Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

มีนาคม 28, 2024, 08:44:00 หลังเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,519
  • หัวข้อทั้งหมด: 647
  • Online today: 70
  • Online ever: 70
  • (วันนี้ เวลา 08:04:24 หลังเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 52
Total: 52

Θ ชีวประวัติ ยาซีด และตระกูลอุมัยยะฮ์

เริ่มโดย L-umar, มกราคม 27, 2010, 11:22:17 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar


Θท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอูดเล่าว่า :

أتينا رسول الله صلى الله عليه وسلم فخرج إلينا مستبشرا يعرف السرور في وجهه فما سألناه عن شيء إلا أخبرنا به ولا سكتنا إلا إبتدأنا حتى مرت فتية من بني هاشم فيهم الحسن والحسين فلما رآهم التزمهم وانهملت عيناه فقلنا يا رسول الله ما نزال نرى في وجهك شيئا نكرهه فقال إنا أهل بيت اختار الله لنا الآخرة على الدنيا وأنه سيلقى أهل بيتي من بعدي تطريدا وتشريدا في البلاد

พวกเราได้มาหาท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ท่านออกมาพบพวกเราด้วยใบหน้าสุขใจ  เราถามท่านด้วยสิ่งใด ท่านก็ให้คำตอบ และเราไม่หยุด(สนทนา)เว้นแต่เราเริ่ม(สนทนาไปเรื่อยๆ)

จนกระทั่งมีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งจากตระกูลฮาชิมซึ่งในนั้นมีท่านฮาซันและฮูเซนรวมอยู่ด้วยเดินผ่านมา พอท่านแลเห็นพวกเขา ดวงตาทั้งสองของท่านก็หลั่งน้ำตาออกมา  

พวกเรากล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ พวกเราสังเกตเห็นที่ใบหน้าท่านมีบางสิ่งที่เราไม่ชอบเลย

ท่านกล่าวว่า : แท้จริงพวกเราคืออะฮ์ลุลบัยต์ที่อัลลอฮ์ได้เลือกอาคิเราะฮ์แทนดุนยานี้ให้สำหรับเรา และแท้จริงอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน ในอนาคตหลังจากฉันจากไป พวกเขาจะต้องเผชิญกับการถูกขับไล่ถูกเนรเทศ กระจัดกระจายไปทั่วเมือง

สถานะหะดีษ : ซอฮิ๊ฮ์ ดูหนังสืออัลมุสตัดร็อก อัลฮากิม  เล่ม 4 หะดีษที่  8434
  •  

L-umar

หะดีษสองบทข้างต้น  อาจถูกแย้งว่า  ท่านรอซูล(ศ)กล่าวถึงประชาชาติของท่านโดยทั่วไป  ไม่เห็นมีตรงไหนที่ท่านเจาะจงชัดเจนว่า  คนที่จะเนรเทศเข่นฆ่าอะฮ์ลุลบัยต์นบีคือ  ตระกูล  อุมัยยะฮ์  ???   ขอให้ท่านอ่านหะดีษนี้



Θ  ท่านอบูสะอีด อัลคุดรีเล่าว่า :  ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า :

إِنَّ أَهْلَ بَيْتِيْ سَيَلْقَوْنَ مِنْ بَعْدِيْ مِنْ أُمَّتِيْ قَتْلاً وَتَشْرِيْداً وَإِنَّ أَشَدَّ قَوْمِناَ لَناَ بُغْضاً بَنُوْ أُمَيَّة وَبَنُو الْمُغِيْرَة وَبَنُوْ مَخْزُوْم

แท้จริงอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน จะต้องเผชิญกับการถูกสังหารและถูกขับไล่ภายหลังจากฉันจากไป

และแท้จริงกลุ่มชนที่ชิงชังอาฆาตพวกเรามากที่สุดคือ


ตระกูลอุมัยยะฮ์ ตระกูลมุฆีเราะฮ์  และตระกูลมัคซูม

สถานะหะดีษ : ซอฮิ๊ฮ์  ดูหนังสืออัลมุสตัดร็อก อัลฮากิม  เล่ม 19  : 398 หะดีษที่ 8638  

►อัลฮากิมกล่าวว่า   هذا حديث صحيح الإسناد ولم يخرجاه
หะดีษบทนี้  ถูกต้องตามเงื่อนไขของท่านบุคอรีและมุสลิม



หากมองเหตุการณ์ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแปดสิบปีที่ตระกูลอุมัยยะฮ์สาปแช่งท่านอาลีบนมิมบัรท่านรอซูล(ศ)  คือ

หลักฐานยืนยันว่า  พวกอุมัยยะฮ์ชิงชังอะฮ์ลุลบัยต์ปานใด  
  •  

L-umar

۞ หะดีษฝ่ายอะฮ์ลุสซุนนะฮ์วัลญะมาอะฮ์มากมายรายงานว่า

ท่านนบี(ศ)กล่าวว่า :



قاَلَ النَّبِيُّ (ص) : \\\" أَتاَنِيْ جَبْرِيْلُ عَلَيْهِ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ ,

فَأَخْبَرَنِيْ أَنَّ أُمَّتِيْ سَتَقْتُلُ ابْنِيْ هَذَا ( يَعْنِي الْحُسَيْن ) , فَقُلْتُ : هَذاَ ؟ فَقاَلَ : نَعَمْ , وَ أَتاَنِيْ بِتُرْبَةٍ مِنْ تُرْبَتَةِ حَمْرَاء


ท่านญิบรออีลมาหาฉัน เขาได้แจ้งข่าวให้ฉันรู้ว่า แท้จริงประชาชาติของฉัน จะสังหารหลานชายของฉันคนนี้(คือฮูเซน)

(ผู้เล่ากล่าว) ฉันถามว่า :  เด็กคนนี้หรือ ?  

ท่านตอบว่า :  ใช่แล้ว และท่านญิบรออีลยังได้นำดินสีแดงก้อนหนึ่งมาให้ฉันด้วย


ดูหนังสือซิลซิละตุซ-ซอฮีฮะฮ์ เล่ม 2 : 484  หะดีษที่ 821  เชคอัลบานีกล่าวว่า  เป็นหะดีษซอฮี๊ฮฺ


คำถามสำหรับวาฮาบี

ฮูเซน สัยยิดของอะฮ์ลุลญันนะฮ์  เสียชีวิตในยุคการปกครองของยาซีด โดยน้ำมือของกองทัพยาซ๊ดใช่ไหม ???
  •  

L-umar

Θ ท่านหญิงอุมมุ สะละมะฮ์เล่าว่า :


لَقَدْ دَخَلَ عَلَيَّ الْبَيْتَ مَلَكٌ لَمْ يَدْخُلْ عَلَيَّ قَبْلَهَا , فَقَالَ لَيْ : إِنَّ ابْنَكَ هَذَا : حُسَيْنٌ  مَقْتُوْلٌ وَ إِنْ شِئْتَ أَرَيْتُكَ مِنْ تُرْبَةِ الْأَرْضِ الَّتِيْ يُقْتَلُ بِهَا \\\" .

แท้จริงท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ)ได้เล่าให้นางฟังว่า :

มีมลาอิกะฮ์ท่านหนึ่งได้เข้ามาพบฉัน ซึ่งท่านไม่เคยเข้ามาหาฉันมาก่อนเลย ท่านกล่าวกับฉันว่า :  

แท้จริงฮูเซนหลานชายของท่านคนนี้จะถูกสังหาร  หากท่านต้องการ(เห็นสถานที่) ฉันจะให้ท่านได้เห็นดินจากแผ่นดินที่เขาจะถูกสังหาร  แล้วมลาอิกะฮ์ได้นำดินสีแดงออกมา ( ให้ท่านนบีดู )

ดูหนังสือ ซิลซิละตุซ-ซอฮีฮะฮ์ เล่ม 2  หะดีษที่ 822   เชคอัลบานีกล่าวว่า เป็นหะดีษซอฮี๊ฮฺ
  •  

L-umar

Θ ท่านหญิงอุมมุล ฟัฎลฺ บินติ อัลฮาริษเล่าว่า  :

عَن أم الفضل بنت الحارث : أنها دخلت على رسول الله (ص) فقالت يا رسول الله إني رأيت حلما منكرا الليلة قال ما هو قالت إنه شديد قال ما هو قالت رأيت كأن قطعة من جسدك قطعت ووضعت في حجري فقال رسول الله صلى الله عليه وسلم رأيت خيرا تلد فاطمة إن شاء الله غلاما فيكون في حجرك فولدت فاطمة الحسين فكان في حجري كما قال رسول الله صلى الله عليه وسلم فدخلت يوما إلى رسول الله صلى الله عليه وسلم فوضعته في حجره ثم حانت مني التفاتة فإذا عينا رسول الله صلى الله عليه وسلم تهريقان من الدموع
قالت فقلت يا نبي الله بأبي أنت وأمي مالك قال أتاني جبريل صلى الله عليه وسلم فأخبرني أن أمتي ستقتل ابني هذا فقلت هذا فقال نعم وأتاني بتربة من تربته حمراء
مستدرك الحاكم  ج : 3 رقم حديث : 4818    هذا حديث صحيح على شرط الشيخين ولم يخرجاه
นางได้เข้ามาพบท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)  นางกล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ เมื่อคืนฉันฝันไม่ค่อยดีเลย  ท่านถามว่า : อะไรหรือ ? นางบอกว่า มันรุนแรงมาก ท่าน(ศ)ถามว่า : อะไรล่ะ ?  นางจึงเล่าว่า : อย่างกับเนื้อส่วนหนึ่งหลุดออกมาจากร่างท่าน ฉันจึงเก็บมาวางไว้ที่ตักฉัน
ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า : เธอฝันดี  ฟาติมะฮ์จะได้บุตรชาย อินชาอัลลอฮ์ เด็กคนนั้นจะอยู่ในตักเธอ   ต่อมาเมื่อท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้คลอดออกมาเป็นท่านฮูเซน  ปรากฏว่าเขาอยู่ในตักฉันจริงดังที่ท่านรอซูลุลลอฮ์ทำนายไว้   แล้ววันหนึ่งฉันเข้ามาหาท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ฉันนำฮูเซนวางไว้บนตักท่าน  แล้วท่านได้ผินออกไปจากฉัน  ดวงตาทั้งสองของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)มีน้ำตาเอ่อล้นออกมา
ฉันจึงถามว่า : โอ้ท่านศาสดาแห่งอัลลอฮ์ ฉันขอเอาบิดามารดาฉันไถ่แทนท่าน เกิดอะไรขึ้นกับท่านกระนั้นหรือ ?    ท่าน(ศ)ตอบว่า : ท่านญิบรีลมาหาฉัน เขาบอกกับฉันว่า แท้จริงประชาชาติของฉัน  จะสังหารหลานชายของฉันคนนี้  ฉันจึงถามว่า : เด็กคนนี้หรือ   ท่าน(ศ)ตอบว่า : ใช่แล้ว   แล้วท่านได้มอบดินสีแดงก้อนหนึ่งให้กับฉัน


ดูหนังสือ อัลมุสตัดร็อก อัลฮากิม  เล่ม 3 หะดีษที่ 4818  

เป็นหะดีษซอฮี๊ฮฺตามเงื่อนไขของบุคอรีและมุสลิม
  •  

L-umar

Θ นางซัลมา เล่าว่า :

أخبرني أبو القاسم الحسن بن محمد السكوني ، بالكوفة ، ثنا محمد بن عبد الله الحضرمي ، ثنا أبو كريب ، ثنا أبو خالد الأحمر ، حدثني رزين ، حدثتني سَلْمَى . قَالَتْ : دَخَلْتُ عَلَى أم سَلَمَةَ وَهِيَ تَبْكِي . فَقُلْتُ : مَايُبْكِيكِ ؟ قَالَتْ : (( رَايْتُ رَسُولَ اللهِِ - صلى الله عليه وسلم - ، تَعْنِي فِي الْمَنَامِ ، وَعَلَى رَاْسِهِ وَلْحِيَتِهِ التُّرَابُ . فَقُلْتُ : مَالَكَ يَارَسُولَ اللهِِ ؟ قَالَ : شَهِدْتُ قَتْلَ الْحُسَيْنِ انِفًا.)).


ฉันเข้ามาหาท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์ ซึ่งท่านกำลังร้องไห้อยู่ ท่านจึงถามว่าอะไรทำให้ท่านร้องไห้หรือ ?

นางเล่าว่า :

ฉันฝันเห็นท่านรอซูลุลลอฮ์ ที่ศรีษะและเคราของท่านมีดิน  ฉันจึงถามว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ เกิดอะไรขึ้น  ท่านตอบว่า : ฉันได้เห็นการตายของฮูเซนเมื่อสักครู่นี้      


ดูหนังสือ  สุนันติรมิซี  หะดีษที่ 3771, 4140

อัลมุสตัดร็อก อัลฮากิม เล่ม 15 หะดีษที่ 6848
 
อัลมุอ์ญัม อัลกะบีร อัตต็อบรอนี  เล่ม 23 หน้า 373 หะดีษที่ 882
  •  

L-umar

Θ ท่านอับดุลลอฮ์ บิน นุญัย จากบิดาเขาเล่าว่า :  


حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ عُبَيْدٍ حَدَّثَنَا شُرَحْبِيلُ بْنُ مُدْرِكٍ عَنْ عَبْدِ اللَّهِ بْنِ نُجَيٍّ عَنْ أَبِيهِ أَنَّهُ
سَارَ مَعَ عَلِيٍّ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ وَكَانَ صَاحِبَ مِطْهَرَتِهِ فَلَمَّا حَاذَى نِينَوَى وَهُوَ مُنْطَلِقٌ إِلَى صِفِّينَ فَنَادَى عَلِيٌّ رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُ اصْبِرْ أَبَا عَبْدِ اللَّهِ اصْبِرْ أَبَا عَبْدِ اللَّهِ بِشَطِّ الْفُرَاتِ قُلْتُ وَمَاذَا قَالَ قَالَ دَخَلْتُ عَلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ذَاتَ يَوْمٍ وَعَيْنَاهُ تَفِيضَانِ قُلْتُ يَا نَبِيَّ اللَّهِ أَغْضَبَكَ أَحَدٌ مَا شَأْنُ عَيْنَيْكَ تَفِيضَانِ قَالَ بَلْ قَامَ مِنْ عِنْدِي جِبْرِيلُ قَبْلُ فَحَدَّثَنِي أَنَّ الْحُسَيْنَ يُقْتَلُ بِشَطِّ الْفُرَاتِ قَالَ فَقَالَ هَلْ لَكَ إِلَى أَنْ أُشِمَّكَ مِنْ تُرْبَتِهِ قَالَ قُلْتُ نَعَمْ فَمَدَّ يَدَهُ فَقَبَضَ قَبْضَةً مِنْ تُرَابٍ فَأَعْطَانِيهَا فَلَمْ أَمْلِكْ عَيْنَيَّ أَنْ فَاضَتَا
مسند أحمد  مسند العشرة المبشرين بالجنة ح : 613

แท้จริงเขาได้เดินทางไปกับท่านอะลี... เมื่อมาถึงนัยนาวา(สถานที่แห่งหนึ่งในอิรัก) ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะไปยังซิฟฟีน  ท่านอะลีได้กล่าวว่า : จงอดทนเถิด โอ้อบา อับดิลลาฮ์(คือฮูเซน) ณ.ริมฝั่งน้ำยูเฟรติส
ฉันจึงถามว่า : มีอะไรหรือ ?  ท่านอะลีเล่าว่า : วันหนึ่ง ฉันได้เข้าไปพบท่านนบี(ศ) ดวงตาทั้งสองของท่านมีน้ำตาเอ่อล้นออกมา  ฉันจึงถามว่า โอ้ท่านศาสดาของอัลลอฮ์ ใครทำให้ท่านโกรธ ท่านมีเรื่องอะไรใยดวงตาทั้งสองจึงร้องไห้ออกมา ? ท่าน(ศ)ตอบว่า : ท่านญิบรออีลพึ่งออกไปจากฉันก่อนหน้านี้เอง  ท่านได้เล่าให้ฉันฟังว่า แท้จริงฮูเซนจะถูกสังหารที่ริมฝั่งน้ำยูเฟรติส  ท่านถาม(ท่านอะลี)ว่า : ท่านได้กลิ่นไอดินของเขาไหม ?  ท่านอะลีตอบว่า  : ได้ครับ แล้วท่าน(ศ)ได้ยื่นมือของท่าน มีดินก้อนหนึ่ง ท่านมอบมันให้กับฉัน ฉันจึงไม่อาจยับยั้งดวงตาของฉันมิให้หลั่งน้ำตาออกมาได้


ดูหนังสือ มุสนัดอะหฺมัด เล่ม 2 หน้า  119  หะดีษที่ 613 , 658

มุสนัด อบี ยะอ์ลา เล่ม 1 หะดีษที่ 347 , 363

มุสนัด อัลบัซซ้าร หะดีษที่ 884 , มุอ์ญัม อัลกะบีร อัต-ต็อบรอนี หะดีษที่ 2811

มัจญ์มะอุซ-ซะวาอิด  เล่ม 9 หน้า 187  อัลฮัยษะมีกล่าวว่า บรรดาผู้รายงานหะดีษ เชื่อถือได้
  •  

L-umar

Θ อุรวะฮ์เล่าจากท่านหญิงอาอิชะฮ์(ร.ฎ.)เล่าว่า :


عن عروة عن عائشة  قالت: دخل الحسين بن علي على رسول الله (ص) وهو يوحى إليه، فقال جبرائيل: إن أُمّتك ستفتتن بعدك وتقتل ابنك هذا من بعدك، ومدّ يده فأتاه بتربة بيضاء، وقال: في هذه يقتل ابنك، اسمها الطف، قال: فلما ذهب جبرائيل، خرج رسول الله (ص)إلى أصحابه والتربة بيده ـ وفيهم: أبو بكر، وعمر، وعلي، وحذيفة، وعثمان، وأبو ذر ـ وهو يبكي، فقالوا: ما يبكيك يا رسول الله؟ فقال: «أخبرني جبرائيل: أن ابني الحسين يقتل بعدي بأرض الطف، وجاءني بهذه التربة، فأخبرني أنّ فيها مضجعه».  

كتاب : أعلام النبوة  الباب الثاني عشر ص : 23  

ท่านฮูเซน บุตร อาลีได้เข้ามาหาท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ในขณะนั้นมีวะห์ยูมายังท่าน,  ท่านญิบรออีลกล่าวว่า : แท้จริงประชาชาติของท่านจะสร้างฟิตนะฮ์หลังจากท่านจากไป และพวกเขาจะสังหารหลานชายท่านคนนี้หลังจากท่านจากไป  ท่านญิบรออีลได้ยื่นดินสีขาวให้ท่านนบี และกล่าวว่า : หลานชายของท่านจะถูกสังหารที่แผ่นดินนี้ มันมีชื่อว่า อัต-ต็อฟ  
เมื่อท่านญิบรออีลจากไป ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้ออกมาพบกับซอฮาบะฮ์ของท่าน ตอนนั้นมีท่านอบูบักร  อุมัร  อาลี  ฮุซัยฟะฮ์  อุษมาน  อบูซัร  มีดินอยู่ในมือท่านและท่านอยู่ในสภาพร้องไห้  บรรดาซอฮาบะฮ์จึงถามว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์อะไรทำให้ท่านร้องไห้หรือ ?  ท่านตอบว่า : ท่านญิบรออีลได้แจ้งให้ฉันทราบว่า : แท้จริงฮูเซนหลานชายของฉันนั้น จะถูกสังหารหลังจากฉันจากไปที่แผ่นดินชื่อต็อฟ  แล้วท่านยังนำดินที่นั่นมาให้ฉันด้วย ท่านบอกว่า ณ.ที่นั่นคือที่ตายของเขา(ฮูเซน)

ดูหนังสือ  อะอ์ลามุน-นุบูวะฮ์  บาบที่  12 หน้า 23
  •  

L-umar

Θ  ท่านอนัส บินมาลิกเล่าว่า :


أَنَّ مَلَكَ الْمَطَرِ اسْتَأْذَنَ رَبَّهُ أَنْ يَأْتِيَ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَأَذِنَ لَهُ فَقَالَ لِأُمِّ سَلَمَةَ امْلِكِي عَلَيْنَا الْبَابَ لَا يَدْخُلْ عَلَيْنَا أَحَدٌ قَالَ وَجَاءَ الْحُسَيْنُ لِيَدْخُلَ فَمَنَعَتْهُ فَوَثَبَ فَدَخَلَ فَجَعَلَ يَقْعُدُ عَلَى ظَهَرِ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ وَعَلَى مَنْكِبِهِ وَعَلَى عَاتِقِهِ قَالَ فَقَالَ الْمَلَكُ لِلنَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ أَتُحِبُّهُ قَالَ نَعَمْ قَالَ أَمَا إِنَّ أُمَّتَكَ سَتَقْتُلُهُ وَإِنْ شِئْتَ أَرَيْتُكَ الْمَكَانَ الَّذِي يُقْتَلُ فِيهِ فَضَرَبَ بِيَدِهِ فَجَاءَ بِطِينَةٍ حَمْرَاءَ فَأَخَذَتْهَا أُمُّ سَلَمَةَ فَصَرَّتْهَا فِي خِمَارِهَا    قَالَ قَالَ ثَابِتٌ بَلَغَنَا أَنَّهَا كَرْبَلَاءُ

มลาอิกะฮ์ฝนขออนุญาติต่ออัลลอฮ์ที่จะพบท่านนบี(ศ) พระองค์ทรงอนุญาตแก่เขา

ท่านนบีกล่าวกับท่านหญิงอุมมุ สะละมะฮ์ว่า :  เธอจงเฝ้าประตูให้เราที อย่าให้ใครเข้ามาหาเรา  

ท่านอนัสเล่าว่า :

ท่านฮูเซนได้มา นางได้กันเขาไว้ ท่านฮูเซนได้พรวดพราดเข้ามาอย่างกะทันหัน แล้วก็โผขึ้นไปนั่งบนหลังท่านนบี(ศ)บนบ่าและไหล่ของท่าน  ท่านมลาอิกะฮ์

กล่าวกับท่านนบีว่า  : ท่านรักหลานชายคนนี้ไหม ?  นบีตอบว่า รักสิ

มลาอิกะฮ์กล่าวว่า  : ในอนาคตประชาชาติของท่าน จะสังหารเขา    หากท่านอยากเห็น ฉันจะให้ท่านดูสถานที่ ที่เขาจะถูกสังหาร  

แล้วมลาอิกะฮ์ได้ตบมือของเขา แล้วเขาได้นำดินสีแดงมา  ท่านหญิงอุมมุ สะละมะฮ์ได้รับดินนั้นมาไว้ในฮิญาบนาง  

ท่านอนัสกล่าวว่า    แน่นอนมันได้มาถึงเราว่า ดินนั้นคือ กัรบาลา


ดูหนังสือ มุสนัดอะหฺมัด เล่ม 27 : 97  หะดีษที่ 13050
 
มัสนัด อบี ยะอ์ลา เล่ม  7: 422 หะดีษที่  3380

ซอฮีฮุ อิบนิ ฮิบบาน  เล่ม  28 : 25  หะดีษที่  6866

อัลมุอ์ญัม อัลกะบีร เล่ม 3 : 106  หะดีษที่ 2813
  •  

L-umar

۩  วิจารณ์

เราอ่านหะดีษผ่านมากมายรายงานว่า   ประชาชาติที่นับถืออิสลามจะเป็นผู้สังหารฮูเซนหลานรักของท่านนะบี(ศ)

คำถามคือ   ท่านคิดว่า   พวกอุมัยยะฮ์ไม่เคยได้ยินหะดีษเหล่านี้ผ่านมาเข้ายังโสตปราสาทของพวกเขากระนั้นหรือ  ?

ปล่าวเลย พวกเขาได้ยิน  เพราะพวกเขามีอุลละมาอ์ซุนนี่มากมายอยู่เคียงข้าพวกเขา  แต่คำถามสำคัญคือ  ทำไมพวกเขายังกล้าลงมือ ???

แน่นอน เพราะพวกเขาไม่เกรงกลัวอัลเลาะฮ์ และไม่นับถือรอซูลุลเลาะฮ์นั่นเอง.  
  •  

L-umar

คำถาม     หะดีษฝ่ายชีอะฮ์มีรายงานเหมือนหะดีษฝ่ายซุนนี่ดังกล่าวบ้างไหม ???


Φ  ท่านอบีอับดิลละฮ์  คืออิม่ามศอดิก (อ) เล่าว่า :

مُحَمَّدُ بْنُ يَحْيَى عَنْ أَحْمَدَ بْنِ مُحَمَّدٍ عَنِ الْوَشَّاءِ وَ الْحُسَيْنُ بْنُ مُحَمَّدٍ عَنْ مُعَلَّى بْنِ مُحَمَّدٍ عَنِ الْوَشَّاءِ عَنْ أَحْمَدَ بْنِ عَائِذٍ عَنْ أَبِي خَدِيجَةَ

عَنْ أَبِي عَبْدِ اللَّهِ ( عليه السلام ) قَالَ لَمَّا حَمَلَتْ فَاطِمَةُ ( عليها السلام ) بِالْحُسَيْنِ جَاءَ جَبْرَئِيلُ إِلَى رَسُولِ اللَّهِ ( صلى الله عليه وآله ) فَقَالَ إِنَّ فَاطِمَةَ ( عليها السلام ) سَتَلِدُ غُلَاماً تَقْتُلُهُ أُمَّتُكَ مِنْ بَعْدِكَ فَلَمَّا حَمَلَتْ فَاطِمَةُ بِالْحُسَيْنِ ( عليه السلام ) كَرِهَتْ حَمْلَهُ وَ حِينَ وَضَعَتْهُ كَرِهَتْ وَضْعَهُ ثُمَّ قَالَ أَبُو عَبْدِ اللَّهِ ( عليه السلام ) لَمْ تُرَ فِي الدُّنْيَا أُمٌّ تَلِدُ غُلَاماً تَكْرَهُهُ وَ لَكِنَّهَا كَرِهَتْهُ لِمَا عَلِمَتْ أَنَّهُ سَيُقْتَلُ قَالَ وَ فِيهِ نَزَلَتْ هَذِهِ الْآيَةُ وَ وَصَّيْنَا الْإِنْسانَ بِوالِدَيْهِ حُسْناً حَمَلَتْهُ أُمُّهُ كُرْهاً وَ وَضَعَتْهُ كُرْهاً وَ حَمْلُهُ وَ فِصالُهُ ثَلاثُونَ شَهْراً .

ตอนที่ท่านหญิงฟาติมะฮ์ตั้งครรถ์ท่านอิม่ามฮูเซน  ท่านญับรออีลได้มาหาท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ)  เขากล่าวว่า  :

แท้จริงฟาติมะฮ์จะคลอดบุตรชาย  ประชาชาติของท่านจะสังหารเขา หลังจากท่านจากไปแล้ว  

เมื่อท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้ตั้งครรถ์อิม่ามฮูเซน  นางได้อุ้มครรถ์บุตรด้วยความเหนื่อยยาก และได้คลอดบุตรออกมาด้วยความทุกข์ระทม

►ท่านอิม่ามศอดิกเล่าว่า :

ไม่เคยเห็นมารดาคนใดในโลกที่ให้กำเนิดบุตรชายโดยนางไม่ปรารถนาที่จะได้เขา  แต่ว่าท่านหญิงฟาติมะฮ์ได้ทุกข์ระทมต่อบุตรคนนี้ เนื่องจากนางได้รู้มาว่า แท้จริงเขาจะต้องถูกสังหารในอนาคต  

►ท่านอิม่ามศอดิกกล่าวว่า :

และได้มีโองการกุรอ่านประทานลงมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า  ( และเราได้สั่งเสียมนุษย์ให้ทำดีต่อบิดามารดาของเขา  มารดาเขาได้อุ้มครรถ์เขาด้วยความเหนื่อยาก และได้คลอดเขาด้วยความเจ็บปวดทุกข์ระทม และการอุ้มครรถ์เขา และการหย่านมของเขาในระยะเวลาสามเดือน )   บทอัลอะห์กอฟ : 15


Θ สถานะฮะดีษ  :  ซอฮี๊ฮฺ   ดูอัลกาฟี โดยเชคกุลัยนี เล่ม 1 : 464  หะดีษที่ 3
 
ตรวจทานโดยมัรกะซุล บุฮูซ คอมพิวเตอร์ ลิลอุลูมิลอิสลามียะฮ์ เมืองกุม อิหร่าน
  •  

L-umar


۞ หากการแสดงความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบีคือ  วายิบหนึ่งสำหรับอุมมัตอิสลาม ดังที่อัลลอฮ์ตรัสว่า


قُلْ لَا أَسْأَلُكُمْ عَلَيْهِ أَجْرًا إِلَّا الْمَوَدَّةَ فِي الْقُرْبَى وَمَنْ يَقْتَرِفْ حَسَنَةً نَزِدْ لَهُ فِيهَا حُسْنًا إِنَّ اللَّهَ غَفُورٌ شَكُورٌ

จงกล่าวเถิด ( มุฮัมมัด )  ฉันมิได้ขอร้องค่าตอบแทนใด ๆ เพื่อการนี้ เว้นแต่เพื่อความรักใคร่ในญาติสนิท

ซูเราะฮ์อัช ชูรอ : 23


มีใครบ้างที่กล้าปฏิเสธว่า ท่านฮาซันและฮูเซนมิใช่ญาติสนิทที่สุดคนหนึ่งของท่านรอซูล(ศ)


ท่านรอซูล(ศ)ย้ำเตือนสติประชาชาติของท่านและมุอาวียะฮ์ถึงสามครั้งว่า

أُذَكِّرُكُمُ اللَّهَ فِى أَهْلِ بَيْتِى

ฉันขอเตือนพวกท่านให้รำลึกถึงอัลลอฮ์ในอะฮ์ลุลบัยต์ของฉัน  


ดูซอฮี๊ฮฺมุสลิม หะดีษที่  4425


นมาซที่พวกอุมัยยะฮ์ปฏิบัติจะถูกต้อง  ก็ต่อเมื่อพวกเขากล่าวซอลาวาตตามที่ท่านรอซูล(ศ)สั่งว่า

قُولُوا اللَّهُمَّ صَلِّ عَلَى مُحَمَّدٍ ، وَعَلَى آلِ مُحَمَّدٍ

พวกเจ้าจงกล่าวว่า :
 
โอ้อัลลอฮ์โปรดประทานพรแด่มุฮัมมัดและ  อาลิ(วงศ์วานของ)มุฮัมมัด ด้วยเถิด

ดูซอฮีฮุลบุคอรี  หะดีษที่  3370,4797,6357



คำถามคือ  

ทำไมยาซีดจึงกล้ามีปัญหากับอิม่ามฮูเซน จนถึงขั้นหลั่งเลือดท่าน



۞ และหากการแสดงความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์นบีคือซุนนะฮ์หนึ่ง ดังที่ท่านรอซูล(ศ)วิงวอนว่า

اللَّهُمَّ إِنِّى أُحِبُّهُمَا فَأَحِبَّهُمَا وَأَحِبَّ مَنْ يُحِبُّهُمَا

โอ้อัลลอฮ์แท้จริงข้าพเจ้ามีความรักต่อเขาทั้งสอง(ฮาซันและฮูเซน)  ขอพระองค์ได้โปรดรักเขาทั้งสองและโปรดรักผู้ที่มีความรักต่อเขาทั้งสองด้วยเถิด

ดูมุสนัดอะหมัด  หะดีษที่  9383,20827,22050 และสุนันติรมิซี หะดีษที่ 4138,4151


คำถามคือ  

ทำไมตระกูลอุมัยยะฮ์จึงกล้าทะเลาะกับอะฮ์ลุลบัยต์ ที่เป็นวายิบและซุนนะฮ์ต้องรักใคร่พวกเขา ?
  •  

L-umar

► แน่นอนท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ผู้หยั่งรู้อนาคตด้วยวะห์ยูจากอัลเลาะฮ์ตะอาลา  ย่อมรู้จักนิสัยใจคอของพวกลูกหลานอุมัยยะฮ์เป็นอย่างดีว่า  

ในวันข้างหน้าลูกหลานของอุมัยยะฮ์จะต้องการแก้แค้นตระกูลฮาชิมแทนบรรพบุรุษของพวกเขา  


۞   ด้วยเหตุนี้ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)จึงเตือนสติพวกลูกหลานอุมัยยะฮ์ว่า


لاَ يَزَالُ هَذاَ الْأَمْرُ مُعْتَدِلاً قاَئِماً بِالقِسْطِ حَتَّى يَثْلِمَهُ رَجُلٌ مِنْ بَنِيْ أُمَيَّةَ

กิจการ(ของประชาชาติอิสลาม)นี้ยังคงอยู่อย่างเที่ยงธรรม ดำรงอยู่ด้วยความยุติธรรม จนกระทั่งชายคนหนึ่งจากตระกูลอุมัยยะฮ์  จะมาทำลายมัน

ดูดะลาอิลุล นุบูวะฮ์   เล่ม 7 : 365 หะดีษที่ 2803
มุสนัดอัลบัซซ้าร  เล่ม  2 : 196 หะดีษที่  1282



คำถามสำหรับวาฮาบี

ชายคนหนึ่งจากตระกูลอุมัยยะฮ์ที่ทำลายความยุติธรรมแห่งอิสลามนี้เป็นใคร ?
  •  

L-umar

และท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า

لا يَزَالُ أَمْرُ أُمَّتِي قَائِمًا بِالْقِسْطِ حَتَّى يَكُونَ أَوَّلَ مَنْ يَثْلِمُهُ رَجُلٌ مِنْ بَنِي أُمَيَّةَ

กิจการของประชาชาติของฉันยังคงดำรงอยู่อย่างยุติธรรม  จนกระทั่งปรากฏชายคนแรกจากตระกูลอุมัยยะฮ์  เขาจะเป็นผู้ทำลายมัน

ดูมุสนัดอบียะอ์ลา  เล่ม 2 : 345 หะดีษที่ 836,837
  •  

L-umar


หะดีษแรกท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า    คนตระกูลอุมัยยะฮ์จะมาทำลายความยุติธรรมของอิสลาม  

หะดีษต่อมาท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า



إِنَّ أَوَّلَ مَن يُبَدِّلُ سُنَّتِيْ رَجُلٌ مِنْ بَنِيْ أُمَيَّةَ

แท้จริงบุคคลแรก ที่จะเปลี่ยนแปลงซุนนะฮ์ของฉัน  เขาคือชายจากตระกูลอุมัยยะฮ์

ดูหนังสือดะลาอิลุล นุบูวะฮ์ โดยอัลบัยฮะกี เล่ม 7 : 364 หะดีษที่ 2802
มุศ็อนนัฟ อิบนิอบีชัยบะฮ์  เล่ม 7 : 260 หะดีษที่ 35877
ญัมอุลญะวามิ๊อฺ  โดยสิยูตี เล่ม 1 : 7212 หะดีษที่ 999
ญามิอุลอะฮาดีษ โดยสิยูตี  เล่ม 8 : 443 หะดีษที่ 7649
อิตติอาฟุลคิยะเราะตุลมะฮ์เราะฮ์  เล่ม 8 : 30 หะดีษที่ 7536
สุบุลุลฮุดา วัลร่อช๊าด ฟีซีร่อติค็อยริลอิบาด  เล่ม 10 : 89



หะดีษข้างต้นท่านรอซูล(ศ)ไม่ได้ระบุชัดว่า  คนตระกูลุมัยยะฮ์ดังกล่าวเป็นใคร  

มีนักปราชญ์ซุนนี่บางท่านอธิบายว่าคือ  มุอาวียะฮ์ บินอบีสุฟยาน   สาเหตุเพราะเขาได้เปลี่ยนระบบการปกครองแบบอิสลามไปเป็นระบบกษัตริย์


Θ  ท่านอัลมุนาวีอธิบายว่า

( أول من يبدل سنتي ) أي طريقتي وسيرتي القويمة الاعتقادية والعملية ( رجل من بني أمية )

( บุคคลแรกที่จะเปลี่ยนแปลงซุนนะฮ์ของฉัน ) หมายถึง (เปลี่ยนแปลง)  แนวทางของฉัน และแบบอย่างของฉันอันมั่นคงทั้งทางหลักศรัทธาและหลักปฏิบัติ ( เขาคือชายที่มาจากตระกูลอุมัยยะฮ์ )

ดูหนังสืออัต ตัยซีร บิชัรฮิลญามิอิซซ่อฆีร โดยอัลมุนาวี  เล่ม 1 : 797


Θ  ท่านอัลมุนาวีได้อธิบายในหนังสืออีกเล่มหนึ่งว่า


( أول من يبدل سنتي ) أي طريقتي وسيرتي القويمة التي أنا عليها بما أصلته لكم من الأحكام الإعتقادية والعملية ( رجل من بني أمية )

(บุคคลแรกที่จะเปลี่ยนแปลงซุนนะฮ์ของฉัน)  หมายถึง (เปลี่ยนแปลง)  แนวทางของฉัน และแบบอย่างของฉันอันมั่นคงที่ฉันตั้งอยู่บนมัน ตามที่ฉันได้วางรากฐานมันเอาไว้ให้พวกท่าน จากฮุก่มต่างๆทางหลักศรัทธาและหลักปฏิบัติ (เขาคือชายจากตระกูลอุมัยยะฮ์)

زاد الروياني في مسنده وابن عساكر يقال يزيد اه . قال البيهقي في كلامه على الحديث : هو يزيد بن معاوية لخبر أبي يعلى والبيهقي وأبي نعيم وابن منيع لا يزال أمر أمتي قائما بالقسط حتى يكون أول من يثلمه رجل من بني أمية يقال له يزيد

ท่านรูยานีได้เพิ่มเติมไว้ในหนังสือมุสนัดของเขาและท่านอิบนุอะซากิรว่า  (ชายคนตระกูลอุมัยยะฮ์ที่ว่านั้น) เขามีชื่อว่า ยาซีด  ท่านบัยฮะกีได้กล่าวไว้ในคำพูดของเขาต่อหะดีษดังกล่าวว่า  เขาคือ ยาซีด  บุตรมุอาวียะฮ์ เพราะเนื่องจากมีรายงานของท่านอบียะอ์ลา  ท่านบัยฮะกี  ท่านอบีนุอัยม์  และท่านอิบนุมุนี๊อ์ เล่าว่า  กิจการประชาชาติของฉันยังดำรงคงอยู่ด้วยความยุติธรรม  จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งจากตระกูลอุมัยยะฮ์ เขาชื่อ " ยาซีด  " จะมาทำลายมัน

ดูหนังสือ  ฟัยดุลเกาะดีร  ชัรฮุลญิมอิซ ซ่อฆีร โดยอัลดุลร่ออู๊ฟ อัลมุนาวี   เล่ม  3 : 94 หะดีษที่ 2841


คำถาม :  หะดีษนี้มีสถานะอยู่ในระดับเชื่อถือได้แค่ไหน ?  

ตอบ   : สถานะของหะดีษนี้   ฮาซัน  (ดี)

ترتيب أحاديث الجامع الصغير على الأبواب الفقهية  ج 4 / ص 77  ح 2582

ดูหนังสือ  ตัรตีบุ อะฮาดีษิล ญามิอิซ ซ่อฆีร  อะลัลอับวาบิลฟิกฮียะฮ์  เล่ม 4 : 77 หะดีษที่  2582


۩  ทีนี้ขอให้ท่านพิจารณาหะดีษ คนตระกูลอุมัยยะฮ์ที่ท่านรอซูล(ศ)ระบุชื่อชัดว่า เขาจะทำลายอิสลาม



Θ ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ) กล่าวว่า

لا يَزَالُ أَمْرُ أُمَّتي قَائِمًا بِالْقِسْطِ حَتَّى يَثْلِمَهُ رَجُلٌ مِنْ بَنِي أُمَيَّةَ ، يُقالُ لَهُ : يَزِيدُ

กิจการประชาชาติของฉันยังดำรงคงอยู่ด้วยความยุติธรรม  

จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งจากตระกูลอุมัยยะฮ์ เขาชื่อ " ยาซีด  " จะมาทำลายมัน


ดูมุสนัดอบียะอ์ลา  เล่ม 2 : 175,176 หะดีษที่ 870,871
มุสนัดฮาริษ  ( ซะวาดุลฮัยษะมี )  เล่ม 2 : 642 หะดีษที่ 616
ญามิอุล อะฮาดีษ  โดยสิยูตี เล่ม 17 : 150 หะดีษที่ 17804



ท่านสิยูตีอธิบาย คำว่า  ยัษลิมุฮูในหะดีษนี้ว่า หมายถึง

أى يُكَسِّرُ قَوَاعِدَهُ وَيَتَعَدَّى حُدُوْدَهُ
 
ทำให้รากฐานต่างๆของอิสลามแตกหัก และทำการละเมิดขอบเขตต่างๆของอิสลาม

۞สรุป บัดนี้ท่านคงทราบชัดว่า   คนตระกูลอุมัยยะฮ์โดยเฉพาะมุอาวียะฮ์ กับยาซีด  คือผู้สร้างความเสียหายในเรื่องหลักๆให้กับศาสนาอิสลาม ตามรายงานหะดีษและตามที่นักปราชญ์ซุนนี่ได้อธิบายเอาไว้


คำถามสำหรับวาฮาบี

ทำไมวาฮาบียังยกย่องเชิดชูบุคคลทั้งสอง  ???
  •  

52 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้