Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

มีนาคม 29, 2024, 03:40:36 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,519
  • หัวข้อทั้งหมด: 647
  • Online today: 71
  • Online ever: 75
  • (มีนาคม 28, 2024, 11:51:59 หลังเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 56
Total: 56

วาฮาบีเชื่อว่า การเห็นอัลลอฮ์ในฝันคือเรื่องจริง

เริ่มโดย L-umar, มีนาคม 11, 2010, 03:30:37 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar

วาฮาบีเชื่อว่า การเห็นอัลลอฮ์ในฝันคือเรื่องจริง


เพื่อสยบการดิ้นเป็นปลาไหลของวาฮาบีระดับสามัญจนถึงอาเล่มปลายแถวของวาฮาบีในประเด็นนี้   ก่อนอื่นต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดเสียว่า   เชควาฮาบีระดับสูงเชื่อว่า   ความฝันของบรรดานะบีนั้นเป็นเรื่องจริง

Θเชคซอและห์ บินอับดุลอะซีซ อาลุชชัยค์
http://www.watein.com/ksaimg/albums/userpics/10001/ksa-local1_492507.jpg

ได้กล่าวในมัสอะละฮ์ที่สองในหัวข้อเรื่อง

اَلْإِيْماَنُ فِي الْلُغَةِ هُوَ التَّصْدِيْقُ الْجاَزِمُ...

อัลอีหม่าน(ศรัทธา)ในทางภาษาคือ อัตตัศดี๊ก ญาซิม (การเชื่อที่แน่นอน)...

وَدَلَّ عَلَى هَذاَ الْأَصْلِ قَوْلِ اللهِ عَزَّ وَجَلَّ  فِي قِصَّةِ إبْراَهِيْمَ الْخَلِيْل مَعَ ابْنِهِ إسْماَعِيْلَ فِي سُوْرَةِ الصاَّفاَّت قاَلَ

และสิ่งที่บ่งบอกบนรากฐานนี้คือดำรัสของอัลลอฮ์ อัซซะวะญัลในเรื่องนะบีอิบรอฮีมกับนะบีอิสมาอีลบุตรของท่านในซูเราะฮ์อัศศ็อฟฟ๊าต ทรงตรัสว่า

قَالَ يَابُنَيَّ إِنِّي أَرَى فِي الْمَنَامِ أَنِّي أَذْبَحُكَ فَانظُرْ مَاذَا تَرَى قَالَ يَا أَبَتِ افْعَلْ مَا تُؤْمَرُ سَتَجِدُنِي إِنْ شَاءَ اللَّهُ مِنْ الصَّابِرِينَ

อิบรอฮีมได้กล่าวขึ้นว่า  โอ้ลูกเอ๋ย ! แท้จริงพ่อได้เห็นในขณะฝันว่า  พ่อได้เชือดเจ้า จงคิดดูซิว่าเจ้าจะเห็นเป็นอย่างไร ? เขา(อิสมาอีล)กล่าวว่า โอ่พ่อจ๋า! จงปฏิบัติตามที่พ่อได้ถูกบัญชามาเถิด หากอัลลอฮ์ทรงประสงค์ พ่อจะเห็นฉันว่า ฉันอยู่ในหมู่ผู้มีความอดทน   บทที่ 37 : 102

فَلَمَّا أَسْلَمَا وَتَلَّهُ لِلْجَبِينِ

ครั้นเมื่อทั้งสอง (พ่อและลูก) ได้ยอมมอบตน (แด่อัลลอฮ์) อิบรอฮีมได้ให้อีสมาอีลคว่ำหน้าลงกับพื้น   บทที่ 37 : 103 – 104

لاَحِظِ الْعَمَلِ {فَلَمَّا} و{لَمَّا} اِنْتَبِهْ لِكَلِمَةِ {لَمَّا}، {فَلَمَّا أَسْلَمَا وَتَلَّهُ لِلْجَبِينِ(103)وَنَادَيْنَاهُ أَنْ يَاإِبْرَاهِيمُ(104)قَدْ صَدَّقْتَ الرُّؤْيَا}[الصافات:103-105]،

โปรดสังเกตตัวอามั้ลของคำ( ฟะลัมมา ) และ (ลัมมา)  โปรดสนใจต่อคำ ( ลัมมา - ครั้นเมื่อ )
ครั้นเมื่อทั้งสอง (พ่อและลูก) ได้ยอมมอบตน (แด่อัลลอฮฺ) อิบรอฮีมได้ให้อีสมาอีลคว่ำหน้าลงกับพื้นและเราได้เรียกเขาว่า โอ้ อิบรอฮีมเอ๋ย ! แน่นอน เจ้าได้เชื่อ(และปฏิบัติ)ตามฝันแล้ว
บทที่ 37 : 103 – 105

رَؤْياَ الْأَنْبِياَءِ حَـقٌّ، إِذاَ رَآهاَ النَّبِيُّ صَدَّقَ بِأَنَّهاَ وَحْيٌ مِنَ اللهِ  عَزَّ وَجَلَّ

( เชคซอและห์กล่าวว่า ) ► ความฝันของบรรดานะบีคือ ความจริง  ◄ เมื่อท่านนะบีได้เห็นมัน(ในยามหลับ) ท่านได้เชื่อว่าแท้จริงมัน(สิ่งที่เห็นในฝัน)คือ วะห์ยูที่มาจากอัลลอฮ์ อัซซะวะญัล

อ้างอิงจากหนังสือ  ชัรฮุลอะกีดะฮ์ อัตต่อฮาวียะฮ์ โดยซอและห์ อาลิชชัยค์ เล่ม 1 หน้า 397


☺สรุปความว่า   วาฮาบีเชื่อว่า  นะบีคนใดก็ตามถ้าเห็นสิ่งใดในขณะนอนหลับ สิ่งที่นะบีคนนั้นได้เห็นในฝันคือของจริง  




ทีนี้ถ้าเราตั้งคำถามว่า

1- ตำราหะดีษฝ่ายซุนนี่ที่รายงานว่า ท่านนะบี(ศ)เห็นอัลลอฮ์ในฝันที่ซอฮิ๊ฮ์นั้นมีไหม

2- อะฮ์ลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์ ทุกมัซฮับมีความเชื่อว่า นอกเหนือจากท่านนะบี(ศ) คนธรรมดาสามารถฝันเห็นอัลลอฮ์ได้หรือไม่




คำตอบ  

หนึ่ง  - หะดีษซอฮิ๊ฮ์ที่รายงานว่า  ท่านนะบี(ศ)ได้ฝันเห็นอัลลอฮ์


س5/ هَلِ الْإنْساَنُ إِذاَ رَأَى رَبَّهُ فِي الْمَناَمِ تَكُوْنُ الرُّؤْيَةُ صَحِيْحَةً ؟
ج/ مِثْلُ ماَ جاَءَ فِي الْحَدِيْثِ الصَّحِيْحِ أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم قاَلَ « رَأَيْتُ الْلَيْلَةَ رَبِّى فِى أَحْسَنِ صُورَةٍ  (سُنَن الترمذي ح : 3234 )
كِتابُ شَرْحُ الْعَقِيْدَةِ الطَّحاَوِيَّةِ لِصالِح آلِ الشَّيْخ  ج 1  ص 175

คำถามที่  5 -  มนุษย์เมื่อเขาได้เห็นพระเจ้าของเขาในความฝัน การเห็นนั้นจะเป็นสิ่งถูกต้องหรือไม่ ?
เชคซอและห์ตอบ -  เช่นที่ได้มีหะดีษซอฮิ๊ฮ์(รายงานว่า) แท้จริงท่านนะบี(ศ)เล่าว่า  ฉันได้เห็นพระเจ้าของฉันเมื่อคืนนี้ในรูปลักษณ์อันสวยงามที่สุด (สุนันติรมิซี หะดีษที่ 3234)
ดูหนังสือชัรฮุลอะกีดะฮ์ อัตต่อฮาวียะฮ์ โดยซอและห์ อาลุชชัยค์  เล่ม 1 : 175


สอง –
เชคมุฮัมมัด บินค่อลีฟะฮ์ อัตตะมีม กล่าวว่า


ثاَنِياً: أَماَّ بِالنِّسْبَةِ لِرُؤْيَةِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم لِرَبِّهِ فِي الْمَناَمِ فَإِنَ هَذِهِ الْمَسْأَلَةَ مُتَّفَقٌ عَلَى وُقُوْعِهاَ لَهُ صلى الله عليه وسلم وَجَواَزُ وُقُوْعِهاَ لِغَيْرِهِ مِنَ الْبَشَرِ، وَلَمْ يَقَعْ نِزاِعُ فِي ذَلِكَ بَيْنَ أَهْلِ السُّنَّةِ وَالْجَماَعَةِ
الكتاب : رُؤْيَةُ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم لِرَبِّهِ  ج 1 ص 101
المؤلف : محمد بن خليفة بن علي التميمي

กรณีเกี่ยวกับเรื่องท่านนะบี(ศ)เห็นพระเจ้าของท่านในความฝันนั้น  แท้จริงเรื่องนี้เป็นมติตรงกันว่ามันคือเรื่องจริงที่เกิดกับท่าน(ศ)  และยังถือว่าอนุญาตให้มันเกิดขึ้นสำหรับผู้อื่นจากท่าน(ศ)อีกด้วยจากคนธรรมดา(ที่ไม่ใช่นะบี)  และไม่เคยเกิดความขัดแย้งกันในเรื่องนี้ในหมู่ชาวอะฮ์ลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์
ดูกิตาบ รุอ์ยะตุน-นะบี (ศ)ลิร็อบบิฮี โดยมุฮัมมัด บินค่อลีฟะฮ์ อัตตะมีม เล่ม 1 : 101

อิบนุ ตัยมียะฮ์กล่าวว่า

وَقَدْ يَرَى الْمُؤْمِنُ رَبَّهُ فِي الْمَناَمِ فِي صُوْرَةٍ مُتَنَوِّعَةٍ عَلَى قَدْرِ إِيْمَانِهِ وَيَقِيْنِهِ فَإِذاَ كاَنَ إِيْماَنُهُ صَحِيْحاً لَمْ يَرَهُ إِلاَّ فِي صُوْرَةٍ حَسَنَةٍ
كتاب : مَجمُوع الْفَتاَوى  لإبن تَيمية  ج 3 ص 390

และบางทีผู้ศรัทธาจะได้เห็นพระเจ้าของเขาในความฝันในรูปลักษณ์ที่ต่างกันไป(คือdifferent ไม่เหมือนกัน) ตามขีดขั้นของอีหม่านและยะกีนของเขา  ดังนั้นหากอีหม่านของเขาถูกต้อง เขาจะไม่เห็นอัลลอฮ์(ในรูปใด)เว้นแต่ในรูปลักษณ์ที่งดงามเท่านั้น

ดูกิตาบมัจญ์มูอุลฟะตาวา  โดยอิบนุตัยมียะฮ์  เล่ม 3 : 390



หลักการทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า

การมองเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา องค์ประกอบคือ แสง คลื่นแสงที่กระทบกับ
วัตถุนั้นๆสู่สายตาเรา  แม้จะมีแสงกระทบวัตถุนั้น บางอย่างเราก็มองไม่เห็นเนื่อง
จากมีขนาดและระดับของคลื่นรังสีต่างกัน   สายตามนุษย์ จะเห็นคลื่นอยู่ในระดับ Visible spectrum เท่านั้น  ส่วนรังสีคลื่นระดับอื่นๆ(จะมองไม่เห็น) เช่น Radio frequency,Microwaves, Infrared radiation, Ultraviolet, X-rays และ Gamma rays รวม เรียกว่า Electromagnetic spectrum
http://www.sunflowercosmos.org/cosmology/cosmology_main/invisible.html

องค์ประกอบของวัตถุในการมองเห็น
การที่เราจะมองเห็นวัตถุได้ชัดเจนหรือมองไม่เห็น จะต้องขึ้นอยู่องค์ประกอบต่อไปนี้
1.ขนาดของวัตถุ
2.ความเข้มของแสงที่ส่องวัตถุ
3.ความเข้มของฉากอ้างอิง
4.เวลาในการมองเห็น

ขนาดของวัตถุ
ขนาดของวัตถุมีความสำคัญมากในการมองเห็นในความเป็นจริงวัตถุที่มีขนาดใหญ่จะต้องมองเห็นได้ชัดกว่า  วัตถุขนาดเล็กโดยเฉพาะในระยะทางที่ยิ่งไกลวัตถุขนาดเล็กยิ่งมองเห็นได้ยากกว่าวัตถุขนาดใหญ่

ความเข้มของแสงที่ส่องวัตถุ
ในการมองเห็นวัตถุจะต้องอาศัยแสงสว่างที่ส่องไปยังวัตถุที่มีการสะท้อนแสงได้ดีก็จะเห็นชัดเจนกว่าวัตถุที่ไม่สะท้อนแสง เช่นก้อนหินสีดำ กับก้อนหินสีขาว เมื่อใช้แสงส่องเข้าไปโดยมีปริมาณแสงเท่ากัน หรือนำไปวางไว้ที่มืดๆ  ก้อนหินสีขาวจะต้องเห็นชัดกว่าก้อนหินสีดำ อีกลักษณะหนึ่งคือในวัตถุชนิดเดียวกันแต่ใช้แสงส่องต่างกัน    วัตถุที่แสงส่องมากๆจะต้องเห็นชัดเจนมากกว่า

ความเข้มของฉากอ้างอิง
ลักษณะของฉากอ้างอิงทำให้มีผลต่อการมองเห็นด้วยเหมือนกันวัตถุที่สีเดียวกันกับฉากจะทำให้การมองเห็นยากกว่า วัตถุที่สีตัดกัน เช่น ฉากสีขาว วัตถุสีดำ ก็จะทำให้เห็นวัตถุง่ายขึ้น

เวลาในการมองเห็น
ในการมองเห็นจะต้องเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องและต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดลักษณะการมองเห็น เพราะฉะนั้น เมื่อวัตถุที่การเคลื่อนไหวรวดเร็วก็ทำยากต่อการมองเห็นกว่าวัตถุที่นิ่งอยู่กับที่ เวลาจึงมีความสำคัญต่อการมองเห็นมาก



۩  Q 4 วาฮาบี

การที่ท่านจะมองเห็นอัลลอฮ์ได้จะต้องอาศัยองค์ประกอบต่อไปนี้
1.ขนาดของวัตถุ   แต่อัลลอฮ์ไม่ใช่วัตถุ
2.ความเข้มของแสงที่ส่องวัตถุ    แต่อัลลอฮ์ไม่ใช่สีขาวหรือสีดำหรือสีอื่นๆ
3.ความเข้มของฉากอ้างอิง   แต่อัลลอฮ์ไม่ได้ตั้งอยู่ตรงข้างหน้าของสิ่งใด
4.เวลาในการมองเห็น  แต่อัลลอฮ์ไม่ได้ถูกห้อมล้อมด้วยเวลา  อีกทั้งอัลลอฮ์ไม่ได้มีภาวะอยู่นิ่งจนมองเห็นได้ชัดและไม่ได้มีภาวะเคลื่อนไหวจนมองเห็นได้ไม่ฉนัด

โอ้ลัทธิมุญัสซะมะฮ์เอ๋ย  ท่านจะอธิบายอย่างไรต่อภาวะของพระเจ้าที่ท่านอ้างว่า มนุษย์สามารถมองเห็นได้ด้วยตาหรือในยามฝันที่อยู่ในภาวะของเวลาและสถานที่ ???

เมื่อท่านอ้างว่า ต้องเชื่อในสิ่งที่มีหะดีษรายงานมาอย่างถูกต้อง
แต่สิ่งที่ตาเห็นกับสิ่งที่ปัญญาประจักษ์ไม่แน่ว่า จะสอดคล้องกันเสมอไป

หากหะดีษเห็นพระเจ้าของท่านไปขัดแย้งกับสติปัญญาและมันยังไปทำลายความสมบูรณ์ของอัลลอฮ์ตะอาลา ท่านยังจะดันทุรังเชื่อแบบหลับหูหลับตาอยู่อีกหรือ...

ท่านคิดว่า มัคลู๊กที่อัลลอฮ์สร้างเช่น สายตาและความคิดในขณะหลับนั้นสามารถห้อมล้อมกุดรัตของอัลลอฮ์ได้กระนั้นหรือ

ท่านเอาโองการมุห์กะม๊าตเหล่านี้ไปไว้ไหน ?  ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลาตรัสว่า

لَا تُدْرِكُهُ الْأَبْصَارُ وَهُوَ يُدْرِكُ الْأَبْصَارَ

สายตาทั้งหลายย่อมไม่อาจหยั่งถึง(มองเห็น)พระองค์ได้   แต่พระองค์ทรงหยั่งถึง(มองเห็น)สายตาเหล่านั้น
บทที่ 6 : 102
يَعْلَمُ مَا بَيْنَ أَيْدِيهِمْ وَمَا خَلْفَهُمْ وَلَا يُحِيطُونَ بِهِ عِلْمًا

พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาและสิ่งต่าง ๆที่อยู่ลับหลังพวกเขา  และความรู้ของพวกเขาไม่อาจจะห้อมล้อมความรู้ของพระองค์ได้
บทที่ 20 : 110

ذَلِكُمُ اللَّهُ رَبُّكُمْ خَالِقُ كُلِّ شَيْءٍ لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ فَأَنَّى تُؤْفَكُونَ

นั่นคืออัลลอฮ์   พระเจ้าของพวกเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง  ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์  ดังนั้นทำไมพวกเจ้าจึงถูกหันเหออกจากพระองค์เล่า ?
บทที่ 40 : 62

كَذَلِكَ يُبَيِّنُ اللَّهُ لَكُمْ آَيَاتِهِ لَعَلَّكُمْ تَعْقِلُونَ

ในทำนองนั้นแหล่ะ  อัลลอฮ์จะทรงแจกแจงบรรดาโองการของพระองค์ให้พวกเจ้าทราบ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้เข้าใจ
บทที่ 2 : 242

แต่น่าเสียดายที่สมองของวาฮาบีเข้าใจได้แค่ว่า  อัลลอฮ์มีเรือนร่าง แต่เรือนร่างของอัลลอฮ์ไม่เหมือนวัตถุ
  •  

L-umar

มุลลา อาลีอัลกอรี อาลิมซุนนี่คนหนึ่งกล่าวว่า

لاَ شَكَّ أَنَّ الْمَكاَنَ مَعَ الزَّماَنِ مِنْ جُمْلَةِ خَلْقِهِ مَعْدُوْداَنِ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า  สถานที่กับเวลานั้นคือส่วนหนึ่งจากมัคลู๊กของอัลลอฮ์ ที่ถูกนับไว้
ดูมิรกอตุลมะฟาติ๊ห์  ชัรฮุมิชกาตุลมะซอบิ๊ห์  เล่ม 16 : 381
  •  

56 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้