Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

มีนาคม 29, 2024, 12:57:52 หลังเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,519
  • หัวข้อทั้งหมด: 647
  • Online today: 85
  • Online ever: 85
  • (วันนี้ เวลา 12:35:02 หลังเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 91
Total: 91

40 หะดีษคำ ชีอะฮ์ อะลี จากตำราซุนนี่และชีอะฮ์

เริ่มโดย L-umar, ธันวาคม 30, 2009, 01:40:54 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar


หะดีษ  38

หะดีษชีอะฮ์ อะลี จากตำราชีอะฮ์


ท่านรอซูลุลลอฮ์ (ศ) ได้กล่าวว่า  :

إِنَّ اللَّهَ مَثَّلَ لِي أُمَّتِي فِي الطِّينِ وَ عَلَّمَنِي أَسْمَاءَهُمْ كَمَا عَلَّمَ آدَمَ الْأَسْمَاءَ كُلَّهَا فَمَرَّ بِي أَصْحَابُ الرَّايَاتِ فَاسْتَغْفَرْتُ لِعَلِيٍّ وَ شِيعَتِهِ
إِنَّ رَبِّي وَعَدَنِي فِي شِيعَةِ عَلِيٍّ خَصْلَةً قِيلَ يَا رَسُولَ اللَّهِ وَ مَا هِيَ قَالَ الْمَغْفِرَةُ لِمَنْ آمَنَ مِنْهُمْ وَ أَنْ لَا يُغَادِرَ مِنْهُمْ صَغِيرَةً وَ لَا كَبِيرَةً وَ لَهُمْ تُبَدَّلُ السَّيِّئَاتُ حَسَنَاتٍ

แท้จริงอัลเลาะฮ์ได้ทรงแสดงแก่ฉัน ให้เห็นอุมมะฮ์(ประชาชาติ)ของฉันใน(ตอนที่พวกเขายังอยู่ในสภาพ) ดิน (ก่อนที่จะถูกส่งรู๊หฺเข้าไปในร่าง)

และพระองค์ได้สอนบรรดานามของพวกเขาแก่ฉัน  เหมือนที่พระองค์ได้สอนแก่อาดัมถึงบรรดานามทั้งหมดของมัน

แล้วบรรดาอัศฮาบุลรอย๊าตได้เดินผ่านฉันไป    ดังนั้นฉันจึงได้ทำการอิสติ๊ฆฟ้ารให้กับอะลีและชีอะฮ์ของเขา

แท้จริงพระผู้อภิบาลของฉันได้ทรงให้สัญญากับฉันเกี่ยวกับ ► ชีอะฮ์อะลี ◄ ไว้หนึ่งประการ

มีคนถามว่า : โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ มันคืออะไรหรือ ?  ท่านตอบว่า  : คือการให้อภัยต่อผู้ที่มีอีหม่าน(ความศรัทธา)จากในหมู่พวกเขา  

และพระองค์จะไม่ทรงบิดพลิ้วสัญญาจากพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่  

และพระองค์จะทรงเปลี่ยนความเลวร้ายทั้งหลายให้เป็นความดีงามต่างๆสำหรับพวกเขา


สถานะหะดีษ  :  มุวัษษัก  ดูอัลกาฟี  โดยเชคกุลัยนี  เล่ม 1 : 444  หะดีษ 15

ตรวจทานโดยมัรกะซุล บุฮูซ คอมพิวเตอร์ ลิลอุลูมิลอิสลามียะฮ์ เมืองกุม อิหร่าน




۩   หมายเหตุ  

ให้ท่านสังเกตให้ดีท่านจะพบว่า  ในหะดีษที่ 37ของซุนนี่กับหะดีษที่ 38 ของชีอะฮ์นั้นมีถ้อยคำตรงกันวรรคหนึ่งคือ ท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า

۞ فَاسْتَغْفَرْتُ لِعَلِيٍّ وَ شِيعَتِهِ  ۞

۞  ดังนั้นฉันจึงได้ทำการอิสติ๊ฆฟ้ารให้กับอะลีและชีอะฮ์ของเขา  ۞


ซึ่งสัจธรรมนี้ เป็นสิ่งที่  ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้


คำถามสำหรับวาฮาบี

ท่านนบี(ศ)เคยกล่าวเช่นนี้บ้างไหมคือ  ฉันได้ทำการอิสติ๊ฆฟ้ารให้กับอะฮ์ลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  ?  
  •  

L-umar

หะดีษ : 39

หะดีษชีอะฮ์ อะลี จากตำราชีอะฮ์  

ท่านเชคมุฟีดบันทึกหะดีษนี้ไว้ในหนังสืออะมาลีของเขาดังนี้



قاَلَ ( الشيخُ الْمُفِيْدُ) حَدَّثَنِي أَبُو القاسِم جعفرُ بْنُ مُحمدِ بْنِ قُولَوَيٍه رَحَمَهُ الله قاَلَ
حَدَّثَناَ الْحُسَيْنُ بْنُ مُحمدِ بْنِ عامِر عَنْ مُعَلَّى بْنِ مُحَمَّدِ الْبَصْرِيِّ عَنْ مُحَمَّدِ بْنِ جُمْهُورٍ الْعَمَي قاَلَ حَدَّثَناَ أَبُوْ عَلِيّ الْحَسَنُ بْنُ مَحْبُوبٍ قاَلَ سَمِعْتُ أَباَ مُحَمَّد الْواَبشي رَوَاهُ عَنْ أَبِي الْوَرْدِ قاَلَ سَمِعْتُ أَبَا جَعْفَرٍ مُحَمَّدَ بْنَ عَلِىٍّ الْباَقِرَ (ع) يَقُوْلُ :

إِذَا كَانَ يَوْمُ الْقِيَامَةِ جَمَعَ اللهُ الناَّسَ فِيْ صَعِيْدٍ واَحِدٍ مِنْ الْأَوَّلِينَ وَالْآخِرِينَ عُرَاةً حُفَاةً فَيُوْقَفُوْنَ عَلَى طَرِيْقِ الْمَحْشَرِ حَتَّى يعرقوا عرقا شديدا و يشتد أنفاسهم فيمكثون بذلك ما شاء الله و ذلك قوله تعالى فَلا تَسْمَعُ إِلَّا هَمْساً قال ثم ينادي مناد من تلقاء العرش أين النبي الأمي قال فيقول الناس قد أسمعت كلا فسم باسمه قال فينادي أين نبي الرحمة محمد بن عبد الله قال فيقوم رسول الله ص فيقف أمام الناس كلهم حتى ينتهي إلى حوض طوله ما بين أيلة و صنعاء فيقف عليه ثم ينادي بصاحبكم
فيقوم أمام الناس فيقف معه ثم يؤذن للناس فيمرون قال أبو جعفر ع فبين وارد يومئذ و بين مصروف فإذا رأى رسول الله ص من يصرف عنه من محبينا أهل البيت بكى و قال يا رب شيعة علي يا رب شيعة علي قال فيبعث الله إليه ملكا فيقول له ما يبكيك يا محمد قال و كيف لا أبكي لأناس من شيعة أخي علي بن أبي طالب أراهم قد صرفوا تلقاء أصحاب النار و منعوا من ورود حوضي قال فيقول الله عز و جل يا محمد إني قد وهبتهم لك و صفحت لك عن ذنوبهم و ألحقتهم بك و بمن كانوا يتولون من ذريتك و جعلتهم في زمرتك و أوردتهم حوضك و قبلت شفاعتك فيهم و أكرمتك بذلك ثم قال أبو جعفر محمد بن علي بن الحسين ع فكم من باك يومئذ و باكية ينادون يا محمداه إذا رأوا ذلك فلا يبقى أحد يومئذ كان يتولانا و يحبنا إلا كان في حزبنا و معنا و ورد حوضنا

كتاب : الأمالي للشيخ المفيد   ج 1 ص 187 ح 8


เชคมุฟีดเล่าว่า   อบุลกอสิม ญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด บินกูละวัยฮฺ (ขออัลลอฮ์เมตตาเขาด้วย) เล่าให้ฉันฟัง  เขาเล่าว่า   อัลฮูเซน บินมุฮัมมัด บินอามิรเล่าให้เราฟัง  จาก มุอัลลา บินมุฮัมมัด อัลบัศรี จากมุฮัมมัด บินญุมฮูร อัลอะมา เล่าให้เราฟัง  เขาเล่าว่า

อบูอะลี ฮาซัน บินมะห์บูบ เล่าให้เราฟัง เขาเล่าว่า ฉันได้ยินท่านอบูมุฮัมมัด อัลวาบิชี รายงานหะดีษนี้จากอบุลวัรดิ เขาเล่าว่า

ฉันได้ยินท่านอิม่ามอบูญะอ์ฟัร  มุฮัมมัด บินอะลี อัลบาเก็ร(อ) เล่าว่า :



ในวันกิยามะฮ์นั้น  อัลเลาะฮ์จะทรงรวบรวมมนุษย์ไว้ในที่เดียวกัน ทั้งคนรุ่นก่อนและคนรุ่นหลังในสภาพที่ร่างเปลือย(ไม่สวมเสื้อผ้า) เดินด้วยเท้าเปล่า  แล้วพวกเขาจะถูกนำมาหยุดอยู่ตรงเส้นทาง(ไปทุ่ง)มะห์ชัร จนทำให้พวกเขาเหงื่อไหลออกมาอย่างมาก สร้างความรุนแรงแก่ตัวของพวกเขา แล้วพวกเขาต้องพำนักอยู่อย่างนั้นไปตามพระประสงค์ของอัลเลาะฮ์  และนั่นคือพระดำรัสของพระองค์ผู้ทรงสูงส่งที่ตรัสว่า

( فَلَا تَسْمَعُ إِلَّا هَمْسًا  ) เจ้าจะไม่ได้ยินเสียงใด นอกจากเสียงแผ่วเบา ( คือจะรีบเดินไปยังทุ่งมะห์ชัรอย่างเร็ว ไม่ชักช้า )

ซูเราะฮ์ที่ 20 : 108


อิม่ามมุฮัมมัดอัลบาเก็ร(อ)เล่าว่า :  

ต่อจากนั้น จะมี(มลาอิกะฮ์)ป่าวประกาศจากทางอารัช(บัลลังค์) ว่า  ศาสดาแห่งหมู่ชนผู้ไม่รู้หนังสืออยู่ที่ไหน ?  

ผู้คนจะกล่าวว่า   ท่านได้ทำให้ทั้งหมดได้ยินแล้ว ขอให้ท่านโปรดเรียกด้วยชื่อจริงของเขาด้วยเถิด


อิม่ามมุฮัมมัดอัลบาเก็ร(อ)เล่าว่า :  

 แล้ว(มลาอิกะฮ์) จึงป่าวประกาศว่า  นะบียุลเราะห์มะฮ์  ชื่อ มุฮัมมัด บุตรชายของอับดุลเลาะฮ์อยู่ที่ไหน ?


อิม่ามมุฮัมมัดอัลบาเก็ร(อ)เล่าว่า :  

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้ยืนขึ้นต่อหน้ามหาชน (ซึ่งพวกเขายืนเรียงราย)จนไปสิ้นสุดที่สระน้ำ(เกาษัร)ที่มีความยาวอยู่ระหว่างอัยละฮ์(เมืองหนึ่งของอียิปต์)กับศ็อนอาอ์(เมืองหนึ่งของเยเมน)  แล้วท่านก็หยุดอยู่บนมัน  จากนั้น(มลาอิกะฮ์)จึงป่าวประกาศเรียกต่อสหายของพวกท่าน  แล้วเขาก็ยืนขึ้นต่อหน้ามหาชน  แล้วหยุดอยู่กับเขา  ต่อจากนั้นสำหรับมหาชนจึงได้รับอนุญาตให้พวกเขาเดินผ่านไป


อิม่ามมุฮัมมัดอัลบาเก็ร(อ)เล่าว่า :  

ในวันนั้นมีทั้งคนที่เดินเข้าไป(ในสระเกาษัรได้) และมีทั้งคนที่ถูกกันออกมา(จากสระเกาษัร)   ทันใดนั้นท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้แลเห็นผู้ที่ถูกกันออกมาจากสระ(เกาษัร)   ซึ่งเขาเป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อพวกเรา อะฮ์ลุลบัยต์นบี

ท่านรอซูล(ศ)จึงร้องไห้ออกมาและกล่าวว่า (ياَ رَبِّ شِيْعَةَ عَلِيٍّ ياَ رَبِّ شِيْعَةَ عَلِيٍّ  )

โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์  นั่นคือชีอะฮ์ของอะลีขอรับ  

โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์  นั่นคือชีอะฮ์ของอะลีขอรับ



อิม่ามมุฮัมมัดอัลบาเก็ร(อ)เล่าว่า :  

อัลเลาะฮ์จึงทรงส่งมลาอิกะฮ์ท่านหนึ่งไปหาท่าน(รอซูล)   แล้วมะลักได้ถามว่า  โอ้มุฮัมมัด  สิ่งใดทำให้ท่านร้องไห้ ?

ท่านรอซูล(ศ)ตอบว่า  

ฉันจะไม่ร้องไห้ได้อย่างไร  สำหรับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นชีอะฮ์ของอะลีบินอบีตอลิบ น้องชายของฉัน    ฉันเห็นพวกเขาได้ถูกพาไปยังฝั่งของพวกชาวนรก  และพวกเขาถูกกีดขวางมิให้เข้าไปที่สระ(เกาษัร)ของฉัน

อิม่ามมุฮัมมัดอัลบาเก็ร(อ)เล่าว่า :
 
อัลเลาะฮ์ อัซซะวะญัลทรงตรัสว่า  โอ้มุฮัมมัดเอ๋ย !  แท้จริงข้าได้มอบพวกเขาให้กับเจ้าแล้ว

ข้าไม่เอาความผิดกับพวกเขาเพื่อเจ้าแล้ว  

ข้าได้ให้พวกเขาและผู้ที่เคยมีความรักจากลูกหลานของเจ้าได้ตามไปอยู่กับเจ้า

ข้าได้จัดให้พวกเขาไปอยู่ในกลุ่มของเจ้าแล้ว

ข้าได้ให้พวกเขาเข้าไปที่สระน้ำของเจ้าแล้ว

ข้าได้ตอบรับชะฟาอะฮ์ของเจ้าแล้วเกี่ยวกับพวกเขา และข้าได้ให้เกียรติเจ้าด้วยสิ่งนั้น


จากนั้นอิม่ามอบูญะอ์ฟัร มุฮัมมัด บินอะลี บินฮูเซน(อ)ได้กล่าวว่า :

ในวันนั้น ( วันกิยามะฮ์ )  มีทั้งผู้ร้องให้ที่เป็นชายและผู้ร้องไห้ที่เป็นหญิง(มากมาย)กี่คน พวกเขาต่างร้องเรียกว่า  

โอ้ท่านนบีมุฮัมมัด  เมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งนั้น  ดังนั้นจึงไม่เหลือใครในวันนั้น  ที่เดิมเคยให้ความจงรักและภักดีต่อพวกเรา

เว้นแต่ เขาจะได้อยู่ในพรรคของเราและอยู่กับเรา และเขาจะได้เข้าไปยังสระ(เกาษัร)ของเรา  

อ้างอิงจากหนังสือ  อัลอะมาลี โดยเชคมุฟีด  เล่ม 1 : 187  หะดีษ 8
  •  

L-umar

Θ หะดีษ : 40 Θ

หะดีษชีอะฮ์ อะลี จากตำราริญาลของซุนนี่


أَخْبَرَنَا (زَكَرِيَّا بْنُ يَحْيَى) السَّاجِىُّ حَدَّثَنَا مُوسَى بْنُ إِسْحَاقَ الْكِنَانِيُّ قاَلَ حَدَّثَنَا عَبْدُ الْحَمِيدِ (بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ أَبُو يَحْيَى) الْحِمَّانِيُّ عَنْ أَبِي جَنَابٍ عَنْ أَبِي سُلَيْمَانَ عَنْ عَمِّهِ عَنْ عَلِيٍّ قَالَ :
 
قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : أَنْتَ وَشِيْعَتُكَ فِي الْجَنَّةِ وَاِنَّ قَوْماً يُقاَلُ لَهُمُ الراَّفِضَةُ فَاِنْ لَقِيْتَهُمْ فَاقْتُلْهُمْ فَاِنَّهُمْ مُشْرِكُوْنَ

الكتاب : الكامِل في ضعفاء الرجال  ج 7 ص 212  ح 2112
المؤلف : عبدالله بن عدي بن عبدالله بن محمد أبو أحمد الجرجاني
الناشر : دار الفكر – بيروت   الطبعة الثالثة ، 1409 - 1988
تحقيق : يحيى مختار غزاوي  عدد الأجزاء : 7


۞  ( ซะกะรียา บินยะห์ยา ) อัส-ซาญี เล่าให้เราฟัง  มูซา บินอิสฮ๊าก อัลกินานี เล่าให้เราฟัง เขากล่าวว่า  

อับดุลหะมีด( บิน อับดุลเราะห์มาน อบูยะห์ยา ) อัลหิมมานีเล่าให้เราฟัง เขากล่าวว่า    

จาก☺อบีญะนาบ  จากอบีสุลัยมาน จากลุงของเขา  จากท่านอะลีเล่าว่า  :


ท่านนบีมุฮัมมัด ( ศ ) กล่าวว่า  :   เจ้า ( อะลี ) กับชีอะฮ์ของเจ้า จะอยู่ในสวรรค์  

และแท้จริงจะมีคนกลุ่มหนึ่ง พวกเขามีชื่อเรียกกันว่า  พวกรอฟิเดาะฮ์  

ถ้าหากเจ้าพบเจอพวกเขา  ก็จงสังหารพวกเขา  เพราะพวกเขาคือพวกมุชริก(พวกตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์)



► สถานะหะดีษ  : ดออีฟ (อ่อนแอ )  

ดูหนังสืออัลกามิล ฟีดุอะฟาอิลริญาล โดยอิบนุอะดี    

เล่ม  7 : 212  อันดับที่ 2112




ดู ดูร็อร เน็ต  หะดีษเลขที่ 1

http://www.dorar.net/enc/hadith/%D8%B4%D9%8A%D8%B9%D9%8E%D8%AA%D9%8E%D9%83%D9%8E/yj
  •  

L-umar


Y    ทำไมหะดีษบทที่  40 จึงถูกนักวิชาการซุนนี่  ฮุก่มว่า  ดออีฟ ???


۩  อธิบาย

ท่านอิบนุอะดีเจ้าของหนังสืออัลกามิล ได้วิจารณ์หะดีษข้างต้นว่า มีสถานะ ดออีฟ

เนื่องจากอิบนุอะดีพบว่า ในสายรายงานหะดีษนี้  มีนักรายงานคนหนึ่งชื่อ ☺ อบีญะนาบ

ซึ่งนักรายงานผู้นี้ถูกวิจารณ์ว่า เขาอ่อนแอในการรายงาน  



โดยอิบนุอะดีได้รวบรวมคำวิจารณ์ของนักวิชาการไว้ดังนี้

يَحْيَى بْنُ أَبِي حَيَّةَ أَبُو جَنَابٍ الْكَلْبِيُّ كُوفِيٌّ وَاِسْمُ أَبِىْ حَيَّةَ حَيٌّ

อบีญะนาบ มีชื่อเต็มๆว่า  ยะห์ยา บินอบีหัยยะฮ์  อบูญะนาบ อัลกัลบี ชาวกูฟะฮ์ และชื่อของอบูหัยยะฮ์คือ หัยยุน

قال يحيى القطان لو استحللت ان أروى عن أبى جناب حديثا لرويت في تكبير العيد

ยะห์ยา อัลก็อฏฏอนกล่าวว่า   หากอนุญาตให้ฉันเล่าหะดีษจากอบีญะนาบได้หนึ่งบทละก้อ ฉันจะรายงานหะดีษในเรื่องการตักบีรในวันอีด

أبا نعيم يقول أبو جناب يُدَلِّسُ

อบูนุอัยมฺ กล่าวว่า  อบีญะนาบ ตัดลีสหะดีษ  คือที่สายสืบซ่อนความบกพร่อง คือไม่บอกชื่อผู้เล่า เพราะจะด้วยฐานะหรือคุณวุฒิของผู้ถูกปิดชื่อก็ตาม เรียกว่า ตัดลีสอิสนาด หรือเรียกผู้เล่าหะดีษในชื่อ, กุนยะฮ์หรือนิสบะฮ์แปลกไปจากที่เคยเรียกกัน เรียกว่า ตัดลีสชูยูค หรือคัดผู้เล่าที่อ่อนคุณสมบัติคนหนึ่งออกซึ่งคั่นอยู่ระหว่างผู้เล่าสองคนที่มีคุณสมบัติดีเรียกว่า ตัดลีส ตัสวียะฮ์

كان يحيى القطان يضعفه يقول مات سنة مائة وخمسين

ยะห์ยา อัลก็อฏฏอนได้เคย ตัฏอี๊ฟหะดีษของอบีญะนาบ และกล่าวว่า เขาตายในปีฮ.ศ. 150
   
قال السعدي أبو جناب الكلبي يضعف حديثه

อัส-สะอ์ดีได้  ตัฏอี๊ฟหะดีษของอบีญะนาบ

إبن المثنى يقول ما سمعت يحيى ولا عبد الرحمن حدثا عن أبى جناب بشيء

อิบนุมุษันนา เล่าว่าฉันไม่เคยได้ยินท่ายะห์ยาหรือท่านอับดุลเราะห์มาน เล่าหะดีษจากอบีญะนาบ

يحيى بن معين قال أبو جناب الكلبي يحيى بن أبى حية ليس به باس الا انه كان يدلس

ยะห์ยา บินมะอีนกล่าวว่า  อบีญะนาบ ไม่เป็นไร  ยกเว้นเขาเคยตัดลีสหะดีษ

أبو نعيم يقول لم يكن بأبي جناب باس الا انه كان يدلس

อบูนุอัยมฺกล่าวว่า  อบีญะนาบไม่เคยมีอะไรเลย นอกจากเขาเคยตัดลีสหะดีษ

مُحَمَّدُ بْنُ عَلِيٍّ سَأَلْتُ يَحْيَى بْنَ مَعِيْنٍ عَنْ أَبِى جَناَبٍ الْكَلْبِيِّ قاَلَ هُوَ صَدُوْقٌ

มุฮัมมัด บินอะลีเล่าว่า ฉันได้ถามยะห์ยา บินมะอีนถึงอบีญะนาบ เขาตอบว่า  อบีญะนาบ ศ่อดู๊ก คือเชื่อถือได้

قال عثمان وهو ضعيف يعني أبا جناب

อุษมานกล่าวว่า  อบีญะนาบนั้น ดออีฟ

قال عمرو بن علي أبو جناب الكوفي واسمه يحيى بن أبى حية متروك الحديث

อัมรู บินอะลีกล่าวว่า  อบีญะนาบนั้น มัตรู๊ก หะดีษ คือถูกทิ้งหะดีษ
 
قال النسائي يحيى بن أبى حية أبو جناب الكلبي كوفي ضعيف

ท่านนะซาอี กล่าวว่า อบีญะนาบ นั้น ดออีฟ


► ดูหนังสืออัลกามิล ของอิบนุอะดี  เล่ม  7 : 212  อันดับที่ 2112



เมื่อท่านได้อ่านคำวิจารณ์ทั้งหมดแล้ว   สิ่งที่ได้รับคือ

1.   อบีญะนาบ  ถูกตำหนิว่ามีสถานะ  ดออีฟและตัดลีส  ในการเล่าหะดีษ  

2.   เราพบว่า ยะห์ยาบินมะอีน ได้ยกย่องอบีญะนาบว่า  ศ่อดูก  คือเชื่อถือได้

3.   ไม่มีนักวิชาการซุนนี่คนใดตำหนิว่า  อบีญะนาบ เป็นคน โกหกหรือเป็นนักกุหะดีษ



۩   สรุป

เพราะฉะนั้น หะดีษบทนี้จึงไม่ใช่หะดีษเมาฎู๊อ์(หะดีษเก๊ หรือกุขึ้น) แต่ปัญหาคือ  อบีญะนาบ ถูกวิจารณ์ว่ามีสถานะ ไม่แข็งแรง  

กรณีหะดีษดออีฟลักษณะแบบนี้   มันจะมีสถานะแข็งแรงได้ ( อักวิยาอ์- أَقْوِياَء ) ก็ต่อเมื่อเราพบหะดีษชีอะฮ์อะลีจากสายรายงานอื่นๆที่เข้ามาสนับสนุนมัน  จึงจะมีน้ำหนักที่พอจะเชื่อถือได้ว่า  หะดีษที่ 40 นี้มีเค้ามูลความจริง

ซึ่งท่านก็ได้อ่านหะดีษชีอะฮ์อะลีมาแล้วถึง  39 บท ที่รายงานถึงคำว่า ► ชีอะฮ์ อะลี  ◄ ดังนั้นเราจึงภูมิใจแล้วที่ว่า  

☺มัซฮับชีอะฮ์อะลี ☻มีที่มาจากปากของ → ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ที่เรียกผู้ดำเนินตามท่านอะลีและอะฮ์ลุลบัยต์(ฮ)ว่า    ♥ ชีอะฮ์ ♥

ในขณะที่พวกวาฮาบี ได้อ้างว่า ตนเป็นผู้ตาม → กิตาบและซุนนะฮ์ ไม่สามารถแสดงหะดีษสักบทหนึ่งที่ท่านรอซูล(ศ)กล่าวถึงคำว่า ♂ อะฮ์ลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  

อัลฮัมดุลิลละฮ์
  •  

L-umar


۩  คำถาม

มุหัดดิษซุนนี่คนใดบ้าง ที่บันทึกหะดีษของอบีญะนาบ  



เราพบตำราหะดีษซุนนี่มากมายบันทึกหะดีษของชายผู้นี้ในนาม

1.   อบี ญะนาบ

2.   ยะห์ยา บินอบีหัยยะฮ์ อัลกัลบี

3.   อบี ญะนาบ อัลกัลบี   ดังนี้




หนึ่ง-  สุนันอบีดาวูด   หะดีษที่ 551


عَنْ أَبِى جَنَابٍ عَنْ مَغْرَاءٍ الْعَبْدِىِّ عَنْ عَدِىِّ بْنِ ثَابِتٍ عَنْ سَعِيدِ بْنِ جُبَيْرٍ عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ...  قال الألباني : صحيح
หะดีษที่ 1147
عَنْ أَبِى جَنَابٍ عَنْ يَزِيدَ بْنِ الْبَرَاءِ عَنْ أَبِيهِ أَنَّ النَّبِىَّ ... قال الألباني :حسن


สอง – สุนัน ติรมิซี  หะดีษที่ 3633

عَنْ يَحْيَى بْنِ أَبِى حَيَّةَ عَنِ الضَّحَّاكِ عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ عَنِ النَّبِىِّ


สาม – สุนันอิบนิมาญะฮ์    หะดีษที่ 91

حَدَّثَنَا يَحْيَى بْنُ أَبِى حَيَّةَ أَبُو جَنَابٍ الْكَلْبِىُّ عَنْ أَبِيهِ عَنِ ابْنِ عُمَرَ قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ ...  قال الألباني : صحيح
 
หะดีษที่ 3669
عَنْ أَبِى جَنَابٍ عَنْ أَبِيهِ عَنِ ابْنِ عُمَرَ قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ


สี่ -  มุสนัดอิหม่ามอะหมัด หะดีษที่ 28434

حَدَّثَنَا أَبُو جَنَابٍ يَحْيَى بْنُ أَبِى حَيَّةَ الْكَلْبِىُّ عَنْ يَحْيَى بْنِ هَانِئِ بْنِ عُرْوَةَ عَنْ فَرْوَةَ بْنِ مُسَيْكٍ قَالَ أَتَيْتُ رَسُولَ اللَّهِ


ห้า- อัลมุสตัดร็อกอัลฮากิม หะดีษที่ 1069

حدثنا يحيى بن أبي حية ، عن عكرمة ، عن ابن عباس ، أن رسول الله...
وقد اتفق الشيخان على إخراجها في الصحيح »


หก- ต็อบรอนี ในมุอ์ญัมกะบีร หะดีษที่ 12636

حدثنا سفيان الثوري عن يحيى بن أبي حية أبي جناب عن الضحاك عن ابن عباس : قال قال رسول الله


เจ็ด- สุนันบัยฮะกี หะดีษที่ 4635

حَدَّثَنَا أَبُو جَنَابٍ الْكَلْبِىُّ عَنْ عِكْرِمَةَ عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ


แปด – มุสนัดอบียะอ์ลา หะดีษที่ 1594

حَدَّثَنَا أَبُو جَنَابٍ يَحْيَى بْنُ أَبِي حَيَّةَ ، عَنْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ أَبِي لَيْلَى ، عَنْ رَجُلٍ ، عَنْ أَبِيهِ ، قَالَ : جَاءَ رَجُلٌ إِلَى النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم


เก้า- มุสนัดอับดุ บินหุมัยดฺ หะดีษที่ 659

عن يحيى بن أبي حية ، عن الضحاك بن مزاحم ، عن ابن عباس قال : قال رسول الله


สิบ – อัต-ต่อฮาวี ในมุชกิลุลอาษ้าร หะดีษที่ 1679

عن أبي جناب ، عن الشعبي ، عن زيد بن يثيع ، عن علي بن أبي طالب رضي الله عنه قال : كنت عند النبي...


สิบเอ็ด- อิบนิอบีชัยบะฮ์ ในมุศ็อนนัฟ  หะดีษที่ 26393

عن أبي جناب عن أبيه عن بن عمر قال قال رسول الله


สิบสอง- อับดุลเราะซ๊าก ในมุศ็อนนัฟ  หะดีษที่ 5658

عبد الرزاق عن بن عيينة عن أبي جناب قال سمعت يزيد بن البراء بن عازب يحدث عن أبيه قال لما كان يوم الاضحى أتى النبي (ص) البقيع...

เราได้ยกตัวอย่างมุหัดดิษซุนนี่ทั้งสิบสองท่านนี้มาว่า พวกเขาได้บันทึกหะดีษของอบีญะนาบไว้ในตำราหะดีษของพวกเขา

ก็เพื่อแสดงให้รู้ว่า   ► อบีญะนาบ ผู้เล่าหะดีษ ♥ " ชีอะฮ์อะลี " นั้นอย่างน้อยนักวิชาการหะดีษซุนนี่ก็ให้การยอมรับหะดีษของอบีญาบไว้ในตำราของพวกเขาไว้มากมายเช่นกัน


หากว่า  อบีญะนาบเป็นนักกุหะดีษ หรือชอบเล่าหะดีษปลอม คงไม่มีนักรายงานมากมายขนาดนี้ยอมบันทึกหะดีษของเขาเป็นแน่
  •  

L-umar


۩   คำถามที่สำคัญคือ

นักวิชาการซุนนี่คนใดบ้างที่วิจารณ์ว่า อบีญะนาบเชื่อถือได้ในการรายงานหะดีษ  ?



۞ นักวิชาการซุนนี่ที่วิจารณ์ อบีญะนาบ  เชื่อถือได้ มีดังต่อไปนี้...



อิบนุหิบบาน   ให้การเชื่อถือต่ออบีญะนาบ

ดูหนังสืออัษษิกอต อิบนิหิบบาน  เล่ม 7 : 597 อันดับที่ 11639



อัลอิจญ์ลี   ให้การเชื่อถือต่ออบีญะนาบ
 
ดูหนังสืออัษษิกอต อัลอิจญ์ลี  เล่ม 2 : 350 อันดับที่ 1973


อัซ-ซะฮะบีเล่าว่า

قال أبو زرعة: صدوق يدلس
وروى عثمان عن ابن معين: صدوق

อบูซัรอะฮ์กล่าวว่า  อบีญะนาบ  เชื่อได้  แต่ตัดลีส
ยะห์ยาบินมะอีนกล่าวว่า  อบีญะนาบ เชื่อได้
ดูหนังสือมีซานุลอิ๊อฺติดาล  เล่ม 4 : 371 อันดับที่ 9491


อิบนิอบีหาติมเล่าว่า

قال أبو نعيم: أبو جناب ثقة، كان يدلس احاديثه مناكير.
อบูนุอัยม์กล่าวว่า  อบีญะนาบ  ษิเกาะฮ์  คือเชื่อถือได้ในการายงาน เขาเคยตัดลีสหะดีษของเขา และมีหะดีษมุงกัร

عبد الله بن نمير يقول: أبو جناب يحيى بن ابى حية صدوق، كان صاحب تدليس، افسد حديثه بالتدليس
อับดุลลอฮ์ บินนุมัยรฺกล่าวว่า อบีญะนาบ  เชื่อได้ เขาเคยตัดลีส จนทำให้หะดีษเขาเสียหายเพราะการตัดลีส
ดูหนังสืออัลญัรฮุ วัตตะอ์ดีล   เล่ม 9 : 138 อันดับที่ 587


อิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานีเล่าว่า

يزيد بن هارون يقول كان صدوقا ولكن قال يدلس
وقال ابن خراش كان صدوقا

ยะซีด บินฮารูนกล่าวว่า  อบีญะนาบ เชื่อได้ แต่เขาตัดลีส
อิบนุคิร็อช กล่าวว่า  อบีญะนาบเชื่อได้
ดูหนังสือตะฮ์ซีบุต-ตะฮ์ซีบ   เล่ม 11 : 177 อันดับที่ 340
 

ดูคำอธิบายความหมายของคำ  ตัดลีส   ได้ที่นี่

http://www.mureed.com/Hadis/Hadis5.htm




۩  บทสรุป    

ใช่ว่าอุละมาอ์ซุนนี่จะวิจารณ์ หรือตัดสินว่า  ♦ อบีญะนาบ  เป็นนักรายงานหะดีษที่ไม่แข็งแรงหรือดออีฟไปเสียทั้งหมด  

☺ อย่างน้อยก็มีส่วนหนึ่งที่ให้การยกย่องอบีญะนาบ  และใช่ว่าการที่เรายกคำวิจารณ์เหล่านี้มาให้พวกวาฮาบีอ่าน  เพื่อจะยืนยันว่า   สถานะของอบีญะนาบนั้นเชื่อถือได้


► แต่จุดประสงค์ของเราคือ  ต้องการพิสูจน์ให้รู้ว่า   ไม่มีอุละมาอ์ซุนนี่คนไหนบอกว่า  " อบีญะนาบ " เป็นนักกุหะดีษ แล้วอ้างว่า ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)กล่าว...  

เพียงแต่ตัวของอบีญะนาบนั้นไม่อยู่ในระดับที่แข็งแรงเท่านั้นจึงทำให้หะดีษของเขาต้องดออีฟ

۞ ชาวซุนนี่โดยส่วนมากคงไม่ยินยอมให้  " อบีญะนาบ "  มีสถานะเชื่อได้ในการรายงาน

เพราะ ถ้าเป็นเช่นนั้นหะดีษบทที่ 40 ที่ท่านอบีญะนาบรายงานเรื่องที่ท่านนบี(ศ)กล่าวถึงชีอะฮ์อะลี  จะกลายเป็นหลักฐานสำหรับชีอะฮ์เอามาหักล้างชาวอะฮ์ลุสซุนนะฮ์ในอนาคตอย่างแน่นอน


۞ จะอย่างไรก็ตาม

► หะดีษดออีฟ(ที่มีผู้เล่าไม่แข็งแรง) กับ ۝ หะดีษเมาฎู๊อฺ(หะดีษเก๊) นั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง


ท่านจะไปเหมา " หะดีษดออีฟ " ให้เป็น " หะดีษ ► เมาฎู๊อฺ " ไปเสียหมดนั้นไม่ได้  เพราะไม่มีนักวิชาการคนใดเขาพูดกันอย่างนั้น  และหะดีษดออีฟนั้นใช่ว่าจะต้องมีคนโกหกเสมอไปด้วย


คำถามสำหรับวาฮาบี

หะดีษดออีฟ(อ่อนแอ)กับหะดีษเมาฎู๊อฺ(เก๊) นั้นแตกต่างกันอย่างไร ?

มีนักปราชญืซุนนี่คนใดบ้าง ที่กล่าวว่า อบีญะนาบ คือนักกุหะดีษ  ?
  •  

L-umar



ชีอะฮ์แปลว่าอะไร ?

ทางภาษาศาสตร์แปลว่า :  ผู้ดำเนินตาม  ผู้ให้การช่วยเหลือ มาจากรากศัพท์   شِـيَاعٌ


ชีอะฮ์คือใคร ?

ต่อมาคำนี้กลายเป็นศัพท์เฉพาะ ใช้เรียกกลุ่มคนที่ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะอาลิฮี  เรื่องอะฮ์ลุลบัยต์ อะลัยฮิมุสสลามคือผู้นำสืบทอดต่อจากท่าน


ใครคือคนแรกที่ตั้งชื่อ ชีอะฮ์ ?

ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะอาลิฮี คือบุคคลแรกที่ตั้งชื่อชีอะฮ์นี้ให้กับบุคคลที่ติดตามท่านอะลี อะลัยฮิสสลามเช่น ท่านซัลมาน ฟาริซี, มิกด๊าด, อบูซัร, อัมมาร, อบูลัยลา, ชับบีร, อบู สินาน, อบู อัมเราะฮ์, อบู สะอีด อัลคุดรี, อบู บะเราะซะฮ์, ญาบิร บินอับดุลลอฮฺ, อัลบัรรออ์ บิน อาซิบ, ฏ็อรฟะฮ์ อัลอะซะดี, ฮะญัร บินอะดี  เป็นต้น



ชีอะฮ์ในอัลกุรอาน

อัลกุรอานกล่าวถึงศัพท์คำนี้ (ع - ي- ش)  ไว้  12  ครั้ง  คือ :


1- قُلْ هُوَ الْقَادِرُ عَلَى أَنْ يَبْعَثَ عَلَيْكُمْ عَذَابًا مِنْ فَوْقِكُمْ أَوْ مِنْ تَحْتِ أَرْجُلِكُمْ أَوْ يَلْبِسَكُمْ شِيَعًا (الانعام : 65)
จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) พระองค์คือผู้ทรงสามารถที่จะส่งการลงโทษมายังพวกท่านจากเบื้องบนของพวกท่านหรือจากใต้เท้าของพวกท่าน หรือให้พวกท่านปะปนกันโดยมีหลายพวก(ชีอะฮ์)


2-إِنَّ الَّذِينَ فَرَّقُوا دِينَهُمْ وَكَانُوا شِيَعًا (الانعام : 159)
แท้จริงบรรดาผู้ที่แบ่งแยกศาสนาของพวกเขา และพวกเขาได้กลายเป็นกลุ่มต่างๆ(ชีอะฮ์)


3-وَلَقَدْ أَرْسَلْنَا مِنْ قَبْلِكَ فِي شِيَعِ الْأَوَّلِينَ (الحجر : 10)
และโดยแน่นอน ก่อนหน้าเจ้าเราได้ส่ง(บรรดารอซูล)มาในหมู่คณะต่างๆ(ชีอะฮ์)ในสมัยก่อนๆ


4-ثُمَّ لَنَنْزِعَنَّ مِنْ كُلِّ شِيعَةٍ أَيُّهُمْ أَشَدُّ عَلَى الرَّحْمَنِ عِتِيًّا (مريم : 69)
แล้วต่อมา แน่นอนเราจะดึงออกจากทุกๆคณะ(ชีอะฮ์) ใครในหมู่พวกเขาที่ดื้อรั้นที่สุดต่ออัลลอฮ์


5-إِنَّ الَّذِينَ يُحِبُّونَ أَنْ تَشِيعَ الْفَاحِشَةُ فِي الَّذِينَ آَمَنُوا لَهُمْ عَذَابٌ أَلِيمٌ فِي الدُّنْيَا وَالْآَخِرَةِ (النور: 19)
แท้จริงบรรดาผู้ที่ชอบ แพร่หลาย เรื่องเลวร้ายไปในหมู่ผู้ศรัทธานั้น....


6-إِنَّ فِرْعَوْنَ عَلَا فِي الْأَرْضِ وَجَعَلَ أَهْلَهَا شِيَعًا  (القصص : 4)
แท้จริงฟิรเอานฺนั้นหยิ่งผยองในแผ่นดิน และทำให้ประชาชนแตกแยกเป็นกลุ่มๆ(ชีอะฮ์)


7-وَدَخَلَ الْمَدِينَةَ عَلَى حِينِ غَفْلَةٍ مِنْ أَهْلِهَا فَوَجَدَ فِيهَا رَجُلَيْنِ يَقْتَتِلَانِ هَذَا مِنْ شِيعَتِهِ وَهَذَا مِنْ عَدُوِّهِ (القصص : 15)
และเขา(มูซา)ได้เข้ามาในเมือง ขณะที่ชาวเมืองกำลังพักผ่อน เขาได้เห็นชายสองคนต่อสู้กันอยู่ในนั้น คนหนึ่งมาจากพวก(ชีอะฮ์)ของเขา(มูซา) และอีกคนหนึ่งมาจากฝ่าย(ที่เป็น)ศัตรูของเขา


8-فَاسْتَغَاثَهُ الَّذِي مِنْ شِيعَتِهِ  (القصص : 15)
ดังนั้น คนที่มาจากพวก(ชีอะฮ์)ของเขา(มูซา)ได้ร้องขอความช่วยเหลือ


9-مِنَ الَّذِينَ فَرَّقُوا دِينَهُمْ وَكَانُوا شِيَعًا كُلُّ حِزْبٍ بِمَا لَدَيْهِمْ فَرِحُونَ (الروم:32)
(คือ)ในหมู่ผู้แบ่งแยกศาสนาของพวกเขาออกเป็นนิกายต่างๆ(ชีอะฮ์) และทุกพรรคก็พอใจต่อสิ่งที่พวกเขามีอยู่


10-وَحِيلَ بَيْنَهُمْ وَبَيْنَ مَا يَشْتَهُونَ كَمَا فُعِلَ بِأَشْيَاعِهِمْ مِنْ قَبْلُ إِنَّهُمْ كَانُوا فِي شَكٍّ مُرِيبٍ (سبأ : 54)
และระหว่างพวกเขากับสิ่งที่พวกเขาต้องการมีสิ่งกีดขวาง ดังเช่นที่ถูกปฏิบัติมาก่อนแล้วกับพรรคพวก(ชีอะฮ์)ของพวกเขา แท้จริงพวกเขานั้นอยู่ในความสงสัย ความสนเท่ห์


11-وَإِنَّ مِنْ شِيعَتِهِ لَإِبْرَاهِيمَ (الصفات : 83)
และแท้จริงจากชีอะฮ์ของเขา(นู๊หฺ) คือ อิบรอฮีม


12-وَلَقَدْ أَهْلَكْنَا أَشْيَاعَكُمْ فَهَلْ مِنْ مُدَّكِرٍ (القمر : 51)
และโดยแน่นอน เราได้ทำลายกลุ่มชน(ชีอะฮ์) เช่นพวกเจ้าแล้วมีผู้ใดบ้างที่รับข้อตักเตือนนั้น
  •  

L-umar



หะดีษชีอะฮ์ จากตำรามัซฮับอะฮ์ลุลบัยต์  อะลัยฮิมุสสลาม



(رَوَي أَبُوْ جَعْفَر مُحَمَّدُ بْنُ الْحَسَنِ بْنِ فَروخ  الصَّفَّار) :
قَالَ الْاِمَامُ اَبُوْ مُحَمَّدٍ الْحَسَنُ بْنُ عَلِيٍّ الْعَسْكَرِيٍّ عَلَيْهُمُ السَّلاَم عَنْ آبَائِهِ :
قَالَ رَسُوْلُ الله صلى الله عليه وآله: عَجَبًا لِلْعَبْدِ الْمُؤْمِنِ مِنْ شِيْعَةِ مُحَمَّدٍ وَعَلِيٍّ عَلَيْهِمَا السَّلاَم أَنْ يُنْصَرَ فِي الدُّنْيَا عَلَى أَعْدَائِهِ، فَقَدْ جُمِعَ لَهُ خَيْرَ الدَّارَيْنِ، وَاِنَّ مَا امْتُحِنَ فِي الدُّنْيَا ذُخِرَ لَهُ فِي الْآخِرَةِ،

تَفْسِيْرُ : اَلْمَنْسُوْبُ اِلَي الْاِمَامِ الْحَسَنِ الْعَسْكَرِيِّ (ع) ص 18  حديث رقم : 339
لِلثِّقَةِ الجَلِيْلِ وَالْمُحَدِّثِ النَّبِيْل شَيْخُ الْقُمِّيين اَبُوْجَعْفَر مُحَمَّدُ بْنُ الْحَسَنِ بْنِ فروخ \\\" الصَّفَّار\\\" مِنْ اَصْحَابِ الْاِمَامِ الْحَسَنِ الْعَسْكَرِىِّ (ع) المتوفى 290 من الهجرة النبوية


ท่านมุฮัมมัด บินฮาซัน อัศ-ศ็อฟฟ้ารเล่าว่า :  ท่านอิม่ามฮาซัน อัสการี ( อิม่ามที่ 11) รายงานจากบรรพบุรุษของท่านว่า :

ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า :

ช่างน่าแปลกใจต่อบ่าวผู้ศรัทธาที่เป็นชีอะฮ์ของมุฮัมมัดและอะลี  ที่จะได้รับการช่วยเหลือในโลกดุนยาเหนือเหล่าศัตรูของเขา  แน่นอนความดีงามแห่งบ้านทั้งสอง(คือดุนยาและอาคิเราะฮ์)ได้ถูกรวมไว้สำหรับเขา และแท้จริงสิ่งที่เขาถูกทดสอบในโลกดุนยา มันจะถูกจัดเป็นเสบียงสำหรับเขาไว้ในโลกอาคิเราะฮ์


สถานะหะดีษ : สายรายงานเชื่อถือได้

ดูตัฟสีร อัลมันซูบ อิลัลอิม่ามอัลฮาซัน อัลอัสการี (อ) หน้า 18 หะดีษอันดับที่ 339



ดูวิเคราะห์มุฮัมมัด บิน อัลฮาซัน อัศ-ศ็อฟฟ้าร  

มุฮัมมัด บิน อัลฮาซัน อัศ-ศ็อฟฟ้าร

ท่านนะญาชีกล่าวว่า :

มุฮัมมัด บินฮาซัน อัศ-ศ็อฟฟ้ารเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในบรรดาซอฮาบะฮ์ชาวเมืองกุมของเรา การรายงานเชื่อถือได้ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูง มีน้ำหนักด้านความรู้ มีการรายงานตกหล่นเล็กน้อย  
อ้างอิงจากหนังสือ : ริญาลุน- นะญาชี  1 : 251 อันดับที่  948

ท่านอัลลามะฮ์ฮิลลีกล่าวว่า :

มุฮัมมัด บินฮาซัน อัศ-ศ็อฟฟ้ารเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในบรรดาซอฮาบะฮ์ชาวเมืองกุมของเรา การรายงานเชื่อถือได้ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูง มีน้ำหนักด้านความรู้ มีการรายงานตกหล่นเล็กน้อย
อ้างอิงจากหนังสือ : คุลาเศาะตุลอักวาล  27 : 18 อันดับที่ 112


สรุปได้ว่า

ท่านมุฮัมมัดฮาซัน อัศ-ศ็อฟฟ้ารนั้นเป็น ซอฮาบะฮ์ของท่านอิม่ามฮาซัน อัสการี่ (อ)อิม่ามที่ 11  การรายงานของท่านได้รับการรับรองว่า เชื่อถือได้
  •  

L-umar



ชีอะฮ์จากตำรามัซฮับอะฮ์ลุสซุนนะฮ์




حَدَّثَنَا اِبْن حُمَيْد , قَالَ : ثنا عِيسَى بْن فَرْقَد , عَنْ أَبِي الْجَارُود , عَنْ مُحَمَّد بْن عَلِيّ { أُولَئِكَ هُمْ خَيْر الْبَرِيَّة } فَقَالَ النَّبِيّ صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : \\\" أَنْتَ يَا عَلِيّ وَشِـيعَتُكَ \\\"
تفسير جامع البيان في تفسير القرآن/ الطبري (ت 310 هـ)

ท่านอิบนุ หุมัยดฺเล่าให้เราฟัง, ท่านอีซา บิน ฟัรก็อดเล่าให้เราฟัง, จากท่านอบุล ญารูด(ซิยาด บินอัลมุนซิร)

จากท่านมุฮัมมัด บินอะลี(อัลบาเก็ร) เมื่อโองการ (พวกเขาเหล่านั้นคือ มนุษย์ที่ดียิ่ง)

ท่านนบี(ศ)ได้กล่าวว่า(โองการนี้) : โอ้อะลีคือท่านและชีอะฮ์ของท่าน

ดูตัฟสีรอัฏ-ฏ็อบรี   โดยมุฮัมมัด อิบนุ ญะรีร อัฏฏ็อบรี มรณะฮ.ศ.310 เล่ม 12 หน้า 657 หะดีษที่ 29208


عن الأعمش عَنْ عَطِيَّةَ الْعَوْفِيِّ عَنْ جَابِر رضي الله عنه قَالَ \\\" كُنَّا نَعُدُّ عَلِيًّا مِنْ خِيَارِنَا وَهذَا حَقٌّ \\\"
لسان الميزان - (ج 1 / ص 72

จากอัลอะอ์มัช จากอะตียะฮ์ อัลเอาฟี จากท่านญาบิร (ร.ฎ.)กล่าวว่า :

พวกเราได้นับว่าท่านอะลีเป็นหนึ่งจากคนดีของพวกเรา  ( อิบนุ หะญัร อัลอัสเกาะลานี กล่าวว่า) และนี่คือความจริง

หนังสือลิซานุลมีซาน โดยอิบนุหะญัร  เล่ม 1 หน้า 72



ฝ่ายซุนนี่วิจารณ์ว่า


1.   เป็นหะดีษมุรซัล เพราะท่านมุฮัมมัด บินอะลี(อ)กับท่านนบี(ศ)ไม่ได้อยู่ในสมัยเดียวกัน
2.   ผู้รายงานหะดีษนี้  ไม่ษิเกาะฮ์(คือเชื่อไม่ได้)  

คำตอบ

1- ท่านอิบนุ ตัยมียะฮ์ถูกถามว่า ตัฟสีรเล่มใดใกล้เคียงกับกิตาบและซุนนะฮ์มากที่สุด ?

أَمَّا التَّفَاسِيْرُ الَّتِي فِيْ أَيْدِي النَّاسِ فَأَصَحُّهَا تَفْسِيْرَ مَحَمَّدِ بْنِ جَرِيْر الطَّبْرِي فَإنَّهُ يَذْكُرُ مَقَالَاتِ السَّلَفِ بِالْأسَانِيْدِ الثَّابِتَةِ وَلَيْسَ فِيْهِ بِدْعَةٌ وَلَا يَنْقُلُ عَنِ الْمُتَّهَمِيْنَ   مجموع الفتاوى  ج 13  ص 385

เขาตอบว่า : ตัฟสีรทั้งหลายที่อยู่ในมือผู้คน เล่มที่ถูกต้องที่สุดคือ ตัฟสีรของท่านมุฮัมมัด บิน ญะรีร อัฏ-ฏ็อบรี เพราะเขากล่าวถึงคำพูดต่างๆของสะลัฟด้วยสายรายงานที่มั่นคง และในตัฟสีรนี้ไม่มีบิดอะฮ์ และเขาไม่รายงานหะดีษจากผู้ถูกกล่าวหาหรือถูกสงสัยทั้งหลาย(ในเรื่องหะดีษ)
มัจญ์มูอุล ฟะตาวา โดยอิบนุ ตัยมียะฮ์ เล่ม 13 หน้า 385  
เพราะท่านอิบนุตัยมียะฮ์รับรองว่า ตัฟสีรอัฏ-ฏ็อบรีเป็นตัฟสีรที่ดีที่สุดของฝ่ายซุนี่ เราจึงนำหะดีษในตัฟสีรเล่มนี้มาใช้อ้างอิง  

2- บรรดาอิม่ามแห่งอะฮ์ลุลบัยต์(อ)รายงานหะดีษจากท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ในลักษณะแบบนี้คือ

(روي محمد بن يعقوب هو شيخ الكليني) عن :
علي بن محمد، عن سهل بن زياد، عن أحمد بن محمد، عن عمر بن عبدالعزيز عَنْ هِشَامِ بْنِ سَالِمٍ وَ حَمَّادِ بْنِ عُثْمَانَ وَ غَيْرِهِ قَالُوا سَمِعْنَا أَبَا عَبْدِ اللَّهِ ( عليه السلام ) يَقُولُ حَدِيثِي حَدِيثُ أَبِي وَ حَدِيثُ أَبِي حَدِيثُ جَدِّي وَ حَدِيثُ جَدِّي حَدِيثُ الْحُسَيْنِ وَ حَدِيثُ الْحُسَيْنِ حَدِيثُ الْحَسَنِ وَ حَدِيثُ الْحَسَنِ حَدِيثُ أَمِيرِ الْمُؤْمِنِينَ ( عليه السلام ) وَ حَدِيثُ أَمِيرِ الْمُؤْمِنِينَ حَدِيثُ رَسُولِ اللَّهِ ( صلى الله عليه وآله ) وَ حَدِيثُ رَسُولِ اللَّهِ قَوْلُ اللَّهِ عَزَّ وَ جَلَّ .  
درجة الحديث : موثق    الكافي ج 1  ص 53  ح : 14

ท่านอิม่ามศอดิก อะลัยฮิสสลามกล่าวว่า  :

หะดีษของฉันคือ หะดีษของบิดาฉัน(คืออิม่ามบาเก็ร), หะดีษของบิดาฉันคือ หะดีษของปู่ฉัน(คืออิม่ามอะลี บินฮูเซน), หะดีษของปู่ฉันคือหะดีษของท่านอิม่ามฮูเซน, หะดีษของท่านอิม่ามฮูเซนคือหะดีษของท่านอิม่ามฮาซัน,  หะดีษของท่านอิม่ามฮาซันคือหะดีษของท่านอิม่ามอมีรุลมุอ์มินีน, หะดีษของท่านอิม่ามอมีรุลมุอ์มินีนคือ คำพูดของท่านรอซูลุลลอฮ์  และคำพูดของท่านรอซูลุลลอฮ์คือ พระดำรัสของอัลลอฮ์ อัซซะวะญัล

สถานะหะดีษ  :  มุวัษษัก (เชื่อได้ )

อัลกาฟี  เชคกุลัยนี  เล่ม 1 หน้า 52 หะดีษที่  7  
  •  

L-umar


บทสรุปการวิจัยเรื่อง    ที่มาของมัซฮับชีอะฮ์อะลี


1.   หะดีษชีอะฮ์อะลี    มีหะดีษรายงานไว้ทั้งสองฝ่าย คือทั้งซุนนี่และชีอะฮ์

2.   สถานะของหะดีษ    มีสายรายงานหะดีษบางบท  ซึ่งอยู่ในระดับที่เชื่อถือได้ทั้งสองฝ่าย

3.   หะดีษชีอะฮ์อะลี ที่มีรายงานเอาไว้ทั้งสองฝ่าย คือหลักฐานลบล้างข้อมูลผิดๆที่ให้ร้ายกลุ่มชีอะฮ์อะลีว่า




- พวกชีอะฮ์เกิดขึ้นหลังจากท่านอุษมาน บิน อัฟฟานถูกสังหาร  

- พวกชีอะฮ์มีที่มาจากนายอับดุลลอฮ์ บิน สะบะอฺ ชาวยิว  



เพราะฉะนั้น เมื่อท่านใดที่เป็นชีอะฮ์อะลีถูกสอบถามว่า   ใครตั้งชื่อชีอะฮ์คนแรก ?  

คำตอบที่ถูกต้องคือ     ท่านรอซูลุลลอฮ์  (ศ็อลฯ)  



แต่ถ้าท่านใดไม่ยอมรับหะดีษชีอะฮ์อะลีที่รายงานไว้ทั้งสองฝ่าย ขอจบการสนทนาด้วยกุรอ่านที่ว่า

وَإِذَا خَاطَبَهُمُ الْجَاهِلُوْنَ قَالُوْا سَلاَماً

เมื่อพวกไร้ความรู้ ได้สนทนากับพวกเขา(มุอ์มิน) พวกเขาจะกล่าวว่า ขอสันติพึง(มีแด่พวกท่าน )  

ซูเราะฮ์อัลฟุรกอน : 63
  •  

L-umar


คำถามสำหรับวาฮาบี


กรุณายกหะดีษมาเพียงหนึ่งบท  ที่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)กล่าวว่า



อะอ์ลุส ซุนนะฮ์ วัลญะมาอะฮ์    จะได้เข้าสวรรค์  ???
  •  

L-umar

۩  ท่านอุมัร  บินชับบะฮ์ (เกิด173 มรณะ202 ฮ.ศ.) รายงานว่า


حَدَّثَنَا هَارُونُ بْنُ عمر قاَلَ، حَدَّثَنَا أَسَدُ بْنُ مُوسَى قاَلَ، حَدَّثَنَا مُعَاوِيَةُ بْنُ صَالِحٍ عَنْ رَبِيعَةَ بْنِ يَزِيدَ أَنَّ عَبْدَ اللّهِ حَدَّثَهُ، أَنَّ النُّعْمَانَ بْنَ بَشِيرٍ رضي الله عنهما حَدَّثَهُ قاَلَ: كَتَبَ مَعِيْ مُعاَوِيَّةُ إِلَى عَائِشَةَ رضي الله عنهما قاَلَ : وَآلُ عُمَرَ يَوْمَئِذٍ آمِنُوْنَ فِي الناَّسِ مِنْ شِيْعَةِ عَلِيٍ وَمِنْ شِيْعَةِ عُثْماَنَ فَسَرْتُ حَتَّى نَزَلْتُ تَبُوْكَ فِي نَاحِيَّةٍ إِلَى جاَنِبِ قاَرَةَ فَإِذاَ شَيْخاَنِ قَدْ أَقْبَلاَ إليَّ فَقاَلاَ مَنِ: الرجلُ. فَقُلْتُ أَناَ أَبُوْ عَبْدُ اللهِ. فَقاَلاَ: وَمِمَّنْ أَنْتَ ? قُلْتُ: مَوْلَى لِعُمَرَ بْنِ الْخَطاَّب.

ฮารูน บินอุมัรเล่าให้เราฟังเขากล่าวว่า อะสัด บินมูซาเล่าให้เราฟัง เขากล่าวว่า มุอาวียะฮ์ บินซอและห์เล่าให้เราฟัง จากร่อบีอะฮ์ บินยาซีดเล่าให้เราฟังว่า อับดุลเลาะฮ์ได้เล่าให้เขาฟังว่า  แท้จริงท่านนุอ์มาน บินบะชีรได้เล่าให้เขาฟังว่า   :

มุอาวียะฮ์ได้เขียนสารมากับฉันให้ส่งไปยังท่านหญิงอาอิชะฮ์  เขากล่าวว่า  

วงศ์วานของท่านอุมัร(บินคอตตอบ)ในวันนั้นคือผู้ได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัยในหมู่ประชาชนจาก→ชีอะฮ์อาลีและจาก→ชีอะฮ์อุษมาน

ฉันจึงเดินทางจนกระทั่งมาถึงตะบู๊กด้านหนึ่งที่จะไปยังกอเราะฮ์  ทันใดนันั้นเองมีชายสองคนมุ่งตรงเข้ามาหาฉันแล้วเขาทั้งสองถามว่า  ชายคนนั้นเป็นใคร ?  ฉันตอบว่า ฉันคือบิดาของอับดุลลอฮ์ แล้วทั้งสองถามว่า เจ้าเป็นพวกไหน ?  ฉันตอบว่า ฉันคือคนรับใช้ของท่านอุมัรบินคอตตอบ  


► ดูหนังสือ
ตารีค มะดีนะฮ์ มุเนาวะเราะฮ์  โดยอุมัร บินชับบะฮ์  เล่ม 2 : 222

كتاب : تاريخ المدينة المنورة  لعُمَر بْن شَبَّة (173 – 202 هـ.) ج 2 ص 222

หนังสือตารีคมะดีนะฮ์คือหลักฐานอ้างอิงเก่าแก่ที่สุดเล่มหนึ่งที่อยู่มาถึงเราและยังนับได้ว่าเป็นหลักฐานอ้างอิงที่สำคัญหนึ่งของท่านต็อบรีในหนังสือตารีคของเขาอีกด้วย



Θคำถามสำหรับวาฮาบี

ตอนนั้นอะฮุ์ลุสซุนนะฮ์เกิดหรือยัง  และถ้าเกิดแล้วอยู่ฝ่ายไหนหรือ ???


ชีอะฮ์อาลี
ชีอะฮ์อุษมาน
หรือชีอะฮ์ อาลิอะบีสุฟยาน  ที่ด่าทอสาปแช่งอะฮ์ลุลบัยต์นะบี(ศ)
  •  

L-umar


อะฮ์ลุสซุนนะฮ์รู้จักเรียกพวกชีอะฮ์อาลี ว่า  ►รอฟิเดาะฮ์◄  เมื่อไหร่ ???



ตอบ

۩  รอฟิเดาะฮ์   →คือชื่อที่อะฮ์ลุสซุนนะฮ์อ้างว่า  

ในยุคที่ฮิช่าม บินอับดุลมะลิกแห่งราชวงศ์อุมัยยะฮ์ครองราชย์ ( ปีฮ.ศ. 105-125 )   พวกชีอะฮ์อาลีในสมัยนั้นไม่ยอมรับว่า   ท่านเซด บินอาลีบินฮูเซน  คือหนึ่งใน 12 อิม่ามผู้นำที่ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้ระบุไว้ให้พวกเขาปฏิบิตตาม    ดังนั้นท่านเซด บินอาลี ซัยนุลอาบิดีนจึงเรียกชีอะฮ์อาลีนี้ว่า  ☺รอฟิเดาะฮ์ ☺



คำถามสำหรับวาฮาบี



1.   เราได้กล่าวถึงคำ" ชีอะฮ์ " จากอัลกุรอ่าน  และคำ " ชีอะฮ์อาลี "จากหะดีษไปมากมายแล้ว  แต่คำ " อะฮ์ลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ " อยู่ตรงไหนในกุรอ่านหรือหะดีษ
 
2.   เมื่ออะฮ์ลุสซุนนะฮ์เล่าว่า  ท่านเซด บินอาลีบินฮูเซน  คือผู้ตั้งชื่อให้ชีอะฮ์อาลีว่า " รอฟิเดาะฮ์  "  ท่านมีสิทธิเรียกเช่นนั้น  แต่ในเมื่อท่านเรียกตัวพวกท่านเองว่า  อะฮ์ลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์  เราจึงขอถามว่า  คนแรกที่ตั้งชื่อนี้เป็นใคร

3.   ที่ชีอะฮ์อาลีไม่ยอมรับว่า  " ท่านเซดบินอาลี  " คืออิม่ามผู้นำของพวกเขาก็เนื่องจากว่า ชีอะฮ์ไม่พบหลักฐานใดๆที่ท่านนะบี(ศ)หรืออิม่ามอาลี  อิม่ามฮาซัน อิม่ามฮูเซน และอิม่ามอาลีซัยนุลอาบิดีนบิดาของท่านเซดเอง  ที่สั่งเสียแต่งตั้งท่านเซดบินอาลีเป็นอิม่ามสืบต่อ  ดังนั้นหากท่านมีหลักฐานการแต่งตั้งท่านเซดบินอาลีเป็นอิม่าม  โปรดแสดง...

4.   ชีอะฮ์คือชื่อที่ท่านรอซูล(ศ)ตั้งให้ตามหลักฐานที่กล่ามาแล้ว   แต่ทำไมท่านจึงไม่ละอายใจที่หาหลักฐานจากกิตาบและซุนนะฮ์มาพิสูจน์ชื่อกลุ่มของพวกท่านไม่ได้   ด้วยเหตุนี้พวกท่านจึงพยายามยัดเหยียดคำ " รอฟิเดาะฮ์ " มาให้เราชาวชีอะฮ์แทน  เพราะท่านรู้ดีว่าคำนี้ไม่มีที่มาจากกิตาบและซุนนะฮ์เหมือนคำฮ์ว่าอะฮ์ลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์นั่นเอง  เพราะถ้ามีท่านคงแสดงออกมานานแล้ว
  •  

L-umar


หนังสือ ซอฮี๊ฮ์ มสุลิม  หะดีษที่ 747


กล่าวถึงคำ  

[color=]الشِّيعَتَيْنِ[/color]

ชีอะฮ์สองกลุ่ม

ดูหะดีษได้ที่   ให้สังเกตุตัวหนังสือสีแดง


http://www.dorar.net/enc/hadith/%D8%A7%D9%84%D8%B4%D9%91%D9%90%D9%8A%D8%B9%D9%8E%D8%AA%D9%8E%D9%8A%D9%92%D9%86%D9%90/yj


คำถามสำหรับวาฮาบี



ชีอะฮ์  สองกลุ่มที่ว่านี้เป็นใคร ?
   
  •  


91 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้