของเชคศอดูกได้กล่าวว่า นักปราชญ์ชีอะฮ์หนึ่งกลุ่มรวมทั้งตัวท่านมีจุดยืนว่า อัลกุรอ่านไม่ได้ถูกตัดทอนไม่ว่าจะเป็นคำหนึ่ง หรืออายะฮ์หนึ่งหรือซูเราะฮ์หนึ่ง  ฉะนั้นทัศนะของนักปราชญ์บางคนที่ขัดแย้งต่อนักปราชญ์โดยส่วนมากย่อมตกไป  
2.   สิ่งที่ถูกตัดออกไปจากอัลกุรอ่านคือ การตะอ์วีลและการตัฟสีรของอิม่ามอาลีตามที่มีบันทึกไว้ในมุศฮัฟฉบับส่วนตัวของเขา  นั่นแสดงว่า สิ่งที่ถูกตัดออกไปอัลกุรอ่านตามความเชื่อชีอะฮ์คือการตัฟสีรของอิม่ามอาลี(อ)
3.   การตะอฺวีลและการตัฟสีรในมุศฮัฟอาลีนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอัลกุรอ่าน สรุปสิ่งที่ถูกตัดออกไปไม่ใช่กุรอ่านสักอักษรหนึ่ง
4.   เชคมุฟีดกล่าวว่า การเพิ่มเติมในอัลกุรอ่านเป็นเรื่องไม่จริงอย่างแน่นอน


เชคมุฟีดในสายตาของนักปราชญ์ชีอะฮ์

เชคตูซี่กล่าวว่า  

محمد بن محمد بن النعمان المفيد : من جملة متكلمي الإمامية، انتهت إليه رئاسة الإمامية في وقته، و كان مقدما في العلم و صناعة الكلام، و كان فقيها متقدما فيه،

มุฮัมมัด บินมุฮัมมัด บินนุอ์มาน อัลมุฟีด หนึ่งจากนักเทวนิยมชีอะฮ์ ตำแหน่งผู้นำชีอะฮ์ยุคเขามาสิ้นสุดที่เขา  เขาเป็นผู้นำหน้าในความรู้และวิชาอิลมุลกะลาม และเขายังเป็นผู้หน้าในเรื่องฟิกฮ์

ดูอัลฟะฮ์ร็อส โดยเชคตูซี่  อันดับที่ 696

เชคนะญาชีกล่าวว่า

محمد بن محمد بن النعمان : فضله أشهر من أن يوصف في الفقه والكلام والرواية والثقة والعلم

มุฮัมมัด บินมุฮัมมัด บินนุอ์มาน (ชื่อจริงของเชคมุฟีด) ความประเสริฐของเขาโด่งดังเกินกว่าจะกล่าวถึงทั้งในเรื่องวิชาฟิกฮ์  วิชาเทววิทยา  วิชาหะดีษ  และความน่าเชื่อถือและวิชาความรู้

ดูริญาล นะญาชี โดยเชคนะญาชี  อันดับที่ 1067
  •  

L-umar

สาม – สัยยิดมุรตะฎอ มรณะฮ.ศ.436 ได้ให้เหตุผลว่า


อัลกุรอ่านได้ถูกเรียบเรียงไว้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่สมัยท่านนะบี(ศ)ดังนี้


وإن جماعة من الصحابة مثل عبد الله بن مسعود، وأبي بن كعب، وغيرهما، ختموا القرآن على النبي صلى الله عليه وآله وسلم عدة ختمات، وكل ذلك يدل بأدنى تأمل على أنه كان مجموعا مرتبا غير مبتور ولا مبثوث

แท้จริงมีซอฮาบะฮ์กลุ่มหนึ่งเช่น  อับดุลลอฮ์ บินมัสอูด  หรืออุบัยบินกะอับและคนอื่นๆจากทั้งสองท่านนี้   พวกเขาได้ทำการคะตั่มกุรอ่านต่อหน้าท่านนะบี(ศ)หลายครั้งด้วยกัน  และทั้งหมดนั้นได้บ่งบอกว่า แท้จริงอัลกุรอ่านได้ถูกรวบรวมเอาไว้อย่างเป็นระเบียบแล้ว(ในสมัยที่ท่านนะบียังมีชีวิตอยู่) โดยไม่ได้ถูกตัดหรือถูกแบ่งกระจัดกระจาย

ดูตัฟสีรมัจญ์มะอุลบะยาน  โดยอัตต็อบรอซี่  เล่ม 1 : 44


วิจารณ์


สัยยิดมุรตะฎอ ลูกศิษย์คนหนึ่งของเชคมุฟีดได้กล่าวว่า   เมื่อซอฮาบะฮ์กลุ่มหนึ่งได้อ่านคัมภีร์กุรอ่านจนจบ(เรียกว่าคะตั่มกุรอ่าน)ต่อหน้าท่านนะบี(ศ)หลายครั้ง  นั่นคือหลักฐานแสดงว่า  อัลกุรอ่านได้ถูกรวบรวมเรียบเรียงเป็นเล่มเอาไว้แล้วตั้งแต่สมัยท่านนะบี(ศ)  ไม่ใช่พึ่งมารวบรวมให้เป็นเล่มหลังจากท่านวะฟาต


สัยยิดมุรตะฎอในสายตาของนักปราชญ์ชีอะฮ์

เชคตูซี่

علي بن الحسين بن موسى بن محمد بن موسى بن إبراهيم بن موسى بن جعفر بن محمد بن علي بن الحسين بن علي بن أبي طالب عليه السلام، كنيته أبو القاسم لقبه علم الهدى الأجل المرتضى رضي الله عنه متوحد في علوم كثيرة، مجمع على فضله، مقدم في العلوم، مثل علم الكلام و الفقه و أصول الفقه و الأدب و النحو و الشعر و معاني الشعر و اللغة و غير ذلك

อาลี บินฮูเซน บินมูซา บินมุฮัมมัด บินมูซา บินอิบรอฮีม บินมูซา บินญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด บินอาลี บินฮูเซน บินอาลี บินอะบีตอลิบ(อ)  ฉายาของเขาคือ อะละมุลฮูดา เนื่องจากเขามีความเป็นเอกในวิชาการต่างๆมากมาย จนมีความเห็นพ้องต่อความประเสริฐของเขา  เขานำหน้าในอุลูมต่างๆเช่น  อิลมุลกะลาม  วิชาฟิกฮ์  วิชาอุศูลุลฟิกฮ์ วิชาอะดับ วิชานะฮู...และวิชาอื่นๆ

ดูอัลฟะฮ์ร็อส โดยเชคตูซี่  อันดับที่ 421


เชคนะญาชี

علي بن الحسين بن موسى بن محمد بن موسى بن إبراهيم بن موسى بن جعفر بن محمد بن علي بن الحسين بن علي بن أبي طالب عليهم السلام أبو القاسم المرتضى حاز من العلوم ما لم يدانه فيه أحد في زمانه، وسمع من الحديث فأكثر، وكان متكلما شاعرا أديبا، عظيم المنزلة في العلم والدين والدنيا

อาลี บินฮูเซน บินมูซา บินมุฮัมมัด บินมูซา บินอิบรอฮีม บินมูซา บินญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด บินอาลี บินฮูเซน บินอาลี บินอะบีตอลิบ(อ)  เขามีภูมิในวิชาการต่างๆมากมาย ไม่มีใครเทียบกับเขาได้สักคนในสมัยของเขา และเขาได้สดับฟังหะดีษอย่างมากมาย  เขาเป็นปราชญ์สาขาเทววิทยา  เป็นนักกวีอาหรับ เป็นนักวรรณคดีอาหรับ  เป็นผู้มีตำแหน่งใหญ่ทางวิชาการ ทางศาสนา และทางโลก

ดูริญาล นะญาชี โดยเชคนะญาชี  อันดับที่ 708
  •  

L-umar

สี่ – เชคตูซี่ ( ชัยคุต ตออิฟะฮ์ ) มรณะ ฮ.ศ. 460 กล่าวว่า


وأمّا الكلام في زيادة القرآن و نقصانه فممّا لا يليق به أيضاً، لاَنّ الزيادة فيه مجمع على بطلانها، وأمّا النقصان فالظاهر أيضاً من مذهب المسلمين خلافه وهو الاَليق بالصحيح من مذهبنا،

ส่วนคำพูดในเรื่องการเพิ่มเติมหรือตัดทอนของอัลกุรอ่าน  (นับว่า)คือเรื่องหนึ่งที่ไม่เหมาะสมต่อมันเช่นกัน  เพราะการเพิ่มในมัน(กุรอ่าน) ปวงปราชญ์มีมติตรงกันว่ามันเป็นเรื่องเท็จ  และเรื่องที่ว่ามัน(กุรอ่าน)ถูกตัดออกไป ที่ชัดเจนก็เช่นกัน(คือเท็จ)จากมัซฮับของมวลมุสลิมที่มีทัศนะตรงกันข้ามกับมัน(คือไม่เชื่อว่ากุรอ่านถูกตัด) และมันเหมาะสมที่สุดต่อความถูกต้องจากมัซฮับของเรา(ชีอะฮ์)
และเชคตูซี่ยังได้กล่าวว่า มีหะดีษรายงานจากฝ่ายชีอะฮ์และซุนนี่ว่า บางอายะฮ์กุรอ่านบางส่วนได้ถูกตัดออกไป  

لكنّ طريقها الآحاد التي لا توجب علماً ولا عملاً والاَولى الاِعراض عنها

แต่สายรายงานหะดีษ(เหล่านั้น)เป็นหะดีษชนิด " อาฮ๊าด "  ซึ่งจะไม่ส่งผลในทางความเชื่อหรือในทางปฏิบัติ และสิ่งสมควรที่สุดคือ การหันหลังให้กับมัน(คือไม่ต้องไปสนใจหะดีษเหล่านั้น)

ดูอัต-ติบยาน  ฟีตัฟสีริลกุรอ่าน  โดยเชคตูซี่  เล่ม 1 : 3


วิจารณ์

หะดีษอาฮ๊าดเป็นหะดีษที่ตรงกันข้ามกับหะดีษมุตะวาติร(ที่มีผู้เล่ากันโดยแพร่หลาย หลายสายรายงาน และเป็นที่รู้ที่ยอมรับ) ตัวอย่างหะดีษมุตะวาติรที่รายงานกันทั้งสองฝ่ายเช่น  

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า

إِنِّى تَارِكٌ فِيكُمْ مَا إِنْ تَمَسَّكْتُمْ بِهِ لَنْ تَضِلُّوا بَعْدِى أَحَدُهُمَا أَعْظَمُ مِنَ الآخَرِ كِتَابُ اللَّهِ حَبْلٌ مَمْدُودٌ مِنَ السَّمَاءِ إِلَى الأَرْضِ وَعِتْرَتِى أَهْلُ بَيْتِى وَلَنْ يَتَفَرَّقَا حَتَّى يَرِدَا عَلَىَّ الْحَوْضَ فَانْظُرُوا كَيْفَ تَخْلُفُونِى فِيهِمَا

แท้จริงฉันได้มอบไว้ให้กับพวกท่าน หากพวกท่านยึดมั่นต่อสิ่งนั้นแล้ว พวกท่านจะไม่หลงทางหลังจากฉันเด็ดขาด สิ่งแรกใหญ่กว่าอีกสิ่งหนึ่งนั่นคือ

1. กิตาบุลเลาะฮ์คือเชือกที่ทอดจากชั้นฟ้ามายังโลกและ
2. อิตเราะตี คืออะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน

ทั้งสองสิ่งจะไม่แยกจากกัน จนกว่าจะกลับมาหาฉันที่สระน้ำเกาษัร
ดังนั้นพวกท่านจงดูเถิดว่า พวกท่านจะขัดแย้งกับฉันในสองสิ่งที่ฉันมอบไว้ให้อย่างไร

ดูสุนันติรมิซี  หะดีษที่  3788  เชคอัลบานีกล่าวว่า ซอฮิ๊ฮ์
มุสนัดอะหมัด หะดีษที่ 11578 เชคอัรนะอูฏีกล่าวว่า ซอฮิ๊ฮ์

 
Θ หะดีษมุตะวาติรบทนี้ทำให้เราเข้าใจได้ 4 ประเด็น

หนึ่ง-แสดงว่า อัลกุรอ่านทั้งอายะฮ์และซูเราะฮ์ต่างๆต้องเรียบเรียงเสร็จแล้วในสมัยท่านนะบี(ศ)อย่างสมบูรณ์ จนถือว่าเป็นการถูกต้องที่จะเรียกกุรอ่านว่า กิตาบแปลว่าคัมภีร์ และยังบ่งว่าคัมภีร์นี้จะคงอยู่จนถึงวันกิยามัต

สอง - จะต้องมีอะฮ์ลุลบัยต์นะบีที่มีชีวิตอยู่คู่กับคัมภีร์กุรอ่านเพื่อคอยชี้นำอุมมัตอิสลามมิให้หลงทางตราบใดที่พวกเขายังยึดมั่นต่อสองสิ่งดังกล่าว

สาม- หากอัลกุรอ่านมีการตะห์รีฟ แล้วจะมีความหมายอะไรที่สั่งให้ปฏิบัติตามคัมภีร์ที่จะถูกบิดเบือนในยุคนี้

สี่ – หากอะฮ์ลุลบัยต์นะบี ไม่มีอยู่คู่อัลกุรอ่าน และไม่เป็นคนดีคนบริสุทธิ์ แล้วจะมีความหมายอะไรที่สั่งให้ไปทำตามพวกเขา



เชคตูซี่ในสายตาของนักปราชญ์ชีอะฮ์

อัลลามะฮ์ฮิลลี่กล่าวว่า

محمد بن الحسن بن علي الطوسي، أبو جعفر، شيخ الامامية قدس الله روحه، رئيس الطائفة، جليل القدر، عظيم المنزلة، ثقة عين صدوق، عارف بالاخبار والرجال والفقه والاصول والكلام والادب، وجميع الفضائل تنسب إليه، صنف في كل فنون الاسلام، وهو المهذب للعقائد في الاصول والفروع، والجامع لكمالات النفس في العلم والعمل، وكان تلميذ الشيخ المفيد محمد بن محمد بن النعمان

มุฮัมมัด บินฮาซัน บินอาลี อัตตูซี่  อะบูญะอ์ฟัร  ชัยคุลอิมามียะฮ์  หัวหน้ากลุ่ม ผู้ทรงคุณวุฒิสูง มีตำแหน่งใหญ่  มีความเชื่อถือได้   ผู้มีความรู้เชี่ยวชาญต่อหะดีษ  ชีวประวัตินักรายงานหะดีษ วิชาฟิกฮ์  วิชาอุศูล วิชากะลามและอะดับ(วรรณคดีอาหรับ) เขามีความประเสริฐมากมาย เขาแต่งตำราอิสลามไว้ทุกวิชา และเขาคือผู้เรียบเรียงจัดระบบความเชื่อต่างๆทั้งในเรื่องอุซูลุดดีนและฟุรูอุดดีน และเขาคือแหล่งรวมความเพียบพร้อมแห่งชีวิตทั้งในด้านอิลมูและอามัล  และเขาเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของเชคมุฟีด (มุฮัมมัด บินมุฮัมมัด บินนุอ์มาน)

ดูคุลาเศาะตุลอักวาล โดยอัลลามะฮ์ฮิลลี่  อันดับที่ 47
  •  

L-umar

ห้า -  เชคอะบูอาลี อัตต็อบรอซี่ มรณะฮ.ศ.548  

ได้กล่าวไว้ในตัฟสีรของเขาว่าด้วยเรื่องอัลกุรอ่านมีเพิ่มเติมและตัดทอนว่า

أمّا الزيادة فيه فمجمع على بطلانها، وأمّا النقصان منه فقد روى جماعة من أصحابنا وقوم من حشوية العامّة أنّ في القرآن تغييراً أو نقصاناً، والصحيح من مذهب أصحابنا خلافه.

ส่วนเรื่องการเพิ่มเติมในอัลกุรอ่าน ดังนั้นเป็นมติตรงกันว่า มันเป็นเรื่องไม่จริง และส่วนเรื่องกาตัดทอนออกไปจากอัลกุรอ่าน แน่นอนมีพวกเรากลุ่มหนึ่งและชาวซุนนี่มัซฮับหัชวียะฮ์กลุ่มหนึ่งได้รายงานว่าอัลกุรอ่านมีการบิดเบือนและการตัดทอน และที่ซอฮิ๊ฮ์คือถูกต้องจากมัซฮับแห่งอัศฮาบของพวกเรา(ชีอะฮ์)คือ(มีความเชื่อ)ขัดแย้งกับมัน(กล่าวคือไม่เชื่อว่าอัลกุรอ่านถูกบิดเบือนหรือถูกตัดทอนออกไป)

ดูตัฟสีรมัจญ์มะอุลบะยาน โดยอัตต็อบรอซี่ เล่ม 1 : 10



เชคอะบูอาลี อัตต็อบรอซี่ในสายตาของนักปราชญ์ชีอะฮ์


สัยยิดตัฟริชีกล่าวว่า

الفضل بن الحسن بن الفضل : أمين الدين أبو علي الطبرسي، ثقة، فاضل، دين، عين، من أجلاء هذه الطائفة، له تصانيف حسنة، منها: كتاب مجمع البيان في تفسير القرآن عشر مجلدات

อัลฟัฎลุ บินฮาซัน บินฟัฎล์  อะมีนุดดีน อะบีอาลี อัตต็อบรอซี  เขาเชื่อถือได้ ผู้ประเสริฐ  เป็นผู้ทรงคุณวุฒระดับสูงคนหนึ่งของกลุ่มนี้(ชีอะฮ์)  เขาแต่งตำราดีๆไว้หลายเล่ม เช่น ตัฟสีรมัจญ์มะอุลบะยาน มีสิบเล่ม

ดูนักดุลริญาล โดยอัตตัฟริชี เล่ม 4 อันดับที่ 4107
  •  

L-umar

หก – สัยยิดอาลี อิบนิตอวูส อัลฮิลลี่ มรณะฮ.ศ. 664 กล่าวว่า


إنَّ رَأْيَ الْاِماَمِيَّةِ هُوَ عَدَمُ التَّحْرِيْفِ   كتاب سعد السعود للسيد علي بن طاوس  ص 144

แท้จริงทัศนะของชีอะฮ์อิมามียะฮ์คือ (อัลกุรอ่าน)ไม่ได้ถูกตะห์รีฟ(บิดเบือน)

ดูหนังสือสะอ์ดุส-สะอูด โดยสัยยิดอิบนิตอวูส หน้า  144

http://www.aqaed.com/book/232/


วิจารณ์

สัยยิดอิบนิตอวูสคืออาจารย์ของอัลลามะฮ์ฮิลลี่และเชคอิบนิดาวูดเจ้าของหนังสือริญาล  
อิบนิตอวูสเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหะดีษและเขาคือนักปราชญ์ชีอะฮ์คนแรกที่แบ่งหะดีษออกเป็นซอฮิ๊ฮ์ ฮาซัน มุวัษษักและดออีฟ  หากเขาค้นพบหะดีษที่พอเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าอัลกุรอ่านถูกตัดทอนหรือเพิ่มเติม เขาคงต้องกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้บ้าง แต่เราไม่เคยพบคำพูดของเขาที่กล่าวถึงเรื่องตะห์รีฟเลย


สัยยิดอิบนิตอวูสในสายตาของนักปราชญ์ชีอะฮ์

อัลฮุรรุลอามิลี(เจ้าของหนังสือวะซาอิลุชชีอะฮ์)กล่าวว่า

السيد رضي الدين أبو القاسم علي بن موسى بن جعفر بن محمد بن أحمد بن محمد بن أحمد بن محمد بن محمد بن طاوس الحسني
حاَلُهُ فِي الْعِلْمِ والفضل والزهد والعبادة والثقة والفقه والجلالة والورع أشهر من أن يذكر، وكان أيضا شاعرا أديبا منشئا بليغا. له مصنفات كثيرة

สัยยิด ร่อฎียุดดีน อะบุลกอสิม อาลี บินมูซา บินญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด บินอะหมัด บินมุฮัมมัด บินอะหมัด บินมุฮัมมัด บินมุฮัมมัด บินตอวูส อัลฮาซะนี
สถานะของเขาในเรื่องความรู้ ความประเสริฐ  สมถะ อิบาดะฮ์ ความน่าเชื่อถือ เรื่องฟิกฮ์  คุณวุฒิ  ความยำเกรงนั้นโด่งดังเกินกว่าจะกล่าวถึง  เขายังเป็นนักกวี นักวรรณคดี  เขาแต่งตำราไว้มากมาย

ดูอะมะลุลอามาล โดยอัลฮุรรุลอามิลี  อันดับที่ 622
  •  

L-umar

เจ็ด -  มุฟัสสิรและมุหัดดิษชื่อ มุลลามุห์ซิน เฟซ กาชานี มรณะฮ.ศ.1091 ได้กล่าวว่า

 

قاَلَ اللهُ عَزَّ وَجَلَّ: وَإِنَّهُ لَكِتَابٌ عَزِيزٌ لَا يَأْتِيهِ الْبَاطِلُ مِنْ بَيْنِ يَدَيْهِ وَلَا مِنْ خَلْفِهِ وَقاَلَ : إِنَّا نَحْنُ نَزَّلْنَا الذِّكْرَ وَإِنَّا لَهُ لَحَافِظُونَ فَكَيْفَ يَتَطَرَّقُ إلَيْهِ التَّحْرِيْفُ وَالتَّغْيِيْرُ، وَأيْضاً قَدِ اسْتَفَاضَ عَنِ النَّبِّي (صلى الله عليه وآله وسلم) وَالْأَئِمَّةِ (عليهم السلام) حَدِيْث عَرْض الْخَبَر الْمَرْوِيّ عَلَى كِتاَبِ الله لِيَعْلَمَ صِحتَهُ بِمُوافَقَتِه لَهُ وَفَسَادَهُ بِمُخالفَتِهِ فَإِذاَ كاَنَ الْقُرآنُ الذي بِأيدِيْناَ مُحَرَّفاً فَما فائِدَةُ الْعَرْض مَعَ أنّ خَبَرَ التَّحْرِيْفِ مُخالِفٌ لِكتابِ الله مُكَذِّبٌ لَهُ فَيَجِبُ رَدَّهُ وَالْحُكْمَ بِفسادِهِ أَوْ تَأوِيْلِهِ

อัลลอฮ์อัซซะวะญัลตรัสว่า [ และแท้จริงอัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่มีอำนาจยิ่ง ความเท็จจากข้างหน้าและจากข้างหลังจะไม่คืบคลานเข้าไปสู่อัลกุรอานได้ ] (40 : 41)

และทรงตรัสว่า [ แท้จริงเราได้ประทานอัซซิกร์(อัลกุรอาน)ลงมา และแท้จริงเราเป็นผู้รักษามันอย่างแน่นอน ]  ( 15 : 9 )

ดังนั้นการตะห์รีฟและการบิดเบือนจะมาถึงอัลกุรอ่านได้อย่างไร  และเช่นกันมีหะดีษมากมายจากท่านนะบี(ศ)และบรรดาอิม่าม(อ)ที่(สั่ง)ให้นำรายงานหะดีษมาเทียบคัมภีร์ของอัลลอฮ์    เพื่อจะได้รู้ว่ามัน(หะดีษ)ถูกต้องด้วยการที่มันมีความสอดคล้องต่ออัลกุรอ่าน     และ(เพื่อจะได้รู้ว่าหะดีษนั้น)เป็นเท็จด้วยการที่มันมีความขัดแย้งต่ออัลกุรอ่าน  
 
ถ้าหากว่าอัลกุรอ่านที่อยู่ในมือเราถูกบิดเบือนเสียแล้ว  ก็จะมีประโยชน์อันใดในการเอาหะดีษไปเทียบกับมัน ในขณะที่มีหะดีษเรื่องตะห์รีฟที่ขัดแย้งต่อคัมภีร์ของอัลลอฮ์ เป็นตัวปฏิเสธต่อมัน(อัลกุรอ่านว่าไม่สมบูรณ์อยู่แล้ว)  

เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องปฏิเสธมัน(หะดีษเหล่านั้น)และต้องตัดสินว่า มันเป็นเรื่องเท็จหรือตีความมัน(หะดีษนั้นไปในทางอื่น)

ดูตัฟสีรซอฟี  โดยมุลลามุห์ซิน เฟซกาชานี  เล่ม  1 : 56




วิจารณ์


1,มุลลาเฟซกาชานีได้แสดงหลักฐานว่า คัมภีร์กุรอ่านได้รับปกป้องมาสองอายะฮ์คือ
หนึ่ง-[และแท้จริงอัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่มีอำนาจยิ่ง ความเท็จจากข้างหน้าและจากข้างหลังจะไม่คืบคลานเข้าไปสู่อัลกุรอานได้ ] บทที่ 40 : 41
สอง-[แท้จริงเราได้ประทานอัซซิกร์(อัลกุรอาน)ลงมา และแท้จริงเราเป็นผู้รักษามันอย่างแน่นอน] บทที่ ( 15 : 9 )  เพราะฉะนั้นหากท่านศรัทธาต่ออัลลอฮ์ท่านย่อมไม่เชื่อเรื่องอัลกุรอ่านถูกตะห์รีฟ(บิดเบือน)

2,ท่านนะบี(ศ)และบรรดาอิม่าม(อ)กล่าวว่า ที่กำชับให้เรานำหะดีษไปเทียบคัมภีร์อัลกุรอ่าน  หากหะดีษใดขัดแย้งต่ออัลกุรอ่านให้ถือว่ามันเป็นหะดีษเท็จ ถึงแม้ว่ามันจะมีสะนัดเชื่อได้ก็ตาม
 
3,สมมุติว่าคัมภีร์กุรอ่านเล่มนี้ยังถูกบิดเบือน แล้วมันจะมีประโยชน์อันใดที่ท่านนะบี(ศ)สั่งให้เราเอาหะดีษไปวัดกับสิ่งที่ถูกบิดเบือน แน่นอนท่านนะบี(ศ)ย่อมไม่พูดจาไร้สาระ  เพราะฉะนั้นทางออกที่ถูกต้องคือต้องโยนหะดีษเหล่านั้นทิ้งไป  
  •  

L-umar

แปด – เชคอัลฮุรรุลอามิลี มรณะฮ.ศ. 1104 กล่าวว่า


وَالْمُتَتَبِّعُ للتاريخ والاَخْبار والآثار يَعْلَمُ يَقِيْناً بِأنَّ الْقُرآنَ ثاَبِتٌ بِغاَيَةِ التواتُر وَبِنَقْلِ الْآلاَفِ مِنَ الصَّحاَبَة، وَانَّ الْقُرآنَ كَانَ مَجْمُوْعاً موَلفاً فِيْ عَهْدِ الرَّسُوْلِ (ص)

ผู้ติดตาม(ค้นคว้า)ตำราประวัติศาสตร์อิสลามและรายงานหะดีษต่างๆ  เขาจะรู้อย่างมั่นใจว่า แท้จริงคัมภีร์กุรอ่านมั่นคง(ไม่ถูกบิดเบือน)เพราะมีรายงานที่เป็นมุตะวาติรและการถ่ายทอดด้วยคนจำนวนนับพันคนจากบรรดาซอฮาบะฮ์    และแท้จริงคัมภีร์กุรอ่านมันได้ถูกรวบรวม เรียบเรียงเสร็จเรียบร้อบแล้วในสมัยท่านรอซูล(ศ)

ดูตัฟสีรอาลาอุลเราะห์มาน ฟีตัฟสีริลกุรอาน โดยเชคญะวาดอัลบะลาฆี  เล่ม 1 : 25


เชคอัลฮุรรุลอามิลี  ผู้รวบรวมตำราหะดีษชีอะฮ์ทั้งสี่ (กุตุบอัรบะอะฮ์) มาบรรจุไว้ในตำราของเขาชื่อ วะซาอิลุชชีอะฮ์   ชัยคุลมุฮัดดิษผู้นี้ได้ให้เหตุผลพิสูจน์ถึงความสมบูรณ์ของคัมภีร์กุรอ่านด้วยความเชื่อที่ว่า  คัมภีร์กุรอ่านได้ถูกรวบรวมและเรียบเรียงเสร็จเรียบร้อบแล้วในสมัยท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)
  •  

L-umar

เก้า – สัยยิด อะบุลกอซิม อัลมูซาวี อัลคูอี
   
มรณะฮ .ศ. 1413  มุจญ์ตะฮิดสูงสุดแห่งประเทศอิรัก  ได้กล่าวว่า  

إنَّ حَدِيْثَ تَحْرِيْفِ الْقُرْآنِ حَدِيْثٌ خُرَافَةٌ ، وَخِياَلٌ ، لاَ يَقُوْلُ بِهِ إلاَّ مَنْ ضَعُفَ عَقْلُهُ أَوْ مَنْ لَمْ يَتَأَمَّلْ فِي أطْرَافِهِ حَقَّ التَّأَمُّلِ ، أو مَن ألْجَأهُ إلَيهِ حُبَّ الْقَوْلِ بِه ، وَالْحُبُّ يَعْمَي ، وَيَصُمّ .
وَأمَّا الْعاَقِلُ الْمُنْصِفُ ، الْمُتَدَبِّرُ فَلاَ يَشُكُّ فِي بُطْلاَنِهِ وَخُرَافَتِهِ

แท้จริงหะดีษ(ที่รายงานว่า) คัมภีร์กุรอ่านถูกบิดเบือน คือเรื่องที่กุขึ้นและคิดเดาเอาเอง ไม่มีใครพูดถึงมันนอกจากคนปัญญาอ่อน หรือคนที่ไม่เคยใช้วิจารณญาณในข้อมูลรอบๆมันอย่างแท้จริง  หรือมีคนกำกับให้เขารักชอบคำพูดต่อมัน  และความรักชอบ(แบบนี้)ทำให้ตาบอดและหูหนวก

ส่วนคนมีปัญญา คนใจเป็นธรรม  คนที่ไตร่ตรอง ย่อมไม่สงสัยเลยในความเท็จและความเหลวไหลของมัน(หะดีษที่รายงานว่ากุรอ่านถูกบิดเบือน)

ดูอัลบะยาน ฟีตัฟสีริลกุรอาน  โดยสัยยิดอัลคูอี   หน้า 259
  •  

L-umar

สิบ – สัยยิด รูฮุลลอฮ์ อัลมูซาวี โคมัยนี  ผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน  


มรณะวันที่ 3 / 7 / ค.ศ.1995   ได้ให้คำตอบโต้ต่อพวกอัคบารีบางคน ซึ่งพวกเขาอ้างว่าซอเฮ็รกุรอ่านนั้นไม่สามารถยึดเป็นหลักฐานได้และพวกเขายังให้เหตุผลว่าเพราะเกิดการบิดเบือนขึ้นในคัมภีร์กุรอ่าน  ด้วยเหตุนี้อิม่ามโคมัยนี่จึงให้คำตอบแก่พวกอัคบ่รีในเรื่องนี้ว่า
 
وَهَذاَ مَمْنُوْعٌ بِحَسْبِ الصُّغْرَى وَالْكُبْرَى : أما الأولى : فلمنع وقوع التحريف فيه جـدّا ، كما هو مذهب المحقّقين من علماء العامة والخاصة ، والمعتبَـرين من الفريقين ، وإن شئت شطرا من الكلام في هذا المقام فارجع إلى مقدمة تفسير آلاء الرحمن للعلامة البلاغي المعاصر
كتاب : انوار الهداية في التعليقة على الكفاية   ج 1 ص  243 - 247

นี่เป็นสิ่งต้องห้าม(หมายถึงเรื่องที่กล่าวว่าคัมภีร์กุรอ่านถูกบิดเบือน) ด้วยการอนุมานทางหลักตรรกะทั้งประพจน์เล็กและใหญ่  
ประการแรก  เนื่องจากมันไม่อาจเกิดการตะห์รีฟขึ้นในมัน(คัมภีร์กุรอ่าน)ได้เลย ตามที่มันเป็นทัศนะของนักตรวจสอบที่มาจากนักปราชญ์ซุนนี่และชีอะฮ์ และ(ทัศนะ)จากบรรดาผู้ที่ถูกรับจากทั้งสองฝ่าย  และหากท่านต้องการดูคำพูดส่วนหนึ่งในประเด็นนี้ ก็ขอให้ท่านย้อนไปดูที่คำนำของตัฟสีรอาลาอุลเราะห์มาน แต่งโดยอัลลามะฮ์อัลบะลาฆีในยุคนี้


ดูหนังสืออันวารุลฮิดายะฮ์ ฟีตะอ์ลีเกาะติ อะลัลกิฟายะฮ์  เล่ม  1 : 243-247
  •  

L-umar

۩ บทสรุป

บัดนี้ท่านได้ศึกษาทัศนะของนักปราชญ์ชีอะฮ์ระดับสูงสุดตั้งแต่ยุคสามร้อยปีแห่งฮิจเราะฮ์ศักราชจนถึงปัจจุบัน  พวกเขาได้ประกาศว่า  


{{{   คัมภีร์กุรอ่านเล่มนี้สมบูรณ์และไม่ได้ถูกตะห์รีฟ }}}


เพราะฉะนั้นชาวชีอะฮ์ระดับเอาวาม(สามัญชน)ที่อยู่ในฐานะต้องตักลีดตามมุจญ์ตะฮิดจำเป็นต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตาม

หากวาฮาบีหรืออะชาอิเราะฮ์ยังคงยืนกรานที่จะยกนั่นยกนี่มากล่าวหาชีอะฮ์ต่อไป  พวกเขามีสิทธิทำต่อไปเพราะพวกเขามีปัญญาตอบโต้มัซฮับอะฮ์ลุลบัยต์(อ)ได้เพียงแค่โจมตี

หากศาสนาที่พวกเขานับถือทำได้เพียงโจมตีแบบ ไม่มีการรับฟังเหตุผล  เราขอเสนอให้ชีอะฮ์ตอบคนเหล่านี้ด้วยโองการที่

อัลลอฮ์ตะอาลาทรงตรัสว่า

وَإِذَا خَاطَبَهُمُ الْجَاهِلُونَ قَالُوا سَلَامًا

และเมื่อพวกญาเฮ้ลได้กล่าวทักทายพวกเขา(ผู้ศรัทธา) พวกเขาจะกล่าวว่า ศานติ (จงมีแด่ท่าน)   บทที่   25  :  63
  •  

46 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้