Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

มีนาคม 28, 2024, 09:59:32 หลังเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,519
  • หัวข้อทั้งหมด: 647
  • Online today: 70
  • Online ever: 70
  • (วันนี้ เวลา 08:04:24 หลังเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 66
Total: 66

Θ ชีวประวัติ ยาซีด และตระกูลอุมัยยะฮ์

เริ่มโดย L-umar, มกราคม 27, 2010, 11:22:17 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar


Θ ชีวประวัติ ยาซีด  บุตร มุอาวียะฮ์ บุตร อบูสุฟยาน


เกิด ที่เมืองมาฏิรูน   ฮิจเราะฮ์ศักราชที่   25  และเติบโตที่ดามัสกัส  ซีเรีย

มรณะ  วันที่  15  เราะบีอุลเอาวัล   ฮิจเราะฮ์ศักราชที่   64

บิดาชื่อ    มุอาวียะฮ์  บุตร อบูสุฟยาน

มารดาชื่อ   มีซูน หรือ มัยซูน  บินติ บะห์ดัล  (เผ่า) อัลกัลบียะฮ์



Θ ย้อนรอยชีวประวัติของมุอาวียะฮ์  (บิดาของยาซีด )

กล่าวกันว่า

معاوية بن أبي سفيان بن حرب بن أميّة بن عبد شمس بن عبد مناف

►บิดามุอาวียะฮ์ชื่อ
อบีสุฟยาน (ศ็อคร์)  บุตรหัรบ์  บุตรอุมัยยะฮ์   บุตรอับดุชัมส์   บุตรอับดุมะนาฟ

►มารดามุอาวียะฮ์ชื่อ

هند بنت عتبة بن ربيعة بن عبد شمس وأُمّها صفيّة بنت أُميّة ابن حارثة السلمي

ฮินด์  บุตรีอุตบะฮ์  บุตรร่อบีอะฮ์ บุตรอับดุชัมส์

มารดาฮินด์ชื่อ   ซ่อฟียะฮ์   บุตรีอุมัยยะฮ์   บุตรฮาริษะฮ์ อัสสุละมี



۞  เรื่องน่าอับอายของตระกูลอุมัยยะฮ์   

หลังจากคนตระกูลอุมัยยะฮ์   ได้มีโอกาสขึ้นมามีอำนาจปกครองอาณาจักรอิสลามในนามราชวงศ์อุมัยยะฮ์     พวกเขาก็ได้กลบเกลื่อนและปกปิดเรื่องน่าอับอายของตระกูลอุมัยยะฮ์ในยุคญาฮิลียะฮ์  ก่อนอิสลามมาประกาศ

พวกอุมัยยะฮ์ยังได้ปกปิดสิ่งที่ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้กล่าวตำหนิพวกเขาเอาไว้     ยิ่งกว่านั้นพวกอุมัยยะฮ์ได้กุหะดีษว่า ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)ได้กล่าวยกย่องพวกเขาเอาไว้


ตำราประวัติศาสตร์ระบุชัดเจนว่า   

อุมัยยะฮ์ ปู่ทวดของยาซีด  เดิมทีเป็นคนชาวเมืองโรม (อิตาลี ปัจจุบัน)  ซึ่งต่อมาอับดุชัมส์ได้รับไว้เป็นบุตรบุญธรรม ตามธรรมเนียมชาวอาหรับในยุคญาฮิลียะฮ์จะนับว่า ลูกบุญธรรมคือบุตรคนหนึ่งในครอบครัว (ทั้งๆที่เป็นคนนอกครอบครัว)



หนังสือนะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์  ในหมวดอ้างอิงตามด้านล่างนี้กล่าวว่า 

الكِتاَبُ ( 17 ) وَ مِنْ كِتاَبِ لَهُ عَلَيْهِ السَّلاَم إِلَى مُعاَوِيَّةَ جَواَباً عَنْ كِتاَبِ مِنْهُ إِلَيْهِ :



ท่านอิม่ามอาลี บินอบีตอลิบ ได้กล่าวกับมุอาวียะฮ์ว่า


وَ أَمَّا قَوْلُكَ إِنَّا ؟ بَنُو عَبْدِ مَنَافٍ ؟

ส่วนกรณีคำพูดของท่าน(มุอาวียะฮ์ ) ที่กล่าวอ้างว่า  พวกเรา(ตระกูลอุมัยยะฮ์)  คือ บะนู อับดุมะน๊าฟ

فَكَذَلِكَ نَحْنُ وَ لَكِنْ لَيْسَ ؟ أُمَيَّةُ ؟ ؟ كَهَاشِمٍ ؟

เช่นนั้นแหล่ะ(ความจริง) คือพวกเรา(หมายถึงตระกูลท่านอาลี)  แต่ว่าไม่ใช่(พวกท่านเพราะ) อุมัยยะฮ์  ไม่เหมือนกับฮาชิม

وَ لاَ ؟ حَرْبٌ ؟ ؟ كَعَبْدِ اَلْمُطَّلِبِ ؟

และหัรบ์  ไม่เหมือนกับ  อับดุลมุตต่อลิบ

وَ لاَ ؟ أَبُو سُفْيَانَ ؟ ؟ كَأَبِي طَالِبٍ ؟

และอบูสุฟยาน  ไม่เหมือนกับอบูตอลิบ

وَ لاَ اَلْمُهَاجِرُ كَالطَّلِيقِ

และมุฮาญิร(ผู้อพยพจากมักกะฮ์ไปมะดีนะฮ์เช่นอาลี) ไม่เหมือนกับต่อลี๊ก(เชลยที่นะบีให้อิสรภาพในวันพิชิตมักกะฮ์เช่นมุอาวียะฮ์ )

وَ لاَ اَلصَّرِيحُ كَاللَّصِيقِ

และคนมีเชื้อสายอย่างชัดเจน(อาลี) ย่อมไม่เหมือนคนที่มีเชื้อสายไปแปะอิงกับคนอื่น(มุอาวียะฮ์อ้างว่าอบูสุฟยานคือพ่อเขา แต่ความจริงไม่ใช่ ).



หลังจากที่มุอาวียะฮ์ได้รับสารของอิม่ามอาลีฉบับนี้  เขาถึงกับต้องปกปิดเอาไว้มิให้ใครรู้ เพราะมันเป็นสารประจานเชื้อสายของเขานั่นเอง.
  •  

L-umar


บิดาที่แท้จริงของมุอาวียะฮ์  คือใคร ?


ก่อนที่เราจะศึกษาว่า   อบูสุฟยานคือบิดาแท้ๆของมุอาวียะฮ์จริงหรือ   ขอให้ท่านลองมาฟังเหตุผลของท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ก่อนว่า  ตระกูลฮาชิม กับตระกูลอุมมัยยะฮ์   หาได้มีเชื้อสายรากเหง้ามาจากปู่ทวดคนเดียวกันจริงๆ   


ตำราซอฮิ๊ฮ์บุคอรี  หะดีษที่ 4229   สะอีด บินมุสัยยับเล่าว่า :

أَنَّ جُبَيْرَ بْنَ مُطْعِمٍ أَخْبَرَهُ قَالَ مَشَيْتُ أَنَا وَعُثْمَانُ بْنُ عَفَّانَ إِلَى النَّبِىِّ - صلى الله عليه وسلم - فَقُلْنَا أَعْطَيْتَ بَنِى الْمُطَّلِبِ مِنْ خُمْسِ خَيْبَرَ ، وَتَرَكْتَنَا ، وَنَحْنُ بِمَنْزِلَةٍ وَاحِدَةٍ مِنْكَ . فَقَالَ « إِنَّمَا بَنُو هَاشِمٍ وَبَنُو الْمُطَّلِبِ شَىْءٌ وَاحِدٌ » . قَالَ جُبَيْرٌ وَلَمْ يَقْسِمِ النَّبِىُّ - صلى الله عليه وسلم - لِبَنِى عَبْدِ شَمْسٍ وَبَنِى نَوْفَلٍ شَيْئًا .

แท้จริงญุเบร บินมัฏอัมเล่าให้เขา(สะอีด)ฟังว่า   : ฉันกับท่านอุษมาน บินอัฟฟานได้เดินไปหาท่านนะบี(ศ)

เรากล่าว(กับท่านนะบี)ว่า   : ท่านให้ทรัพย์สินคูมุสของเมืองค็อยบัรแก่คนตระกูล บะนูอับดุลมุตต่อลิบ  แต่ท่านทิ้งพวกเรา(คือไม่ให้พวกเรา)  ทั้งๆที่พวกเราอยู่ในสถานะภาพเดียวกันกับท่าน

ท่าน(นะบี)ตอบว่า  : แท้จริงตระกูลบะนูฮาชิมกับบะนูอับดุลมุตต่อลิบ คือคนตระกูลเดียวกัน.

ญุเบร บินมัฏอัมเล่าว่า  : ท่านนะบี(ศ)ไม่ได้แบ่ง(ทรัพย์คูมุสนั้นให้)แก่คนตระกูลบะนูอับดุชัมส์และบะนูเนาฟังเลยสักสิ่งหนึ่ง



ท่านจะเห็นได้ว่าหะดีษบทนี้ระบุชัดว่า  บะนูอับดุลมุตต่อลิบ กับบะนูฮาชิมคือคนตระกูลเดียวกัน
แต่ตระกูลบะนูอุมัยยะฮ์นั้นไม่ใช่ตระกูลทั้งสอง ซึ่งเป็นตระกูลอาหรับแท้ๆและบริสุทธิ์

เพราะ อุมัยยะฮ์เป็นชาวโรม  ดังนั้นการที่อุมัยยะฮ์ อ้างว่า เขาเป็นบุตรของอับดุลชัมส์ บินอับดุมะนาฟนั้น  ความจริงอุมัยยะฮ์เป็นเพียงบุตรบุญธรรมเท่านั้น ไม่บุตรแท้ๆ


ทำไมตระกูลอุมัยยะฮ์จึงพยายามอ้างว่า  พวกเขาสืบเชื้อสายมาจากท่านอับดุมะน๊าฟ  ???



Φ คำตอบ   เชื้อสายของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ) เป็นเช่นนี้คือ   

นะบีมุฮัมมัดเป็นบุตรของ   ท่านอับดุลเลาะฮ์  บุตรอับดุลมุฏเฏาะลิบ บุตรฮาชิม บุตร

→ อับดุมะน๊าฟ 

บุตรกุศ็อยฟ์  บุตรกิล๊าบ บุตรมุรเราะฮ์  บุตรกะอ์บุ  บุตรลุอัยย์  บุตรฆอลิบ  บุตรฟิฮ์รุ  บุตรมาลิก บุตรอัน-นัฎรุ  บุตรกินานะฮ์ บุตรคุซัยมะฮ์  บุตรมุดริกะฮ์  บุตรอิลยาส  บุตรมุฎ็อร บุตรนิซ้าร  บุตรมะอั๊ด  บุตรอัดนาน 

บุตรอัดดิ  บุตรอัลมุเกาวิม บุตรนาหู้ร บุตร ตาริ๊หฺ  บุตรยะอ์รุบ  บุตรยัชหับ บุตรนาบิ๊ต  บุตรนบีอีสมาอีล บุตรนบีอิบรอฮีม 

บุตรตาริ๊ค  บุตรนาหู้ร  บุตรอัรอะวา  บุตรชาริ๊ค  บุตรฟาลิ๊ค  บุตรฆอบัร บุตรชาลิ๊ค  บุตรอัรฟัคชัซ  บุตรซาม  บุตรนบีนู๊หฺ 
บุตรละมั๊ก  บุตรมุตะวัชลิค  บุตรอัคนูค บุตร  บุรด่ะ  บุตรมะฮ์ลาอีล  บุตรก็อมอาน  บุตรเกาช์  บุตรนบีชีษ  บุตรนบีอาดัม  บิดาแห่งมนุษยชาติ. 



ท่านอับดุมะน๊าฟ บินกุศ็ฮย มีบุตรชายดังนี้

1.   ฮาชิม

2.   อัลมุตต่อลิบ

3.   อับดุชัมส์



อุมัยยะฮ์อ้างว่า  อับดุชัมส์คือ  บิดาของเขา   แต่ความจริงอับดุชัมส์คือพ่อบุญธรรม  ไม่ใช่พ่อแท้  เพราะอุมัยยะฮ์เป็นชาวโรม


สรุปความได้ว่า  อุมัยยะฮ์ไม่ใช่คนเผ่ากุเรชแท้ๆ และไม่ใช่ชาวอาหรับแท้ๆอีกด้วย.
  •  

L-umar


บิดาที่แท้จริงของมุอาวียะฮ์  คือใคร   ???


หากเราต้องการทราบว่า   บิดาผู้ให้กำเนิดมุอาวียะฮ์เป็นใครและชื่ออะไร   

คงต้องย้อนกลับไปศึกษาชีวประวัติของ


☻  ฮินด์   บุตรสาวของอุตบะฮ์ บินร่อบีอะฮ์

สามีของฮินด์คือ   หัวหน้าพวกมุชริกชาวมักกะฮ์ ที่ต่อต้านศาสนาอิสลามมาสิบกว่าปี    จนในที่สุดนะบีมุฮัมมัด(ศ)ได้ยกทัพไปพิชิตนครมักกะฮ์ได้อย่างราบคาบ

ชาวเมืองมักกะฮ์จึงเป็นฝ่ายยอมจำนนและตกเป็นเชลยศึกของกองทัพมุสลิม ซึ่งภาษาอาหรับเรียกเชลยศึกเหล่านี้ว่า     " ตุละกออ์


ท่านนะบี(ศ)ได้เรียกพวกมุชริกมักกะฮ์ว่า ตุละกออ์ โดยท่านกล่าวว่า

اِذْهَبُوا فَأَنْتُمُ الطُّلَقَاءُ

จงไปเถิด   พวกเจ้าคือผู้ถูกปล่อยเป็นอิสระ

ดูสุนัน บัยฮะกี  หะดีษที่  18739


ส่วนฮินด์   ย่าของยาซีด     
นางและสามี รวมทั้งลูกหลานของนาง จึงเก็บความอาฆาตต่อท่านนะบี(ศ)และบะนีฮาชิมเอาไว้โดยเฉพาะ   

ในสงครามอุฮุด   ฮินด์ได้สั่งให้ทาสชาวฮะบะชีคนหนึ่งใช้หอกลอบแทงท่านฮัมซะฮ์   ลุงของท่านนะบี(ศ)ทางด้านหลังจนเสียชีวิต  จากนั้นนางฮินด์ก็เข้าไปผ่าท้องแล้วควักตับท่านฮัมซะฮ์ออกมากิน

หลังจากชาวเมืองมักกะฮ์ยอมจำนนแล้ว   ทุกครั้งที่ท่านนะบีพบเจอชาวฮะบะชีที่ลอบสังหารท่านฮัมซะฮ์ทีไร  ท่านมักจะกล่าวกับเขาว่า

غَيِّبْ وَجْهَكَ عَنِّيْ فَلاَ أَراَكَ

จงไปให้พ้นหน้าฉันเถิด   เพราะฉันไม่อยากเห็นหน้าเจ้า

ดูมุอ์ญัม  เอาซัฏ  โดยอัต ต็อบรอนี  หะดีษที่  1800


เพราะคราใดที่ท่านนะบีเห็นหน้าฮะบะชีคนนั้นทีไร ก็ทำให้ท่านนึกถึงลุงฮัมซะฮ์ สัยยิดุช ชุฮะดาอ์ทุกครั้งไป   ที่ต้องมาตายด้วยน้ำมือของทหารรับจ้างคนหนึ่ง  ที่ฮินด์จ้างวานให้มาฆ่า

ท่านลองคิดดูว่า  จะเป็นอย่างไร หากท่านนะบี(ศ)ได้เห็นใบหน้าของฮินด์ คนจ้างฆ่าและนางเป็นคนผ่าท้องท่านฮัมซะฮ์แล้วควักตับออกมากิน

แม้นางฮินด์จะทำร้ายจิตใจท่านนะบี(ศ)มากปานใด  แต่ก็ยังมีมุสลิมบางส่วนยกย่องนางว่าดี   ที่ยิ่งกว่านั้นยังกุหะดีษเล่าถึงความประเสริฐของนางไว้อีกด้วย



มุซาฟิร  ผู้ให้กำเนิดมุอาวียะฮ์

ท่านฮาฟิซ อบูสะอีด  อิสมาอีล บินอะลี อัสสิมนาน  อัลฮานาฟีได้กล่าวไว้ในหนังสือ  มะษาลิบ บะนี อุมัยยะฮ์

และท่านเชค อบุลฟุตู๊ห์  มุฮัมมัด บินญะอ์ฟัร บินมุฮัมมัด อัลฮามะดานี ได้กล่าวไว้ในหนังสือ บะฮ์ญะตุลมุสตะฟีดว่า

أن مسافر بن عمرو بن أمية ابن عبد شمس، كان ذا جمال وسخاء عشق هندا،

มุซาฟิร บินอัมรู บินอุมัยยะฮ์ บินอับดุชัมส์นั้นเป็นคนรูปหล่อและสุภาพ  เขาตกหลุมรักนางฮินด์

وجامعها سفاحا، فاشتهر ذلك في قريش، وحملت هند،

เขาได้ลักลอบได้เสียกับฮินด์   จนเรื่องนั้นลือกันในหมู่ชาวกุเรช และฮินด์ก็เริ่มตั้งท้อง   

فلما ظهر السفاح، هرب مسافر من أبيها عتبة إلى الحيرة،

พอเรื่องลักลอบปรากฏ(คือความแตก) มุซาฟิรจึงหลบหนีอุตยะฮ์พ่อของฮินด์ไปอยู่ที่เมืองฮัยเราะฮ์

وكان فيها سلطان العرب عمرو بن هند، وطلب عتبة (أبو هند) أبا سفيان، ووعده بمال كثير، وزوجه ابنته هند،

ที่นั่น(ฮัยเราะฮ์) มีผู้ปกครองอาหรับชื่อ อัมรู บินฮินด์ปกครอง  แล้วอุตบะฮ์จึงเรียกอบูสุฟยานมาพบ(เพื่อปรึกษาเรื่องฮินด์ท้องโตแต่ไม่มีพ่อ)   

อุตบะฮ์ได้สัญญาว่า  จะมอบทรัพย์สินให้อบูสุฟยานอย่างมากมาย (หากยอมแต่งงานกับฮินด์)  แล้วอุตบะฮ์จึงจับฮินด์แต่งงานกับอบูสุฟยาน

فوضعت بعد ثلاثة أشهر معاوية، ثم ورد أبو سفيان على عمرو بن هند أمير العرب،

หลังจาก(แต่งงานกับอบูสุฟยาน)ได้สามเดือน  ฮินด์ก็คลอด มุอาวียะฮ์    ต่อมาอบูสุฟยานได้(เดินทาง)เข้ามาพบอัมรู บินฮินด์หัวหน้าชาวอาหรับ(ที่ฮัยเราะฮ์)

فسأله مسافر عن حال هند، فقال: إني تزوجتها، فمرض ومات

มุฟาซาฟิร(พ่อแท้ๆของมุอาวียะฮ์) ได้ถามไถ่อบูสุฟยานถึงสภาพความเป็นอยู่ของฮินด์

อบูสุฟยานได้ตอบว่า   ฉันได้แต่งงานกับนางแล้ว   จากนั้นมุซาฟิร(จึงตรอมใจ)ล้มป่วยและเสียชีวิต.


สรุปว่า  มุซาฟิร คือพ่อผู้ให้กำเนิดมุอาวียะฮ์  ไม่ใช่อบูสุฟยาน
  •  

L-umar


ท่านซะมัคชะรีกล่าวว่า

كَانَ مُعَاوِيَةُ يَعْزِيْ اِلَي أَرْبَعَةَ اِلَي

ท่านมุอาวียะฮ์นั้น ได้สืบเชื้อสายมาจาก สี่บุคคลดังต่อไปนี้คือ

مسافر بن أبي عمرو وإلى عمارة بن الوليد وإلى العباس بن عبد المطلب وإلى الصبّاح مغن أسود كان لعمارة ،

1,มุซาฟิร บินอบีอัมรู   2,อุมาเราะฮ์ บินวะลีด  3,อับบาส บินอับดุลมุตต่อลิบ  4,ศ็อบบ๊าห์ นักร้องผิวดำ คนใช้ของอุมาเราะฮ์



ดูหนังสือ  เราะบีอุล อับร็อร  โดยซะมัคชะรี  เล่ม  3  : 551
  •  

L-umar


ท่านอิบนุ อบิลหะดีด กล่าวว่า


و كانت هند تذكر في مكة بفجور و عهر

นางฮินด์นั้นถูกกล่าวขานกันในหมู่ชาวเมืองมักกะฮ์ว่า  เป็นหญิงชั่ว และคนทำบาป


ดูหนังสือชัรฮุ  นะฮ์ญุล บะลาฆาะฮ์  โดยอิบนุ อบิลหะดีด  เล่ม 69 : 3


ท่านอัลอิศฟะฮานี กล่าวว่า

أن مسافر بن أبي عمرو بن أمية كان من فتيان قريش جمالا وشعرا وسخاء قالوا : فعشق هندا بنت عتبة بن ربيعة وعشقته فاتهم بها وحملت منه ... وأقبل أبو سفيان بن حرب إلى الحيرة في بعض ما كان يأتيها فلقي مسافرا فسأله عن حال قريش والناس فأخبره وقال له فيما يقول : وتزوجت هندا بنت عتبة فدخله من ذلك ما اعتل معه ...

มุซาฟิร บินอบีอมัรู  บินอุมัยยะฮ์ เป็นเด็กหนุ่มชาวกุเรช รูปร่างหล่อ เป็นนักกวี และสุภาพ  พวกเขากล่าวกันว่า   มุซาฟิรหลงรักนางฮินด์ บุตรสาวอุตบะฮ์ บินร่อบีอะฮ์ และฮินด์ก็หลงรักเขา(เช่นกัน) แล้วเขาได้ปรารถนาต่อนาง(คือลักลอบได้เสียกัน)  จนฮินด์ตั้งท้องกับเขา... 
อบูสุฟยาน บินหัรบ์ได้มุ่งหน้าไปที่เมืองฮัยเราะฮ์ ในการเดินทางครั้งหนึ่ง   แล้วเขาได้พบกับมุซาฟิร(สามีฮินด์คนแรก)  เขาถามอบูสุฟยานถึงสภาพของชาวกุเรชและผู้คน   อบูสุฟยานได้เล่าให้เขาฟัง และได้กล่าวกับมุซาฟิรว่า  ฉันได้แต่งงานกับฮินด์ บุตรีอุตบะฮ์แล้ว   จากข่าวนี้เข้าไปในเขา(คือเสียใจ) จนเป็นเหตุให้มุซาฟิรล้มป่วย


ดูหนังสือ อัลอะฆอนี  โดยอัลอัศฟะฮานี เล่ม 9 : 62


เราไม่ต้องการบอกว่า 

ริวายะฮ์เหล่านี้ เป็นรายงานที่เชื่อถือในทัศนะของซุนนี่(อะฮ์ลุสซุนนะฮ์)  แต่เราต้องการกล่าวว่า เรื่องนี้มันเป้นเรื่องที่กล่าวเอาไว้ในตำราประวัติศาสตร์อิสลาม     จนผู้เล่า ผู้รายงานเรื่องนี้ถูกใส่ร้ายว่าเป็น " ตะชัยยุ๊อ์ "   คนฝักใฝ่เข้าข้างพวกชีอะฮ์   

แต่ท่านอย่าลืมใช่ว่า   ตะชัยยุ๊อ์ทุกคน  จะเป็นชีอะฮ์หมด  อย่างที่ท่านทราบดีว่า  มีซอฮาบะฮ์ และอุละมาอ์ซุนนี่มากมายในอดีตที่เป็นตะชัยยุ๊อ์.
  •  

L-umar


นักวิชาการบางส่วนยังกล่าวกันว่า

كاَنَ أَحَـبُّ الرِّجاَلِ إِلَيْهاَ السُّوْدَانَ  وَكاَنَتْ اِذاَ وَلَدَتْ أَسْوَداً قَتَـلَتْهُ

ปรากฏว่า  คนผิวดำคือชายในดวงใจของนางฮินด์  และปรากฏว่า พอนางฮินด์คลอดลูกออกมาเป็นเด็กผิวดำ นางจึงฆ่าเขาเสีย

มุอาวียะฮ์  ยังมีย่าทวดคนหนึ่งชื่อ ฮะมามะฮ์   -   حـمامة  เป็นที่รู้กันว่า นางฮะมามะฮ์นี้เป็น ซาวาตุล รอยะฮ์ หรือ ซ่อวาฮิบุล รอยะฮ์   กล่าวคือสตรีอาหรับที่ชอบทำซีนาในสมัยญาฮิลียะฮ์  จะเอาธงปักไว้ที่บ้านเธอ เพื่อแสดงให้ชายรู้ว่า  เธอชอบเล่นซีนา


ท่านจะเห็นได้ว่า  คนตระกูลอุมัยยะฮ์  ล้วนสืบเชื้อสายมาจาก " ลูกซีนา "   ซึ่งซีนาในที่นี้  ถ้าจะมองในแง่ก่อนอิสลามมาประกาศก็คือ   

การลักลอบได้เสียกัน  ผิดทำนองคลองธรรม ผิดประเพณี ผิดศีลธรรมของชาวอาหรับในยุคนั้นนั่นเอง. 
  •  

L-umar


Θ  คัมภีร์กุรอ่าน  กับตระกูลอุมัยยะฮ์



ต้นไม้ มัลอูนะฮ์ (ถูกสาปแช่ง) ในคัมภีร์กุรอ่านคือ ตระกูลอุมัยยะฮ์


อัลลอฮ์ ตะอาลาตรัสว่า

وَمَا جَعَلْنَا الرُّؤْيَا الَّتِي أَرَيْنَاكَ إِلَّا فِتْنَةً لِلنَّاسِ وَالشَّجَرَةَ الْمَلْعُونَةَ فِي الْقُرْآَنِ وَنُخَوِّفُهُمْ فَمَا يَزِيدُهُمْ إِلَّا طُغْيَانًا كَبِيرًا

และเรามิได้ทำให้การฝัน ที่เราได้ให้เจ้า(มุฮัมมัด)ฝันเห็นเพื่ออื่นใด  นอกจากเพื่อเป็นการทดสอบแก่มนุษย์   

และ " ต้นไม้ที่ถูกสาปแช่งในอัลกุรอาน "    และเราได้ทำให้พวกเขาหวาดกลัว ดังนั้น มันมิได้เพิ่มสิ่งใดแก่พวกเขา นอกจากการดื้อรั้นมาก


ซูเราะฮ์ อัลอิสรอ  : 60


Θ อธิบาย
คำ اللعن  ละอ์นะฮ์ ในทางภาษาศาสตร์คือ التبعيد  ทำให้ห่างไกล ดังนั้น "ต้นไม้มัลอูน " ที่กล่าวในอัลกุรอานจึงหมายถึง มันห่างไกลจากลักษณะที่ดีทั้งหลาย ด้วยเหตุนี้จึงเรียกมันว่า " มัลอูน "


มุฟัสสิรซุนนี่อรรถาธิบายว่า ต้นไม้ มัลอูนะฮ์ในโองการนี้หมายถึง

1. ต้นซักกูมในนรก
2. ตระกูล  บนี อุมัยยะฮ์


ต่อไปนี้คือรายชื่ออุละมาอ์และหนังสือซุนนี่ที่กล่าวว่า ต้นไม้ในที่นี้คือ บนีอุมัยยะฮ์


►อัสสิยูตีรายงาน

وأخرج ابن مردويه ، عن عائشة رضي الله عنها « أنها قالت لمروان بن الحكم : سمعت رسول الله - صلى الله عليه وسلم - يقول : لأبيك وجدك » إنكم الشجرة الملعونة في القرآن « » .

ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า

นางได้กล่าวกับมัรวาน บินหะกัมว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวกับบิดาท่านและปู่ของท่านว่า แท้จริงพวกเจ้าคือ ต้นไม้ที่ถูกสาปแช่งในอัลกุรอ่าน

ดูตัฟสีรอัดดุรรุลมันษูร เล่ม 6 : 295


►อัลอะลูซีรายงาน

وأخرج ابن مردويه عن عائشة رضي الله تعالى عنها أنها قالت لمروان بن الحكم : «سمعت رسول الله صلى الله عليه وسلم يقول لأبيك وجدك : إنكم الشجرة الملعونة في القرآن»

ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า นางได้กล่าวกับมัรวาน บินหะกัมว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวกับบิดาท่านและปู่ของท่านว่า แท้จริงพวกเจ้าคือ ต้นไม้ที่ถูกสาปแช่งในอัลกุรอ่าน

ดูตัฟสีรอัลอะลูซี เล่ม 11 : 5



►อัช-เชากานีรายงาน


وأخرج ابن مردويه عن عائشة أنها قالت لمروان بن الحكم : سمعت رسول الله صلى الله عليه وسلم يقول لأبيك وجدّك : « إنكم الشجرة الملعونة في القرآن »

ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า นางได้กล่าวกับมัรวาน บินหะกัมว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวกับบิดาท่านและปู่ของท่านว่า แท้จริงพวกเจ้าคือ ต้นไม้ที่ถูกสาปแช่งในอัลกุรอ่าน
ตัฟสีรฟัตฮุลเกาะดีร เล่ม 4 : 328


►ฟัครุดดีน อัลรอซีรายงาน


القول الثاني : قال ابن عباس رضي الله عنهما : الشجرة بنو أمية يعني الحكم بن أبي العاص قال ورأى رسول الله صلى الله عليه وسلم في المنام

อิบนุอับบาสกล่าวว่า ต้นไม้ที่ถูกสาปแช่ง(ในอัลกุรอ่าน)คือ บนูอุมัยยะฮ์ คืออัลหะกัม บินอบิลอาศ
ตัฟสีรอัลกะบีร เล่ม 10 : 82


►อัลกุรตุบี บันทึกว่า

قال ابن عباس  الشجرة بنو أمية

อิบนุอับบาสกล่าวว่า ต้นไม้ที่ถูกสาปแช่ง(ในอัลกุรอ่าน)คือ บนูอุมัยยะฮ์
ตัฟสีรอัลกุรตุบี เล่ม 10 : 245


ดังนั้นบะนูอุมัยยะฮ์คือตระกูลที่ถูกอัลเลาะฮ์สาปแช่ง


Φอาจมีคนแย้งว่า  อายัตนี้และเรื่องนี้เกิดขึ้นที่มะดีนะฮ์  แต่ซูเราะฮ์นี้ถูกประทานที่มักกะฮ์ ดังนั้นจึงไม่ถูกต้องที่จะตัฟสีรเช่นนั้น  เว้นเสียแต่ว่า จะมีใครสักคนหนึ่งกล่าวว่า  อายัตนี้ลงที่มะดีนะฮ์ แต่ไม่เห็นมีใครกล่าวเลย


☻คำตอบคือ  การตัฟสีรดังกล่าวได้รับหะดีษยืนยันเอาไว้ดังนี้


หนึ่ง- หะดีษที่บรรดานักตัฟสีรซุนนี่ได้รายงานว่า

ท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้กล่าวกับมัรวาน บินหะกัมว่า  ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวกับบิดาท่านและปู่ของท่านว่า   แท้จริงพวกเจ้าคือ  ต้นไม้ที่ถูกสาปแช่งในอัลกุรอ่าน
   

สอง -    หะดีษของอิม่ามฮาซัน ที่กล่าวกับมัรวานบินฮะกัมว่า เจ้าถูกอัลลอฮ์สาปแช่งเอาไว้

حَدَّثَنَا إِبْرَاهِيمُ بْنُ الْحَجَّاجِ السَّامِيُّ ، حَدَّثَنَا حَمَّادُ بْنُ سَلَمَةَ ، عَنِ عَطَاءِ بْنِ السَّائِبِ ، عَنْ أَبِي يَحْيَى ، قَالَ : كُنْتُ بَيْنَ الْحُسَيْنِ وَالْحَسَنِ ، وَمَرْوَانَ يَتَشَاتَمَانِ ، فَجَعَلَ الْحَسَنُ يَكُفُّ الْحُسَيْنَ ، فَقَالَ مَرْوَانُ : أَهْلُ بَيْتٍ مَلْعُونُونَ ، فَغَضِبَ الْحَسَنُ ، فَقَالَ : أَقُلْتَ : أَهْلُ بَيْتٍ مَلْعُونُونَ ؟ فَوَاللَّهِ لَقَدْ لَعَنَكَ اللَّهُ عَلَى لِسَانِ نَبِيِّهِ صلى الله عليه وسلم ، وَأَنْتَ فِي صُلْبِ أَبِيكَ
قال حسين سليم أسد : إسناده صحيح

อบียะห์ยาเล่าว่า  :   ฉันอยู่ระหว่างท่านฮูเซนกับท่านฮาซัน  และมัรวาน(บินฮะกัม)กำลังด่าว่าท่านทั้งสองอยู่  ท่านฮาซันจึงได้ยับยั้งท่านฮูเซน(น้องชาย)เอาไว้   

มัรวานกล่าวว่า   :  พวกอะฮ์ลุลบัยต์นะบีนั้นถูกสาปแช่ง   ท่านฮาซันจึงโกรธพลางกล่าว(กับมัรวาน)ว่า   เจ้าพูดว่า อะฮ์ลุลบัยต์ถูกสาปแช่งกระนั้นหรือ  ?   ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า  แท้จริงอัลลอฮ์ทรงสาปแช่งเจ้าบนคำพูดของศาสดาของพระองค์(คือนบีมุฮัมมัด ศ.) และเจ้า(มัรวาน)ก็อยู่ในไขสันหลัง(เชื้อสาย)ของบิดาเจ้า

สถานะหะดีษ  : ซอฮิ๊ฮ์   ดูมุสนัด  อบียะอ์ลา  หะดีษที่  6764   

ฉบับตรวจทานโดยฮูเซน สุลัยม์อะซัด



มุอ์ญัมกะบีร โดยอัตต็อบรอนี  หะดีษที่  2740
มัจญ์มะอุซซะวาอิด  โดยอัลฮัยษะมี  หะดีษที่ 9228
อัลมะตอลิบุลอาลียะฮ์ โดยอิบนุหะญัร  อัลอัสก่อลานี  หะดีษที่  4579

สรุปเพราะฉะนั้น  การตัฟสีรอายัตข้างต้นจึงได้รับหะดีษสองบทดังกล่าวมาสนับสนุนว่า  คนตระกูลอุมัยยะฮ์นั้นถูกอัลลอฮ์สาปแช่งไว้บนวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)



คำถาม     ทำไมคนตระกูล อุมัยยะฮ์จึงถูกสาปแช่ง   

คำตอบ     สาเหตุเพราะ   คนตระกูลอุมัยยะฮ์  จะบิดเบือนศาสนาอิสลามและซุนนะฮ์นะบี 

ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป  อินชาอัลลอฮ์...
  •  

L-umar



Θ  ศาสดามุฮัมมัด  กับตระกูลอุมัยยะฮ์


ตระกูลอุมัยยะฮ์คือ  ผู้เปลี่ยนแปลงแก้ไขซุนนะฮ์


ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า :

أوَّلُ مَنْ يُغَيِّرُ سُنَّتِيْ رَجُلٌ مِنْ بَنِيْ أُمَيَّة

บุคคลแรกที่จะทำการเปลี่ยนแปลงซุนนะฮ์ของฉัน คือชายที่มาจากตระกูลอุมัยยะฮ์


สถานะหะดีษ :   ซอฮี๊ฮฺ  ดูซิลซิละตุซ-ซอฮีฮะฮ์ เล่ม 4 หน้า 329   หะดีษที่ 1749 

เชคอัลบานีกล่าวว่า : สายรายงานหะดีษนี้ ฮาซัน (ดี ) / นักรายงานหะดีษนี้ เชื่อถือได้



เดิมหะดีษบทนี้ถูกบันทึกอยู่ในหนังสือ อัลอะวาอิล โดยอิบนิ อบีอาศิม  หะดีษที่ 61

حدثنا عبيد الله بن معاذ ، ثنا أبي ، ثنا عوف ، عن المهاجر بن مخلد ، عن أبي العالية ، عن أبي ذر ، أنه قال ليزيد بن أبي سفيان : سمعت رسول الله صلى الله عليه وسلم يقول : « أول من يغير سنتي رجل من بني أمية »
الكتاب : الأوائل لابن أبي عاصم  لإبن أبي عاصم  ج 1 ص 62 ح 61
كتاب : أخبار أصبهان  ج 1  ص 365  ح 287


ท่านคิดว่า  คนตระกูลอุมัยยะฮ์  เปลี่ยนแปลงซุนนะฮ์ใดในอิสลาม ?

ท่านคิดว่า  ผลงานที่คนตระกูลอุมัยยะฮ์ก่อเอาไว้กับอิสลามมีอะไรบ้าง ?
  •  

L-umar


ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ) ได้ก่อตั้งรัฐอิสลามขึ้นมาด้วยความยากลำบาก  แล้วเกิดอะไรขึ้นเมื่อท่านได้อำลาจากโลกนี้ไปแล้ว ?



ระบอบการปกครองแบบอิสลามของท่านสมบูรณ์ที่สุดและดีที่สุดแล้วมิใช่หรือ ?


ประวัติศาสตร์อิสลามระบุว่า

ท่านอบูบักรดำรงตำแหน่งคอลีฟะฮ์ในปีฮิจเราะศักราชที่  11   

ระบบคอลีฟะฮ์นี้ มาสิ้นสุดลงในปีฮิจเราะศักราชที่ 41 


ซึ่งเป็นปีที่ท่านคอลีฟะฮ์ฮาซันยอมสละตำแหน่งคอลีฟะฮ์ให้กับมุอาวียะฮ์   รวบระยะเวลาการปกครองระบอบคอลีฟะฮ์ทั้งหมดได้ 30 ปี


เกิดอะไรขึ้นหลัง 30   ปีนี้ ???



เมื่อมุอาวียะฮ์ขึ้นครองอาณาจักรอิสลาม  เขาได้เปลี่ยนการปกครองจากระบบอิสลามไปสู่ระบบมาลิก(กษัตริย์)

หะดีษฆ็อยบียะฮ์ของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้แจ้งข่าวนี้ล่วงหน้าแล้วว่า

ชายคนแรกที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขซุนนะฮ์ของฉัน  คือชายที่มาจากตระกูลอุมัยยะฮ์   

ชายคนนั้นคือ " มุอาวียะฮ์ "  เพราะเขาคือบุคคลแรกที่ขึ้นมาปกครองอาณาจักรอิสลาม   การที่มุอาวียะฮ์เปลี่ยนระบบการปกครองของท่านรอซูล(ศ)ไปเป็นระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ( Absolute Monarchy) คือ ระบอบการปกครองที่มีกษัตริย์เป็นผู้ปกครองและมีสิทธิ์ขาด     

นั่นหมายความว่า   ซุนนะฮ์การปกครองของท่านรอซูล(ศ)จะถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของมุอาวียะฮ์


►คำถาม

ท่านคิดว่า  หะดีษข้างต้นเป็นคำพูดที่ท่านนะบี(ศ)ยกย่องมุอาวียะฮ์ หรือตำหนิมุอาวียะฮ์  ?



ถ้าท่านยังมืนคิดไม่ออกว่า ท่านนะบี(ศ)ยกย่องมุอาวียะฮ์หรือตำหนิเขา  ขอให้ท่านอ่านหะดีษนี้


ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) กล่าวว่า

اَلْخِلاَفَةُ ثَلاَثُوْنَ سَـنَةً ، ثُمَّ تَكُوْنُ بَعْدَ ذَلِكَ مَلِكاً

การปกครองระบบคิลาฟะฮ์นั้นคือ  30  ปี แล้วจะ(เปลี่ยนไป)เป็นระบบกษัตริย์ หลังจากนั้น



สถานะหะดีษ : ซอฮิ๊ฮ์   ดูซิลซิละตุซ ซ่อฮีฮะฮ์   โดยอัลบานี  เล่ม 1 : 742 หะดีษที่ 459 


ระบบมาลิก(กษัตริย์)ที่คนตระกูลอุมัยยะฮ์นำมาปกครองมุสลิมเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี ?


ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า

إِذَا بَلَغَ بَنُو أَبِي الْعَاصِ ثَلاثِينَ رَجُلاً اتَّخَذُوا دِينَ اللهِ  دَغَلا وَعِبَادَ اللهِ  خَوَلا وَمَالَ اللهِ عزوجل  دُوَلا

เมื่อตระกูล(บนู) อบิลอาศบรรลุครบสามสิบคน   พวกเขาจะยึดเอาศาสนาของอัลลอฮ์เป็นเรื่องเสียหายสร้างคามเสื่อมเสีย   (พวกเขาจะเอา)บ่าวของอัลลอฮ์เป็นทาสรับใช้ และ(พวกเขาจะ)เอาทรัพย์สินของอัลลอฮ์เป็นของรัฐ(ที่พวกเขาปกครอง)


สถานะหะดีษ : ซอฮิ๊ฮ์   ดูซิลซิละตุซ ซ่อฮีฮะฮ์   โดยอัลบานี  เล่ม 2 : 379 หะดีษที่ 744 


ตระกูล (บะนู) อบิลอ๊าศ คือใคร ?


อบิลอ๊าศ เป็นบุตรของอุมัยยะฮ์คนหนึ่ง
อบิลอ๊าศ เป็นบิดาของฮะกัม   ส่วนฮะกัมคือบิดาของมัรวาน
ด้วยเหตุนี้ตระกูลมัรวาน บินฮะกัม บินอบิลอาศ บินอุมัยยะฮ์ จึงเป็นคนตระกูลเดียวกันกับมุอาวียะฮ์และยาซีด

สมจริงดังที่ท่านรอซูล(ศ)แจ้งข่าวไว้ล่วงหน้าว่า 

พวกตระกูลอุมัยยะฮ์จะทำให้ศาสนาของอัลลอฮ์เสียหาย  จะเอาคนเป็นทาสรับใช้ และยึดทรัพย์บัยตุลมาลเป็นกรรมสิทธิ์ของพวกเขาเอง   

ด้วยเหตุนี้มุอาวียะฮ์จึงต้องทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ไปสู่ระบบกษัตริย์  เพื่อทำให้เป้าหมายของเขาบรรลุผล.

ท่านลองตรงดูเถิดว่า   คนที่เปลี่ยนแปลงซุนนะฮ์นะบีที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลกอิสลาม ไปเป็นระบบที่นัฟซูตัวเองต้องการนั้น  ยังจะดีในสายตาของท่านอีกหรือ  ?


การที่มุอาวียะฮ์เปลี่ยนระบบอิสลามเป็นระบบกษัตริย์นี้คือ  บิดอะฮ์ ไช่ไหม ?

บิดอะฮ์ بِدْعَةٌ ในทางศาสนาคืออุตริกรรม   


ดังที่ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) กล่าวว่า :

فَإِنَّ خَيْرَ الْحَدِيْثِ كِتَابُ الله وَخَيْرَ الْهَدْيِ هَدْيُ مُحَمَّدٍ وَشَرَّ الْأُمُوْرِ مُحْدَثَاتُهَا وَكُلُّ مُحْدَثَةٍ  بِدْعَةٌ وَكُلُّ بِدْعَةٍ ضَلاَلَةٌ

แท้จริงถ้อยคำที่ดีที่สุดคือ คัมภีร์ของอัลลอฮ์ แต่ทางนำที่ดีที่สุดคือ ทางนำของมุหัมมัด และบรรดาการงานที่ชั่วที่สุดคือ บรรดาสิ่งที่อุตริทำขึ้นมาใหม่(ไม่มีในชะเราะอ์-บทบัญญัติ) และทุกสิ่งที่อุตริทำขึ้นมาใหม่นั้น เป็นบิดอะฮ์ และทุกๆ บิดอะฮ์นั้น หลงทาง



ดูซอฮีฮุล บุคอรี หะดีษที่ 6735 และซอฮีฮุ มุสลิม หะดีษที่ 1435


อีกหะดีษหนึ่งท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) กล่าวว่า :

مَنْ أَحْدَثَ فِي أَمْرِنَا مَا لَيْسَ مِنْهُ فَهُوَ رَدٌّ

ผู้ใดที่กระทำขึ้นมาใหม่ ในการงาน(ศาสนา)ของเรานี้ กับสิ่งที่ไม่มีมาจากมัน(คือจากการงานของเรา)แล้ว สิ่งนั้นย่อมถูกปฏิเสธ


ดูซอฮีฮุล บุคอรี  หะดีษที่ 2697 และซอฮีฮุ มุสลิม หะดีษที่ 1718


ซุนนะฮ์ سُـنَّةٌ หมายถึงแบบอย่างคือ  1,คำพูด  2,การกระทำ และ3,การยอมรับของท่านศาสดามุฮัมมัด 

ซึ่งทั้งสามถูกถ่ายทอดออกมาเพื่อให้มุสลิมนำไปปฏิบัติ


หากซุนนะฮ์นะบีคือทางนำที่ดีที่สุด เหตุใดมุอาวียะฮ์จึงยกเลิกซุนนะฮ์การปกครองของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ) ?


แล้วเหตุใด มุสลิมบางส่วนยังยกย่องสรรเสริญมุอาวียะฮ์ ผู้ทำลายซุนนะฮ์ที่สำคัญของท่านนะบี ?
  •  

L-umar


กรณี เรื่องราวของกษัตริย์มุอาวียะฮ์ บุตรนางฮินด์ 


มี  2  หัวข้อที่เราต้องทำความเข้าใจคือ

หนึ่ง -  มุอาวียะฮ์ทำอะไรไว้บ้าง   สอง -  การกระทำที่เขาก่อเอาไว้


ท่านได้ทราบชีวประวัติของมุอาวียะฮ์มาแล้วว่า เขาพ่อแม่ของเขา และตระกูลของเขาเป้นใครมาจากไหน  ?


Φ สิ่งที่เราต้องศึกษาให้ลึกลงไปอีกคือ   ช่วงที่มุอาวียะฮ์มีชีวิต  เขาทำอะไรเอาไว้กับอิสลามบ้าง ?


หนึ่ง -   

มุอาวียะฮ์ครองราชย์ในปีฮ.ศ.  41 สิ่งแรกที่เขาทำคือ ยกเลิกการปกครองแบบอิสลามไปสู่ระบบกษัตริย์ 


สอง -

มุอาวียะฮ์กับคนตระกูลอุมัยยะฮ์ สาปแช่งด่าทอท่านอะลีบนมิมบัรเป็นเวลาถึง 70 ปี จนอุมัรบินอับดุลอะซีซสั่งยกเลิกการสาปแช่งนี้

ทั้งๆที่มุอาวียะฮ์และซอฮาบะฮ์เคยได้ยิน

ท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า

มันผู้ใดด่าทออะลี เท่ากับมันผู้นั้นได้ด่าทอต่อฉัน


สถานะหะดีษ : เศาะหิ๊หฺ  ดูมุสนัดอะหมัด หะดีษที่ 26791

ตรวจทานโดยเชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏี


ดู
http://www.q4sunni.com/believe/index.php?option=com_kunena&Itemid=71&func=view&catid=2&id=88


หรือว่า มุอาวียะฮ์มีเจตนาเป็นนัยๆว่า เขาต้องการด่าท่านรอซูล(ศ)นั่นเอง  เพราะในเมื่อท่านรอซูล(ศ)กล่าวว่า ใครด่าอาลีเท่ากับด่าฉัน  มุอาวียะฮ์จึงรู้ดีว่า การด่าศาสดาอิสลามตรงๆ ย่อมทำให้ประชาชนเกิดปฏิกิริยาในเชิงลบกับเขาแน่นอน   มุอาวียะฮ์จึงเลี่ยงไปด่าท่านอาลีแทน เพราะก็เหมือนกัน


คำถาม   มีหลักฐานแสดงไหมว่า  มุอาวียะฮ์กับบะนูอุมัยยะฮ์ด่าทอท่านอาลี  ?

คำตอบ 

ท่านสามารถอ่านหะดีษที่ฝ่ายซุนนี่บันทึกว่า    มุอาวียะฮ์กับตระกูลอุมัยยะฮ์สาปแช่งด่าทอท่านอะลีได้ที่ บทความดังนี้
http://www.q4sunni.com/believe/index.php?option=com_kunena&Itemid=71&func=view&catid=2&id=89

และ

http://www.q4sunni.com/believe/index.php?option=com_kunena&Itemid=71&func=view&catid=2&id=97

หลักฐานเหล่านี้คงเพียงพอแล้วที่จะยืนยันว่า  มุอาวียะฮ์ดูหมิ่นเหยียดหยามท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)เพียงใด   
  •  

L-umar

۩  โอ้ชาววาฮาบีทั้งหลาย   

ท่านจะมีทัศนะอย่างไรกับนักวิชาการอะฮ์ลุสซุนนะฮ์ระดับสูงคนหนึ่งชื่อ   




Θ  อะลี บินอัลญะอ์ดิ  Θ

ที่ประกาศชัดว่า  มุอาวียะฮ์  ตายอย่างคนกาเฟร

► หนังสือ มะซาอิล อิหม่ามอะหมัด บินฮันบัล  หน้า  408  มัสอะละฮ์ที่ 1866  ได้บันทึกว่า :

وسَمـعتُ أبا عبد الله وقال له دلُّويه :  سَمِـعْتُ عَلِىَّ بْنَ الْجَعْدِ يَقُوْلُ :

ماَتَ وَاللهِ مُعاَوِيَّةُ عَلَي غَيْرِ الْاِسْـلاَمِ

ท่านอะลี บินอัลญะอ์ดิกล่าวว่า   ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า   มุอาวียะฮ์ได้ตายลงบน(สภาพที่) ไม่ใช่อิสลาม.

มุอาวียะฮ์ได้ก่อกรรมใดเอาไว้หรือ จนอุละมาอ์ซุนนี่ผู้นี้ถึงกล้ากล่าวว่าเขาตายในสภาพไร้ศรัทธา


۞ คำถาม  คำพูดของอะลี บินอัลญะอ์ดิผู้นี้เชื่อถือได้แค่ไหน ?

۩  คำตอบ  อะลี บินอัลญะอ์ดิผู้นี้คือริญาลุลบุคอรีคนหนึ่ง เพราะรายงานของเขาถูกบันทึกอยู่ในตำราซอฮีฮุลบุคอรีถึง 14 บทคือ
หะดีษที่ 53,106,1179,1393,1424,2938,3563,3707,5348,5834,6119,6247,6516,7266

ท่านซะฮะบีกล่าวว่า
على بن الجعد أبو الحسن الجوهرى الحافظ الثبت

อะลี บินอัลญะอ์ดิ อบุลฮาซันอัลเญะฮะรี นั้นเป็นนักท่องจำที่มั่นคง
ดูมีซานุลอิ๊อ์ติดาล  อันดับที่  5798

ท่านอิบนุฮะญัร อัลอัสก่อลานีกล่าวว่า

علي بن الجعد... البغدادي ثقة ثبت رمي بالتشيع من صغار التاسعة مات سنة ثلاثين ومائتين

อะลี บินอัลญะอ์ดิ  ชาวแบกแดด นั้นเชื่อถือได้ มั่นคง เขาถูกใส่ร้ายว่าเป็นตะชัยยุ๊อ์ มรณะปี 230
ดูตักรุบุต ตะฮ์ซีบ  อันดับที่  4698

ท่านอิบนุอบีฮาติม อัลรอซีกล่าวว่า

على بن الجعد الجوهري أبو الحسن البغدادي مولى بنى هاشم... كان متقنا صدوقا

อะลี บินอัลญะอ์ดิ อัลเญาฮะรี อบุลฮาซัน ชาวแบกแดด คนรับใช้ของตระกูลฮาชิม เขาเป็นผู้ที่มั่นคง เชื่อได้ 
ดูอัลญัรฮุ วัต ตะอ์ดีล  อันดับที่  974

อิบนุฮิบบานกล่าวว่า
อะลี บินอัลญะอ์ดิ บินอะบีด อัลเญาฮะรี คนรับใช้บะนูฮาชิม ชาวแบกแดด  เกิดปีฮ.ศ. 136 มรณะวันจันทร์ที่  30 เราะญับ ฮ.ศ. 230
( รวมอายุได้ 96 ปี ร่างฝังอยู่ที่สุสาน มักบะเราะฮ์บาบุหัรบ์ แบกแดด อิรัก ผู้แปล.)
ท่านยะห์ยาบินมะอีน มีความนิยมในตัวเขาเป็นอย่างยิ่ง  เขา(ยะห์ยา)ถูกถามว่า บุคคลใดดีที่สุดและน่าเชื่อถือมากที่สุด(สำหรับท่าน) ระหว่างอบูนัฎร์ ฮาชิม บินอัลกอสิม กับอะลี บินอัลญะอ์ดิ  ท่านยะห์ยาตอบว่า อะลี บินอัลญะอ์ดิ   
ดูอัษ ษิกอต อิบนฮิบบาน  อันดับที่  14458

ท่านดาร่อ กุฏนีกล่าวว่า

وسألته عن أبي بكر أحمد بن محمد بن محمد بن منصور الحاسب ، عن علي بن الجعد ؟ فقال ثقة

อะลี บินอัลญะอ์ดิ  เชื่อถือได้
ดูเมาซูอะฮ์ อักวาลุล ดาร่อกุฏนี  อันดับที่ 172

ท่านอัลมิซีได้บันทึกว่า

قال أبو جعفر العقيلي قلت لعبد الله بن أحمد بن حنبل لم لم تكتب عن علي بن الجعد فقال نهاني أبي أن أذهب إليه وكان يبلغه عنه أنه يتناول أصحاب رسول الله صلى الله عليه و سلم

ท่านอบูญะอ์ฟัร อัลอะกีลีเล่าว่า
ฉันกล่าวกับท่านอับดุลลอฮ์ บุตรของอิหม่ามอะหมัด บินฮัมบัลว่า  ทำไมท่านจึงไม่ยอมบันทึก(หะดีษที่รายงานมา)จากท่านอะลี บินอัลญะอ์ดิ ?
ท่านอับดุลลอฮ์ตอบว่า  บิดาของฉัน(คืออิหม่ามอะหมัด)ได้ห้ามไม่ให้ฉัน(คล้อย)ตามไปกับเขา และท่านยังเคยประกาศถึงเขาว่า  เขา(อะลีบินญะอ์ดิ)เคยด่าว่าบรรดาซอฮาบะฮ์ของท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ให้เสื่อมเสีย

วรรคถัดมาอิหม่ามอะหมัดกล่าวถึงอะลีบินญะอ์ดิว่า

وقال أحمد ويقع في أصحاب النبي صلى الله عليه و سلم

และเขา(อะลีบินญะอ์ดิ)เคยว่าร้ายกับบรรดาซอฮาบะฮ์ของท่านนะบี(ศ)

قال محمد بن حماد سألت يحيى بن معين عن علي بن الجعد فقال ثقة صدوق ثقة صدوق

มุฮัมมัด บินฮัมมาดเล่าว่า ฉันถามท่านยะห์ยาบินมะอีนถึงท่านอะลี บินอัลญะอ์ดิ  ท่านยะห์ยาตอบว่า  เขาเชื่อถือได้ วาจาสัตย์จริง  เขาเชื่อถือได้ วาจาสัตย์จริง

ดูตะฮ์ซีบุลกะมาล อันดับที่ 4034

ท่านจะเห็นได้ว่า   แม้กระทั่งอุละมาอ์ซุนนี่ระดับสูงคนหนึ่งยัง ประณามว่า  มุอาวียะฮ์ตายอย่างคนไร้ศรัทธาต่ออิสลาม



บทสรุปคือ
ท่านอะลี บินอัลญะอ์ดิกล่าวว่า   ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า   มุอาวียะฮ์ได้ตายลงบน(สภาพที่) ไม่ใช่อิสลาม. 

ท่านคงต้องใช้วิจารณญาณกันเองเสียแล้วว่า   ทำไม นักวิชาการผู้นี้จึงยังเป็นที่นับถือในหมู่นักวิชาการซุนนี่ระดับมาจนทุกวันนี้

แต่ถ้ามุสลิมคนใดตำหนิต่อว่ามุอาวียะฮ์   เขาจะถูกพวกวาฮาบี ฮุก่มเป็นกาเฟ็ร   
  •  

L-umar


ท่านรอซูลุลเลาะฮ์ (ศ) กล่าวว่า

الْحَسَـنُ وَالْحُسَـيْنُ سَـيِّدَا شَـبَابِ أَهْـلِ الْجَـنّـَةِ

ฮาซันและฮูเซนคือ   หัวหน้าชายหนุ่มทั้งหลายแห่งชาวสวรรค์




สถานะหะดีษ   :   ซอฮี๊ฮ์    ดูหนังสือต่อไปนี้

ซิลซิละตุซ-ซอฮีฮะฮ์  โดยเชคอัลบานี   เล่ม 2 หน้า 438 หะดีษที่ 796 
มุสนัดอิหม่ามอะหมัด   หะดีษที่   11794,23378
สุนัน    อิบนิมาญะฮ์   หะดีษที่  118 
สุนัน    ติรมิซี   หะดีษที่  4136,4150,3768,3781
สุนันกุบรอ ของนะซาอี   หะดีษที่  8169,8298,8514,8515
อัลมุสตัดร็อก ของฮากิม   หะดีษที่  4762,4763,4764,5645
มุชกิลุลอาษ้าร   ของอัตต่อฮาวี   หะดีษที่  1681,4362
มุอ์ญัม กะบีร  ของอัตต็อบรอนี    หะดีษที่  2598,2599,2600
มุสนัด อบี ยะอ์ลา   หะดีษที่  1169
มุศ็อนนัฟ  อิบนิอบีชัยบะฮ์   หะดีษที่  32176,32177,32179
ซอฮิ๊ฮ์  อิบนิฮิบบาน   หะดีษที่  6959,6960

มุหัดดิษ(นักรายงานหะดีษ)มากมายรายงานว่า    ฮาซัน คือ สัยยิดของ อะฮ์ลุลญันนะฮ์
ซึ่งสายรายงานนี้ชัดเจนว่า  มีความถูกต้อง 


ท่านฮาซัน บินอะลีเข้ารับตำแหน่งคอลีฟะฮ์ ในวันที่บิดาเสียชีวิต
โดยท่านฮาซันได้ออกมาปราศรัยกับประชาชนที่หน้ามัสญิดกูฟะฮ์ตอนที่บิดาเสียชีวิตว่า  :


أَيُّهَا النَّاسِ مَنْ عَرَفَنِيْ فَقَدْ عَرَفَنِيْ وَمَنْ لَمْ يَعْرِفْنَيْ فَأَنَا الْحَسَنُ بْنُ عَلِيٍّ وَأَنَا بْنُ النَّبِيِّ وَأَنَا بْنُ الْوَصِيِّ  وَأَنَا بْنُ الْبَشِيْرِ وَأَنَا بْنُ الَّنذِيْرِ وَأَنَا بْنُ الدَّاعِيِّ إِلَى اللهِ بِإِذْنِهِ وَأَنَا بْنُ السِّرَاجِ الْمُنِيْرِ وَأَنَا مِنْ أَهْلِ الْبَيْتِ الَّذِيْ كَانَ جَبْرِيْلُ يَنْزِلُ إِلَيْنَا وَيَصْعَدُ مِنْ عِنْدِنَا وَأَنَا مِنْ أَهْلِ الْبَيْتِ الَّذِيْ أَذْهَبَ اللهُ عَنْهُمُ الرِّجْسَ وَطَهَّرَهُمْ تَطْهِيْرًا وَأَنَا مِنْ أَهْلِ الْبَيْتِ الَّذِيْ اِفْتَرَضَ اللهُ مَوَدَّتَهُمْ عَلَى كُلِّ مُسْلِمٍ فَقَالَ تَبَارَكَ وَتَعَالَى لِنَبِيِّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلّم قُل لَّا أَسْأَلُكُمْ عَلَيْهِ أَجْرًا إِلَّا الْمَوَدَّةَ فِي الْقُرْبَى وَمَن يَقْتَرِفْ حَسَنَةً نَّزِدْ لَهُ فِيهَا حُسْنًا  {الشورى/23}  فَإِقْتِرَافُ الْحَسَنَةِ مَوَدَّتُـنَا أَهْلُ الْبَيْتِ.

โอ้ประชาชนทั้งหลาย  ผู้ใดรู้จักฉัน เท่ากับเขาได้รู้จักฉันดีแล้ว แต่ถ้าผู้ใดยังไม่เคยรู้จักฉัน  ดังนั้น(ขอแนะนำตัวว่า)ฉันคืออัลฮาซัน บุตรของอะลี, ฉันคือบุตรหลานของท่านนบี, ฉันคือบุตรของวะซี, ฉันคือบุตรของผู้บอกข่าวดี, ฉันคือบุตรของผู้แจ้งข่าวร้าย, ฉันคือบุตรของผู้เชิญชวนสู่อัลลอฮ์ด้วยอนุมัติของพระองค์, ฉันคือบุตรของประทีปแห่งแสงสว่าง, ฉันคือหนึ่งจากอะฮ์ลุลบัยต์ที่ท่านญิบรีลลงมาหาพวกเราและขึ้นไปจากพวกเรา, ฉันคืออะฮ์ลุลบัยต์คนหนึ่งที่อัลลอฮ์ขจัดความโสมมออกไปจากพวกเขาและชำระพวกเขาจนบริสุทธิ์ไร้มลทิน, ฉันคืออะฮ์ลุลบัยต์คนหนึ่งที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดว่าความรักที่มีต่อพวกเขาคือฟัรฎูของมุสลิมทุกคน ดังที่อัลลอฮ์ทรงตรัสว่า(จงกล่าว(ต่อมุสลิมทั้งหลายเถิดมุฮัมมัด) ว่า ฉันไม่ขอค่าตอบแทนใด ๆ เพื่อการประกาศอิสลามนี้ ยกเว้น ให้แสดงความรักต่อญาติสนิท    แล้วผู้ใดได้ทำดี เราจะเพิ่มพูลให้เขาในการนั้นซึ่งความดี) เพราะฉะนั้นการทำความดีในที่นี้หมายถึง การแสดงความรักต่อเรา อะฮ์ลุลบัยต์   
   
ดูหนังสือ อัลมุสตัดร็อก อัลฮากิม เล่ม 3 หะดีษที่ 4802 เป็นหะดีษซอฮี๊ฮฺ


Θ   คำถาม   ใครสังหารท่านฮาซัน  หัวหน้าชาวสวรรค์   ???
  •  

L-umar


۞  คนสังหารท่านฮาซัน บินอาลีคือ  มุอาวียะฮ์  บินอบีสุฟยาน


อัต ต็อบรอนี  ( ฮ.ศ. 260-360 ) บันทึกไว้ว่า

 
حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ الْحَضْرَمِيُّ قاَلَ ثَناَ مُحَمَّدُ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ بْنُ نُمَيْرٍ ثَناَ يَحْيَى بْنُ أَبِي بُكَيْرٍ ثَناَ شُعْبَةُ : عَنْ أَبِي بَكْرِ بْنِ حَفْصٍ أَنَّ سَعْداً وَ الْحَسَنَ بْنَ عَلِيٍّ رَضِيَ اللهُ عَنْهُماَ ماَتاَ فِيْ زَمَنِ مُعاَوِيَّةَ رضي الله عنه فَيَرَوْنَ أَنَّهُ سَـمَّهُ

كتاب : المعجم الكبير للطبراني   ج 3  ص  71 ح 2694

มุฮัมมัด บินอับดุลลอฮ์ อัลฮัฎร่อมี เล่าให้เราฟัง เขากล่าวว่า  มุฮัมมัด บินอับดุลลอฮ์ บินนุมัยร์ เล่าให้เราฟัง  ยะห์ยา บินอบีบุกัยร์ เล่าให้เราฟัง ชุอ์บะฮ์ เล่าให้เราฟัง จากอบีบักร บินหัฟศ์เล่าว่า

แท้จริงท่านสะอัดกับท่านฮาซัน บินอาลี (ร.ฎ.) เสียชีวิตในสมัยมุอาวียะฮ์ แล้วพวกเขาเห็นว่า แท้จริงเขา(มุอาวียะฮ์)วางยาเขา(ฮาซันบินอาลี )

ดูหนังสือมุอ์ญัม กะบีร  โดยอัลต็อบรอนี เล่ม  3 : 71 หะดีษที่  2694


قاَلَ مُحَقِّق الكتاب حمدي السلفي : إسناده إلى قائله صحيح

เชคฮัมดี อัลสะละฟี กล่าวว่า  สายรายงานหะดีษนี้ จนถึงผู้เล่ามัน  ถูกต้อง

http://ebooks.roro44.com/Download-1333-المعجم-الكبير.html


เชคฮัมดี อัสสะละฟีได้พบปะกับเชคอัลบานี

http://www.salafishare.com/arabic/23...AT/NAQWZ9L.rar

ชีวประวัติเชคฮัมดี บินอับดุลมะญีด อัสสะละฟี
http://rapidshare.com/files/17447284...alafi.rar.html

ท่านจะเห็นได้ว่า   ท่านต็อบรอนีบันทึกหะดีษว่า   คนวางยาพิษสังหารท่านฮาซันคือมุอาวียะฮ์
และเชคฮัมดี บินอับดุลมะญีด อัสสะละฟีได้ตรวจทานสายรายงานหะดีษพร้อมทั้งรับรองว่า  หะดีษข้างต้น มีความถูกต้องเชื่อถือได้ 


เพราะฉะนั้น    มุอาวียะฮ์คือ  ฆาตกรผู้สังหาร  สัยยิด แห่งชาวสวรรค์
ส่วนมุอาวียะฮ์ใช้วิธีการสังหารท่านฮาซันอย่างไร  เราต้องค้นคว้ากันต่อไป 
  •  

L-umar

۞    มุอาวียะฮ์ใช้วิธีการใดสังหารท่านฮาซัน ???

คำตอบคือ  โดยให้นางญะอ์ดะฮ์ บินติอัชอัษ วางยาพิษท่านฮาซันจนเสียชีวิต




Φ ท่านญะลาลุดดีน อัสสิยูตี  กล่าวว่า

توفي (الحسن ) رضي الله عنه بالمدينة مسموماً سمته زوجته جعدة بنت الأشعث ابن قيس دس إليه يزيد بن معاوية أن تسمه فيتزوجها ففعلت فلما مات الحسن بعثت إلى يزيد تسأله الوفاء بما وعدها فقال: إنا لم نرضك للحسن أفنرضاك لأنفسنا

ท่านฮาซัน บินอาลี เสียชีวิตที่นครมะดีนะฮ์โดยถูกวางยาพิษ  ซึ่งภรรยาท่านชื่อ ญะอ์ดะฮ์ บินติอัชอัษ อิบนิกอยส์ได้ใส่ยาพิษให้ท่าน   โดยยาซีด บุตรมุอาวียะฮ์เป็นผู้(วางแผน)ให้นางวางยาท่าน  แล้วเขา(ยาซีดสัญญาว่า) จะสมรสกับนาง  นางจึงทำตาม(แผน)  เมื่อท่านฮาซันเสียชีวิตแล้ว  นางได้ส่ง(คน)ไปหายาซีด ทวงถามเขาถึงสัญญาที่เขาได้ให้ไว้กับนาง

ยาซีดกล่าวว่า  เราเองยังไม่พอใจเธอสำหรับเรื่อง(วางยาพิษ)ท่านฮาซัน  แล้วเราจะพอใจสำหรับตัวเรา(ที่จะเอาคนฆ่าสามีตัวเองมาเป็นภรรยาเรา)กระนั้นหรือ ?

ดูหนังสือ ตารีคุล คุละฟาอ์ โดยสิยูตี    หน้า  78



เจ้าของหนังสือเอานุลมะอ์บู๊ด ชัรฮุสุนันอบีดาวูด  กล่าวว่า

وَكَانَ وَفَاة الْحَسَن رَضِيَ اللَّه عَنْهُ مَسْمُومًا سَمَّتْهُ زَوْجَته جَعْدَة بِإِشَارَةِ يَزِيد بْن مُعَاوِيَة

الكتاب : عون المعبود شرح سنن أبي داود  ج 9 ص 166  ح 3602
المؤلف : محمد شمس الحق العظيم آبادي أبو الطيب

ปรากฏว่า ท่านฮาซัน (ร.ฎ.)เสียชีวิตเพราะถูกวางยาพิษ  ภรรยาท่านชื่อญะอ์ดะฮ์ได้ใส่ยาพิษให้ท่านทาน ตามคำสั่งของยาซีด บินมุอาวียะฮ์


อ้างอิงจากหนังสือเอานุลมะอ์บู๊ด ชัรฮุสุนันอบีดาวูด  เล่ม  9 : 166 หะดีษ  3602 
  •  

L-umar

Φ ท่านอบุล ฟิดาอ์  กล่าวว่า

توفي الحسن من سم سقته زوجته جعدة بنت الأشعث قيل فعلت ذلك بأمر معاوية وقيل بأمر يزيد بن معاوية

ท่านฮาซันเสียชีวิตจากยาพิษ  ภรรยาท่านชื่อญะอ์ดะฮ์ บินติอัชอัษใส่ยาพิษให้ท่าน  กล่าวกันว่า  นางได้ทำกระทำเช่นนั้นตามคำสั่งของมุอาวียะฮ์    และบางคนว่าตามคำสั่งของยาซีด บินมุอาวียะฮ์

ดูหนังสือ  ตารีค อบิล ฟิดาอ์  เล่ม  1 : 284

الملك المؤيد إسماعيل بن أبي الفداء
  •  

66 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้