ข่าว:

SMF - Just Installed!

Main Menu
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - L-umar

#561
นบีของวาฮาบี  สาปแช่งด่าทอผู้คน

عَنْ عَائِشَةَ قَالَتْ دَخَلَ عَلَى رَسُولِ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- رَجُلاَنِ فَكَلَّمَاهُ بِشَىْءٍ لاَ أَدْرِى مَا هُوَ فَأَغْضَبَاهُ فَلَعَنَهُمَا وَسَبَّهُمَا فَلَمَّا خَرَجَا قُلْتُ يَا رَسُولَ اللَّهِ مَنْ أَصَابَ مِنَ الْخَيْرِ شَيْئًا مَا أَصَابَهُ هَذَانِ قَالَ « وَمَا ذَاكِ ».
قَالَتْ قُلْتُ لَعَنْتَهُمَا وَسَبَبْتَهُمَا قَالَ « أَوَمَا عَلِمْتِ مَا شَارَطْتُ عَلَيْهِ رَبِّى قُلْتُ اللَّهُمَّ إِنَّمَا أَنَا بَشَرٌ فَأَىُّ الْمُسْلِمِينَ لَعَنْتُهُ أَوْ سَبَبْتُهُ فَاجْعَلْهُ لَهُ زَكَاةً وَأَجْرًا ».

ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า  :  มีชายสองคนได้เข้ามาหาท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ) ทั้งสองได้พูดกับท่านด้วยสิ่งหนึ่ง ฉันไม่รู้ว่าคืออะไร  ทั้งสองทำให้ท่านโกรธ ท่านเลยสาปแช่งและด่าทอเขาทั้งสอง พอทั้งสองออกไป  ฉันกล่าวว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ ผู้ที่ประสบสิ่งหนึ่งจากความดี สิ่งที่ชายทั้งสองนี้ได้ประสบมัน   ท่านรอซูลกล่าวว่า นั่นอะไร นางเล่าว่า ฉันกล่าวว่า ท่านได้สาปแช่งและด่าทอชายสองคนไป ท่านรอซูลกล่าวว่า เธอมีรู้ดอกหรือ สิ่งที่ฉันได้ตั้งเงื่อนไขไว้กับพระเจ้าของฉัน โดยฉันกล่าวว่า  โอ้อัลเลาะฮฺที่จริงข้าพเจ้าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ดังนั้นมุสลิมคนใดที่ข้าฯได้สาปแช่งเขาไปหรือด่าทอเขาไปก็ตาม ได้โปรดทำให้มันเป็นซะกาตเป็นรางวัลสำหรับเขาคนนั้นด้วยเถิด
เศาะหิ๊หฺมุสลิม  หะดีษที่  6779

คำถามสำหรับวาฮาบี
หากท่านนบีมีเงื่อนไขกับอัลเลาะฮฺว่า ผู้ใดที่ท่านสาปแช่งด่าทอเขาไป ผลตอบแทนของคนถูกแช่ง ถูกด่าคือ  จะได้รับการอภัยและรางวัล
ถ้าเช่นนั้นบุคคลที่ถูกสาปแช่งดังต่อไปนี้ ก็คือผู้บริสุทธิ์ใช้มั๊ย ???

قَالَ النَّبِىِّ - صلى الله عليه وسلم -لَعَنَ اللَّهُ الْيَهُودَ وَالنَّصَارَى
لَعَنَ اللَّهُ الْوَاشِمَاتِ وَالْمُوتَشِمَاتِ وَالْمُتَنَمِّصَاتِ وَالْمُتَفَلِّجَاتِ لِلْحُسْنِ
لَعَنَ اللَّهُ الْوَاصِلَةَ وَالْمُسْتَوْصِلَةَ ، وَالْوَاشِمَةَ وَالْمُسْتَوْشِمَةَ
لَعَنَ اللَّهُ السَّارِقَ
لَعَنَ اللَّهُ مَنْ لَعَنَ وَالِدَهُ وَلَعَنَ اللَّهُ مَنْ ذَبَحَ لِغَيْرِ اللَّهِ وَلَعَنَ اللَّهُ مَنْ آوَى مُحْدِثًا وَلَعَنَ اللَّهُ مَنْ غَيَّرَ مَنَارَ الأَرْضِ
#562
นบีของวาฮาบี ฉุนเฉียวจะเอาหวีทิ่มตาคน

عَنِ ابْنِ شِهَابٍ أَنَّ سَهْلَ بْنَ سَعْدٍ السَّاعِدِىَّ أَخْبَرَهُ أَنَّ رَجُلاً اطَّلَعَ فِى جُحْرٍ فِى بَابِ رَسُولِ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - وَمَعَ رَسُولِ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - مِدْرًى يَحُكُّ بِهِ رَأْسَهُ ، فَلَمَّا رَآهُ رَسُولُ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - قَالَ « لَوْ أَعْلَمُ أَنْ تَنْتَظِرَنِى لَطَعَنْتُ بِهِ فِى عَيْنَيْكَ » .

อิบนุชิฮาบเล่าว่า  สะฮัล บินสะอัด อัสซาอิดีเล่าให้เขาฟังว่า : มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวในห้องตรงประตูบ้านท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ) ซึ่งขณะนั้นท่านรอซูลุลลอฮฺกำลังใช้หวี หวีผมอยู่ เมื่อท่านรอซูลเห้นเขาเข้า จึงกล่าวว่า หากฉันรู้ว่าเจ้ากำลังมองดูแนอยู่ ฉันจะเอาหวีนี้ทิ่มไปที่ดวงตาทั้งสองของเจ้าแน่
เศาะหิ๊หฺบุคอรี หะดีษที่ 6901

คำถามสำหรับวาฮาบี
ไม่ทราบว่า ชายคนนั้นทำความผิดอะไรถึงขั้นทำให้ท่านนบีจะเอาทิ่มตาเขาให้บอด และทำไมท่านนบีจึงมีอัคลากเช่นนั้นกับเขา ???
#563
นบีของวาฮาบี โดนทำคุณไสย์

อัลบุคอรีและมุสลิม มุหัดดิษวาฮาบีรายงานว่า

عَنْ عَائِشَةَ - رضى الله عنها - قَالَتْ سَحَرَ رَسُولَ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - رَجُلٌ مِنْ بَنِى زُرَيْقٍ يُقَالُ لَهُ لَبِيدُ بْنُ الأَعْصَمِ ، حَتَّى كَانَ رَسُولُ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - يُخَيَّلُ إِلَيْهِ أَنَّهُ يَفْعَلُ الشَّىْءَ وَمَا فَعَلَهُ

ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า  ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)โดนยิวเผ่านบีซุรอยก์ชื่อละบี๊ด บินอะอ์ศอมทำคุณไสย์  จนปรากฏว่าท่านรอซูลุลลอฮ์ ถูกทำให้(ประสาท)หลอน คิดว่า(ตัว)ท่านกำลังทำสิ่งหนึ่งหรือไม่ได้ทำสิ่งนั้น
เศาะหิ๊หฺบุคอรี  หะดีษที่ 5763

عَنْ عَائِشَةَ قَالَتْ سُحِرَ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم-.

ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า  ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)โดนทำคุณไสย์(โดนของ) 
เศาะหิ๊หฺมุสลิม  หะดีษที่ 833

คำถามสำหรับวาฮาบี
1-หากนบีมุฮัมมัดโดนของจนถึงขั้นประสาทหลอน  มีอาการสงสัยในตัวเองว่าทำสิ่งหนึ่งหรือยังไม่ได้ทำ  นั่นย่อมเป็นไปได้ที่บางครั้งท่านอาจสงสัยว่า ท่านประกาศโองการไปแล้ว หรือยังไม่ได้ประกาศ  หรือสงสัยว่าสิ่งที่กำลังประกาศเป็นโองการของอัลเลาะฮฺหรือไม่ใช่  ท่านเชื่อว่าท่านนบีเคยตกอยู่ในภาวะเช่นนี้จริงหรือ ?

2-หะดีษข้างต้นจะไม่ถือว่าขัดกับอัลกุรอานหรือ ???   ที่อัลเลาะฮฺตรัสว่า

وَقَالَ الظَّالِمُونَ إِنْ تَتَّبِعُونَ إِلَّا رَجُلًا مَسْحُورًا (8) انْظُرْ كَيْفَ ضَرَبُوا لَكَ الْأَمْثَالَ فَضَلُّوا فَلَا يَسْتَطِيعُونَ سَبِيلًا (9)

"บรรดาผู้อธรรมกล่าวว่า พวกท่านมิได้ปฏิบัติตามผู้ใด นอกจากชายผู้ถูกคุณไสย์เท่านั้น
จงดูเถิด พวกเขาได้เปรียบเปรยตัวอย่างต่างๆแก่เจ้า (มุฮัมมัด)อย่างไร พวกเขาจึงหลงทาง แล้วพวกเขาก็ไม่สามารถจะพบทางแห่งความจริงได้"
อัลฟุรกอน  25 : 8-9

نَحْنُ أَعْلَمُ بِمَا يَسْتَمِعُونَ بِهِ إِذْ يَسْتَمِعُونَ إِلَيْكَ وَإِذْ هُمْ نَجْوَى إِذْ يَقُولُ الظَّالِمُونَ إِنْ تَتَّبِعُونَ إِلَّا رَجُلًا مَسْحُورًا (47) انْظُرْ كَيْفَ ضَرَبُوا لَكَ الْأَمْثَالَ فَضَلُّوا فَلَا يَسْتَطِيعُونَ سَبِيلًا (48)

"พวกอธรรมกล่าวว่า พวกท่านมิได้ตามผู้ใด นอกจากผู้ถูกเวทมนตร์เท่านั้น  จงดูเถิด พวกเขายกอุทาหรณ์แก่เจ้าอย่างไร ดังนั้นพวกเขาได้หลงทาง พวกเขาไม่สามารถหาทางใดๆได้"
อัลอิสรอ  17 : 47-48
#564
นบีของวาฮาบี ถูกชัยตอนลวงให้อ่านกุรอ่านผิดและกราบเจว็ด

อัลลอฮ์ ตะอาลาตรัสว่า

وَمَا أَرْسَلْنَا مِنْ قَبْلِكَ مِنْ رَسُولٍ وَلَا نَبِيٍّ إِلَّا إِذَا تَمَنَّى أَلْقَى الشَّيْطَانُ فِي أُمْنِيَّتِهِ فَيَنْسَخُ اللَّهُ مَا يُلْقِي الشَّيْطَانُ ثُمَّ يُحْكِمُ اللَّهُ آَيَاتِهِ وَاللَّهُ عَلِيمٌ حَكِيمٌ

และเรามิได้ส่งรอซูลคนใด และนบีคนใดมาก่อนหน้าเจ้า เว้นแต่ว่าเมื่อเขาหวังตั้งใจ ชัยตอนก็จะเข้ามายุแหย่ให้หันเหออกจากความตั้งใจของเขา  แต่อัลลอฮฺก็ทรงทำลายล้างสิ่งที่ชัยตอนยุแหย่ แล้วอัลลอฮฺก็ทรงทำให้โองการทั้งหลายของพระองค์มั่นคง และอัลลอฮฺทรงรอบรู้ ทรงปรีชาญาณ
บท อัลหัจญ์  : 52

ตัฟสีรวาฮาบีและหะดีษวาฮาบีมากมายอธิบายโองการนี้ว่า

19155 - حَدَّثَنَا الْقَاسِم , قَالَ : ثنا الْحُسَيْن , قَالَ : ثنا حَجَّاج , عَنْ أَبِي مَعْشَر , عَنْ مُحَمَّد بْن كَعْب الْقُرَظِيّ وَمُحَمَّد بْن قَيْس قَالَا : جَلَسَ رَسُول اللَّه صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي نَادٍ مِنْ أَنْدِيَة قُرَيْش كَثِير أَهْله , فَتَمَنَّى يَوْمئِذٍ أَنْ لَا يَأْتِيه مِنَ اللَّه شَيْء فَيَنْفِرُوا عَنْهُ , فَأَنْزَلَ اللَّه عَلَيْهِ : { وَالنَّجْم إِذَا هَوَى مَا ضَلَّ صَاحِبكُمْ وَمَا غَوَى } 53 1 : 2 فَقَرَأَهَا رَسُول اللَّه صَلَّى اللَّه عَلَيْهِ وَسَلَّمَ , حَتَّى إِذَا بَلَغَ : { أَفَرَأَيْتُمُ اللَّاتَ وَالْعُزَّى وَمَنَاة الثَّالِثَة الْأُخْرَى } 53 19 : 20 أَلْقَى عَلَيْهِ الشَّيْطَان كَلِمَتَيْنِ : \\\" تِلْكَ الْغَرَانِقَة الْعُلَى , وَإِنَّ شَفَاعَتهنَّ لَتُرْجَى \\\" , فَتَكَلَّمَ بِهَا . ثُمَّ مَضَى فَقَرَأَ السُّورَة كُلّهَا , فَسَجَدَ فِي آخِر السُّورَة , وَسَجَدَ الْقَوْم جَمِيعًا مَعَهُ , وَرَفَعَ الْوَلِيد بْن الْمُغِيرَة تُرَابًا إِلَى جَبْهَته فَسَجَدَ عَلَيْهِ , وَكَانَ شَيْخًا كَبِيرًا لَا يَقْدِر عَلَى السُّجُود , فَرَضُوا بِمَا تَكَلَّمَ بِهِ وَقَالُوا : قَدْ عَرَفْنَا أَنَّ اللَّه يُحْيِي وَيُمِيت وَهُوَ الَّذِي يَخْلُق وَيَرْزُق , وَلَكِنَّ آلِهَتنَا هَذِهِ تَشْفَع لَنَا عِنْده , إِذْ جَعَلْت لَهَا نَصِيبًا , فَنَحْنُ مَعَك ! قَالَا : فَلَمَّا أَمْسَى أَتَاهُ جَبْرَائِيل عَلَيْهِمَا السَّلَام فَعَرَضَ عَلَيْهِ السُّورَة ; فَلَمَّا بَلَغَ الْكَلِمَتَيْنِ اللَّتَيْنِ أَلْقَى الشَّيْطَان عَلَيْهِ قَالَ : مَا جِئْتُك بِهَاتَيْنِ

จากมุฮัมมัด บินกะอับและมุฮัมมัด บินกอยส์ ทั้งสองเล่าว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้นั่งอยู่ในที่ประชุมหนึ่งของชาวกุเรช ซึ่งมีคนอยู่มากมาย  ท่านจึงหวังตั้งใจวันนั้นว่าอย่าได้มีสิ่งใดจากอัลลอฮ์(ประทานลง)มายังท่านเลย ที่จะเป็นเหตุทำให้ชาวกุเรช(ไม่พอใจและ)เดินจากท่านไป  แล้วอัลลอฮ์ได้ประทานกุรอ่านซูเราะฮ์ที่ 53 ลงมายังท่านว่า
1- ขอสาบานด้วยดวงดาวเมื่อมันคล้อยตกลงมา 2-สหาย(มุฮัมมัด)ของพวกเจ้ามิได้หลงผิดและเชื่อมั่นในทางที่หลงผิด
ท่าน(ศ)ได้อ่านจนมาถึงโองการที่ 19-20
19-แล้วพวกเจ้ามิได้เห็นอัลลาต และอัลอุซซา  20-และตัวอื่นคือตัวที่สาม, มะนาต ดอกหรือ
ชัยตอนได้โยนสองถ้อยคำมาให้ท่านอ่านว่า

تِلْكَ الْغَرَانِقَة الْعُلَى , وَإِنَّ شَفَاعَتهنَّ لَتُرْجَى

"ทั้งสามเจว็ดนั้น(คืออุซซา,ล๊าตอัลและมะนาต)คือผู้สูงส่ง และแท้จริงการขอชะฟาอะฮ์กับพวกนาง(ทั้งสาม)แน่นอนคือความหวัง "
ท่านรอซูล(ศ)ได้อ่านสองถ้อยคำนั้นออกไป  แล้วท่านก็อ่านซูเราะฮ์อันนัจญ์มุจนจบ และท่านก้มลงกราบในตอนท้ายซูเราะฮ์ และหมู่ชน(มุชริกแห่งกุเรชปก็ได้ก้มกราบไปพร้อมกับท่านทั้งหมด วะลีด บินมุฆีเราะฮ์จึงยกดินขึ้นมาที่หน้าผากและกราบลงไปบนมัน เราพตอนนั้นเขาแก่มากแล้วไม่สามารถก้มลงไปกราบได้  ชาวกุเรชต่างพอใจในสิ่งที่ท่าน(ศ)ได้กล่าวมันออกมา...
พอตกเย็นท่านญิบรออีลได้มาหาท่าน(ศ) และได้ท่านอ่านซูเราะฮ์ดังกล่าวให้เขาฟัง  พออ่านมาถึงสองถ้อยคำที่ชัยตอนโยนให้ท่านอ่าน  ท่านญิบรออีลกล่าวว่า ฉันมิได้นำสองถ้อยคำนี้มาให้ท่านเลย...
อ้างอิงจากตัฟสีรวาฮาบีชื่อ ตัฟสีรอัฏ-ฏ็อบรี ของอิบนุญะรีร  ดูเวปด้านล่างนี้

http://quran.al-islam.com/Tafseer/DispTafsser.asp?l=arb&taf=TABARY&nType=1&nSora=22&nAya=52

อัลลอฮ์ตรัสว่า

سَنُقْرِئُكَ فَلَا تَنْسَى

เราจะอ่าน(กุรอ่าน)ให้เจ้าฟัง ดังนั้นเจ้าจะไม่ลืม  บทอัลอะอ์ลา :6

คำถามสำหรับวาฮาบี 
ท่านเชื่อจริงหรือว่า นบีมุฮัมมัดถูกชัยตอนลวงให้ลืมกุรอ่านได้ และยังก้มกราบต่อเจว็ดทั้งสาม ?
#565
อัลบุคอรีรายงานว่า  นบีส่งเนื้อที่ไม่ได้เชือดด้วยนามของอัลเลาะฮ์ให้ชาวคัมภีร์กิน

عَنْ رَسُولِ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - أَنَّهُ لَقِىَ زَيْدَ بْنَ عَمْرِو بْنِ نُفَيْلٍ بِأَسْفَلِ بَلْدَحٍ ، وَذَاكَ قَبْلَ أَنْ يُنْزَلَ عَلَى رَسُولِ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - الْوَحْىُ ، فَقَدَّمَ إِلَيْهِ رَسُولُ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - سُفْرَةً فِيهَا لَحْمٌ ، فَأَبَى أَنْ يَأْكُلَ مِنْهَا ، ثُمَّ قَالَ إِنِّى لاَ آكُلُ مِمَّا تَذْبَحُونَ عَلَى أَنْصَابِكُمْ ، وَلاَ آكُلُ إِلاَّ مِمَّا ذُكِرَ اسْمُ اللَّهِ عَلَيْهِ

   ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)เล่าว่า ท่านได้พบกับเซด บินอัมรู บินนุฟัยลฺที่ตอนใต้ของบัลด๊ะหฺ(เส้นทางตันอีม) ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงเวลาก่อนที่วะหฺยูจะถูกประทานลงมายังท่านนบี แล้วท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ)ได้ส่งสำรับอาหารซึ่งมีเนื้อในนั้นให้เซด(กิน) เซดได้ปฏิเสธที่จะกินมัน
   จากนั้นเขาได้กล่าวว่า ฉันจะไม่กินสิ่งที่พวกท่านเชือด(สัตว์)บนแท่นหินบูชา และจะไม่กินสิ่งใด ยกเว้นสิ่ง(ที่ถูกเชือด)โดยเอ่ยนามของอัลเลาะฮฺ
เศาะหิ๊หฺบุคอรี  หะดีษที่ 5499

คำถามสำหรับวาฮาบี   
1.ระหว่างศาสดาท่านสุดท้ายกับเซดชาวคัมภีร์ใครประเสริฐกว่ากัน
2.หากท่านนบีรู้ว่าเนื้อนั้นไม่ฮะล้าล แล้วทำไมท่านจึงส่งมันให้ผู้อื่นรัปทาน
#566
มุสลิม บินหัจญาจญ์ มุหัดดิษวาฮาบีรายงานว่า  นบีมุฮัมมัด ดื่มเบียร์

عَنْ جَابِرِ بْنِ عَبْدِ اللَّهِ قَالَ كُنَّا مَعَ رَسُولِ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- فَاسْتَسْقَى فَقَالَ رَجُلٌ يَا رَسُولَ اللَّهِ أَلاَ نَسْقِيكَ نَبِيذًا فَقَالَ « بَلَى ». قَالَ فَخَرَجَ الرَّجُلُ يَسْعَى فَجَاءَ بِقَدَحٍ فِيهِ نَبِيذٌ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- « أَلاَّ خَمَّرْتَهُ وَلَوْ تَعْرُضُ عَلَيْهِ عُودًا ». قَالَ فَشَرِبَ.

ญาบิร บินอับดุลลอฮ์เล่าว่า  พวกเราอยู่กับท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)  แล้วท่านขอน้ำ มีชายคนหนึ่งกล่าวว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ เราจะเอาเบียร์ให้ท่านดื่มเอาไหม ?  ท่านตอบว่า ได้ซิ
ญาบิรเล่าว่า  ชายคนนั้นได้ออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วกลับเข้ามาพร้อมกับแก้วที่มีเบียร์  ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ได้กล่าวว่า  ทำไมท่านไม่คลุมมันมาล่ะ...
เศาะหิ๊หฺมุสลิม หะดีษที่ 3753 

อ้างอิงจากเวป
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?hnum=3753&doc=1

คำถามสำหรับวาฮาบี    ท่านเชื่อว่า นบีมุฮัมมัดดื่มเบียร์จริงหรือ   ???
#567
นบีของวาฮาบี เป็นคนมีชะฮ์วัตสูง  ขาดความสำรวมตน

17337 - حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّحْمَنِ بْنُ مَهْدِيٍّ عَنْ مُعَاوِيَةَ يَعْنِي ابْنَ صَالِحٍ عَنْ أَزْهَرَ بْنِ سَعِيدٍ الْحَرَازِيِّ قَالَ سَمِعْتُ أَبَا كَبْشَةَ الْأَنْمَارِيَّ قَالَ
كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ جَالِسًا فِي أَصْحَابِهِ فَدَخَلَ ثُمَّ خَرَجَ وَقَدْ اغْتَسَلَ فَقُلْنَا يَا رَسُولَ اللَّهِ قَدْ كَانَ شَيْءٌ قَالَ أَجَلْ مَرَّتْ بِي فُلَانَةُ فَوَقَعَ فِي قَلْبِي شَهْوَةُ النِّسَاءِ فَأَتَيْتُ بَعْضَ أَزْوَاجِي فَأَصَبْتُهَا فَكَذَلِكَ فَافْعَلُوا فَإِنَّهُ مِنْ أَمَاثِلِ أَعْمَالِكُمْ إِتْيَانُ الْحَلَالِ

อบูกับชะฮ์ อัลอันมารีเล่าว่า  ท่านรอซูลุลลอฮ์ได้นั่งอยู่กับบรรดาเศาะหาบะฮ์ของท่าน แล้วท่านได้เดินเข้าไป(ในบ้าน) จากนั้นท่านก็ออกมาข้างนอก และท่านได้อาบน้ำมา
พวกเราจึงถามว่า โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ มีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือ ???  ท่านตอบว่า ใช่แล้ว (เมื่อกี้) มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านฉันไป หัวใจของฉันเลยเกิดความต้องการ(ทางเพศ)กับสตรีขึ้นมาทันที ฉันก็เลยเข้าไปหาภรรยาบางคนของฉัน แล้วหลับนอนกับนาง...
มุสนัดอิหม่ามอะหมัด   หะดีษที่ 17337

ดูตัวบทหะดีษที่เวป

http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?hnum=17337&doc=6

قال شعيب الأرنؤوط : صحيح لغيره وهذا إسناد حسن

เชคชุเอบ อัลอัรนะอูฏีกล่าวว่า  เป็นหะดีษเศาะหิ๊หฺ

คำถามสำหรับวาฮาบี   
ท่านนบีมุฮัมมัดมีกิเลสสูงถึงขั้นที่ว่า พอเห็นสตรีเดินผ่านก็เกิดอยากขึ้นมาทันทีทันใดเลยหรือ หรือว่าท่านถูกใส่ร้าย ??? หรือว่าวาฮาบีต้องการประณามนบีมุฮัมมัด ??? 

อัลลอฮ์ ตะอาลาตรัสว่า

قُلْ لِلْمُؤْمِنِينَ يَغُضُّوا مِنْ أَبْصَارِهِمْ وَيَحْفَظُوا فُرُوجَهُمْ ذَلِكَ أَزْكَى لَهُمْ إِنَّ اللَّهَ خَبِيرٌ بِمَا يَصْنَعُونَ

"จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แก่บรรดามุอฺมิน ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษาทวารของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ"
บท อันนูร  : 30

ในตัฟสีรอัดดุรรุลมันษูร (ของอิมามสุยุฏีย์ เราะหิมะฮุลลอฮฺ) 7/283 :

- อิบนุ อับบาส กล่าวว่า : ให้ลดสายตาจากสิ่งที่อารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาถวิลหา อันเป็นสิ่งที่อัลลอฮฺไม่ชอบ

- เกาะตาดะฮฺ กล่าวว่า : หมายถึง ให้ลดสายตาจากสิ่งที่ไม่เป็นที่อนุมัติสำหรับพวกเขา

- อิบนุตัยมิยะฮฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ กล่าวว่า : อัลลอฮฺตะอาลา ทรงใช้ให้ลดสายตาลง ซึ่งการลดสานตานั้นมี 2 ประเภท คือ
1.ลดสายตาจากเอาเราะฮฺ และสิ่งที่ก่อให้เกิดอารมณ์
2.ลดสายตาลงจากเสน่ห์และความงามภายในตัวสตรีที่สามารถแต่งงานกันได้
#568
นบีของวาฮาบี มีเพศสัมพันธ์กับภรรยาขณะมีประจำเดือน

อัลเลาะฮ์ ตะอาลาตรัสว่า

وَيَسْأَلُونَكَ عَنِ الْمَحِيضِ قُلْ هُوَ أَذًى فَاعْتَزِلُوا النِّسَاءَ فِي الْمَحِيضِ وَلَا تَقْرَبُوهُنَّ حَتَّى يَطْهُرْنَ (البقرة : 222)

"และพวกเขาจะถามเจ้า(มุฮัมมัด)เกี่ยวกับประจำเดือน  จงกล่าวเถิดว่า มันเป็นสิ่งให้โทษ  ดังนั้นพวกเจ้าจงออกห่างจากบรรดาสตรี(ภรรยา)ในขณะที่มีประจำเดือน และจงอย่าเข้าใกล้พวกนาง  จนกว่าพวกนางจะสะอาด"
บทที่ 2 : 222

บุคอรี มุหัดดิษวาฮาบีรายงานว่า

302 - عَنْ عَائِشَةَ قَالَتْ كَانَتْ إِحْدَانَا إِذَا كَانَتْ حَائِضًا ، فَأَرَادَ رَسُولُ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - أَنْ يُبَاشِرَهَا ، أَمَرَهَا أَنْ تَتَّزِرَ فِى فَوْرِ حَيْضَتِهَا ثُمَّ يُبَاشِرُهَا

"ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า  ปรากฏว่าพวกเราคนใดก็คนหนึ่ง เมื่อมีประจำเดือน  แล้ว(ถ้า)ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)ต้องการจะเข้าหานาง ท่านจะสั่งให้นางนุ่งผ้า(ระหว่างสะดือถึงหัวเข่า) จากนั้นท่านก็จะเมคเลิฟกับนาง"
เศาะหี๊หฺบุคอรี  หะดีษที่  302

http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?Doc=0&Rec=506
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?Doc=0&Rec=507 
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?Doc=0&Rec=2736


คำถามสำหรับวาฮาบี
1.ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)มีภรรยาตั้งมากมาย ทำไมท่านต้องเข้าหาภรรยาคนที่กำลังมีประจำเดือนด้วย ???
2.หรือว่า ท่านนบีถูกใส่ร้าย ???
#569
นบีสุลัยมานสังวาสภรรยาคืนเดียว 100 คน

บุคอรี มุหัดดิษวาฮาบี รายงานว่า ท่านนบีสุลัยมาน บินดาวูดได้หลับนอนกับภรรยาเพียงคืนเดียวถึง 100 คน [/color]

2819 - عَنْ أَبي هُرَيْرَةَ - رضى الله عنه - عَنْ رَسُولِ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - قَالَ « قَالَ سُلَيْمَانُ بْنُ دَاوُدَ - عَلَيْهِمَا السَّلاَمُ - لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى مِائَةِ امْرَأَةٍ - أَوْ تِسْعٍ وَتِسْعِينَ - كُلُّهُنَّ يَأْتِى بِفَارِسٍ يُجَاهِدُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ ، فَقَالَ لَهُ صَاحِبُهُ إِنْ شَاءَ اللَّهُ . فَلَمْ يَقُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ . فَلَمْ يَحْمِلْ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ وَاحِدَةٌ ، جَاءَتْ بِشِقِّ رَجُلٍ ، وَالَّذِى نَفْسُ مُحَمَّدٍ بِيَدِهِ ، لَوْ قَالَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ ، لَجَاهَدُوا فِى سَبِيلِ اللَّهِ فُرْسَانًا أَجْمَعُونَ »

อบูฮุรอยเราะฮ์เล่าว่า  จากท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)เล่าว่า  ท่านนบีสุลัยมาน บินดาวูดกล่าวว่า ฉันขอสาบานว่า ฉันจะวนเวียนบนภรรยาหนึ่งร้อยคนในคืนนี้ หรือ 99 คน ซึ่งนางทุกคนจะได้ให้(บุตรกับฉันออกมา)เป็นนักรบ (เพื่อ)ต่อสู้ในหนทางของอัลเลาะฮฺ 
แล้วสหายของท่าน(คือมลาอิกะฮ์)กล่าว(แนะนำ)กับท่านว่า(จงกล่าว)อินชาอัลเลาะฮฺ    แต่ท่าน(นบีสุลัยมาน)มิได้กล่าว(คำว่า) " อินชาอัลเลาะฮฺ "  ดังนั้นพวกนาง(ทั้งหมด)จึงไม่มีใครตั้งครรภ์เลย  ยกเว้นเพียงคนเดียว ที่ให้กำเนิดทารกพิการ(ร่างกายไม่สมบูรณ์)  ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตมุฮัมมัดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า  ถ้าหากท่าน(นบีสุลัยมาน)ได้กล่าว(คำว่า) อินชาอัลเลาะฮ์  แน่นอน(ท่านได้ต้องได้บุตรชาย) ที่จะต่อสู้ในหนทางของอัลเลาะฮฺทั้งหมดทุกคน

เศาะหิ๊หฺบุคอรี  หะดีษที่ 2819

วนเวียนบนภรรยาหนึ่งร้อยคนในที่นี้หมายความว่าอย่างไร ???

อิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานี นักวิชาการซุนนี่อธิบายว่า

قال ابن حجر : طَافَ ...وَهُوَ هُنَا كِنَايَة عَنْ الْجِمَاع
فتح الباري لابن حجر   ج 10 ص 222  ح 3171

วนเวียนในที่นี้หมายถึง "การร่วมเพศ"
อ้างอิงจากฟัตฮุลบารี  โดยอิบนุหะญัร เล่ม  10 : 222 หะดีษที่ 3171

ومعناه هنا الجماع
الكتاب : مشارق الأنوار على صحاح الآثار  ج 1 ص 634
المؤلف : القاضي أبو الفضل عياض بن موسى بن عياض اليحصبي السبتي المالكي

คำถามสำหรับวาฮาบี
ช่วยชี้แจงทีว่า การร่วมเพศกับสตรี100 คน ในเวลาหนึ่งคืน เขาทำกันอย่างไร ???

3424 - عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ عَنِ النَّبِىِّ - صلى الله عليه وسلم - قَالَ « قَالَ سُلَيْمَانُ بْنُ دَاوُدَ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى سَبْعِينَ امْرَأَةً تَحْمِلُ كُلُّ امْرَأَةٍ فَارِسًا يُجَاهِدُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ ، فَقَالَ لَهُ صَاحِبُهُ إِنْ شَاءَ اللَّهُ . فَلَمْ يَقُلْ ، وَلَمْ تَحْمِلْ شَيْئًا إِلاَّ وَاحِدًا سَاقِطًا إِحْدَى شِقَّيْهِ » صحيح البخاري

5242 -عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ قَالَ « قَالَ سُلَيْمَانُ بْنُ دَاوُدَ - عَلَيْهِمَا السَّلاَمُ - لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ بِمِائَةِ امْرَأَةٍ ، تَلِدُ كُلُّ امْرَأَةٍ غُلاَمًا ، يُقَاتِلُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ ، فَقَالَ لَهُ الْمَلَكُ قُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ . فَلَمْ يَقُلْ وَنَسِىَ ، فَأَطَافَ بِهِنَّ ، وَلَمْ تَلِدْ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ نِصْفَ إِنْسَانٍ » . قَالَ النَّبِىُّ - صلى الله عليه وسلم - « لَوْ قَالَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ لَمْ يَحْنَثْ ، وَكَانَ أَرْجَى لِحَاجَتِهِ » صحيح البخاري
6639 - حَدَّثَنَا أَبُو الْيَمَانِ أَخْبَرَنَا شُعَيْبٌ حَدَّثَنَا أَبُو الزِّنَادِ عَنْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ الأَعْرَجِ عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - « قَالَ سُلَيْمَانُ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى تِسْعِينَ امْرَأَةً ، كُلُّهُنَّ تَأْتِى بِفَارِسٍ يُجَاهِدُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ . فَقَالَ لَهُ صَاحِبُهُ إِنْ شَاءَ اللَّهُ . فَلَمْ يَقُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ . فَطَافَ عَلَيْهِنَّ جَمِيعًا ، فَلَمْ تَحْمِلْ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ وَاحِدَةٌ ، جَاءَتْ بِشِقِّ رَجُلٍ ، وَايْمُ الَّذِى نَفْسُ مُحَمَّدٍ بِيَدِهِ لَوْ قَالَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ . لَجَاهَدُوا فِى سَبِيلِ اللَّهِ فُرْسَانًا أَجْمَعُونَ » صحيح البخاري

7469 - حَدَّثَنَا مُعَلَّى بْنُ أَسَدٍ حَدَّثَنَا وُهَيْبٌ عَنْ أَيُّوبَ عَنْ مُحَمَّدٍ عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ أَنَّ نَبِىَّ اللَّهِ سُلَيْمَانَ - عَلَيْهِ السَّلاَمُ - كَانَ لَهُ سِتُّونَ امْرَأَةً فَقَالَ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى نِسَائِى ، فَلْتَحْمِلْنَ كُلُّ امْرَأَةٍ وَلْتَلِدْنَ فَارِسًا يُقَاتِلُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ ، فَطَافَ عَلَى نِسَائِهِ ، فَمَا وَلَدَتْ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ وَلَدَتْ شِقَّ غُلاَمٍ . قَالَ نَبِىُّ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - « لَوْ كَانَ سُلَيْمَانُ اسْتَثْنَى لَحَمَلَتْ كُلُّ امْرَأَةٍ مِنْهُنَّ ، فَوَلَدَتْ فَارِسًا يُقَاتِلُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ »

ซอฮีฮุมุสลิม

4376 - وَحَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ عَبَّادٍ وَابْنُ أَبِى عُمَرَ - وَاللَّفْظُ لاِبْنِ أَبِى عُمَرَ - قَالاَ حَدَّثَنَا سُفْيَانُ عَنْ هِشَامِ بْنِ حُجَيْرٍ عَنْ طَاوُسٍ عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ عَنِ النَّبِىِّ -صلى الله عليه وسلم- قَالَ « قَالَ سُلَيْمَانُ بْنُ دَاوُدَ نَبِىُّ اللَّهِ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى سَبْعِينَ امْرَأَةً كُلُّهُنَّ تَأْتِى بِغُلاَمٍ يُقَاتِلُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ. فَقَالَ لَهُ صَاحِبُهُ أَوِ الْمَلَكُ قُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ. فَلَمْ يَقُلْ وَنَسِىَ. فَلَمْ تَأْتِ وَاحِدَةٌ مِنْ نِسَائِهِ إِلاَّ وَاحِدَةٌ جَاءَتْ بِشِقِّ غُلاَمٍ ». فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- « وَلَوْ قَالَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ. لَمْ يَحْنَثْ وَكَانَ دَرَكًا لَهُ فِى حَاجَتِهِ ».

4379 - وَحَدَّثَنِى زُهَيْرُ بْنُ حَرْبٍ حَدَّثَنَا شَبَابَةُ حَدَّثَنِى وَرْقَاءُ عَنْ أَبِى الزِّنَادِ عَنِ الأَعْرَجِ عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ عَنِ النَّبِىِّ -صلى الله عليه وسلم- قَالَ « قَالَ سُلَيْمَانُ بْنُ دَاوُدَ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى تِسْعِينَ امْرَأَةً كُلُّهَا تَأْتِى بِفَارِسٍ يُقَاتِلُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ. فَقَالَ لَهُ صَاحِبُهُ قُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ. فَلَمْ يَقُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ. فَطَافَ عَلَيْهِنَّ جَمِيعًا فَلَمْ تَحْمِلْ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ وَاحِدَةٌ فَجَاءَتْ بِشِقِّ رَجُلٍ وَايْمُ الَّذِى نَفْسُ مُحَمَّدٍ بِيَدِهِ لَوْ قَالَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ. لَجَاهَدُوا فِى سَبِيلِ اللَّهِ فُرْسَانًا أَجْمَعُونَ ».

สุนัน ติรมิซี

1617 -عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ عَنِ النَّبِىِّ -صلى الله عليه وسلم- قَالَ « إِنَّ سُلَيْمَانَ بْنَ دَاوُدَ قَالَ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى سَبْعِينَ امْرَأَةً تَلِدُ كُلُّ امْرَأَةٍ غُلاَمًا. فَطَافَ عَلَيْهِنَّ فَلَمْ تَلِدِ امْرَأَةٌ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ نِصْفَ غُلاَمٍ »

สุนัน นะซาอี

3847 - أَخْبَرَنَا عِمْرَانُ بْنُ بَكَّارٍ قَالَ حَدَّثَنَا عَلِىُّ بْنُ عَيَّاشٍ قَالَ أَنْبَأَنَا شُعَيْبٌ قَالَ حَدَّثَنِى أَبُو الزِّنَادِ مِمَّا حَدَّثَهُ عَبْدُ الرَّحْمَنِ الأَعْرَجُ مِمَّا ذَكَرَ أَنَّهُ سَمِعَ أَبَا هُرَيْرَةَ يُحَدِّثُ بِهِ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- قَالَ « قَالَ سُلَيْمَانُ بْنُ دَاوُدَ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى تِسْعِينَ امْرَأَةً كُلُّهُنَّ يَأْتِى بِفَارِسٍ يُجَاهِدُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ عَزَّ وَجَلَّ فَقَالَ لَهُ صَاحِبُهُ إِنْ شَاءَ اللَّهُ. فَلَمْ يَقُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ فَطَافَ عَلَيْهِنَّ جَمِيعًا فَلَمْ تَحْمِلْ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ وَاحِدَةٌ جَاءَتْ بِشِقِّ رَجُلٍ وَايْمُ الَّذِى نَفْسُ مُحَمَّدٍ بِيَدِهِ لَوْ قَالَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ لَجَاهَدُوا فِى سَبِيلِ اللَّهِ فُرْسَانًا أَجْمَعِينَ ».
3872 - أَخْبَرَنَا الْعَبَّاسُ بْنُ عَبْدِ الْعَظِيمِ قَالَ حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّزَّاقِ قَالَ أَنْبَأَنَا مَعْمَرٌ عَنِ ابْنِ طَاوُسٍ عَنْ أَبِيهِ عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ رَفَعَهُ « قَالَ سُلَيْمَانُ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى تِسْعِينَ امْرَأَةً تَلِدُ كُلُّ امْرَأَةٍ مِنْهُنَّ غُلاَمًا يُقَاتِلُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ فَقِيلَ لَهُ قُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ. فَلَمْ يَقُلْ فَطَافَ بِهِنَّ فَلَمْ تَلِدْ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ وَاحِدَةٌ نِصْفَ إِنْسَانٍ ». فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- « لَوْ قَالَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ لَمْ يَحْنَثْ وَكَانَ دَرَكًا لِحَاجَتِهِ ».

มุสนัดอะหมัด

7390 - حَدَّثَنَا عَبْدُ الرَّزَّاقِ حَدَّثَنَا مَعْمَرٌ عَنِ ابْنِ طَاوُسٍ عَنْ أَبِيهِ عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ قَالَ
قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ سُلَيْمَانُ بْنُ دَاوُدَ لَأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ بِمِائَةِ امْرَأَةٍ تَلِدُ كُلُّ امْرَأَةٍ مِنْهُنَّ غُلَامًا يُقَاتِلُ فِي سَبِيلِ اللَّهِ قَالَ وَنَسِيَ أَنْ يَقُولَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ فَأَطَافَ بِهِنَّ قَالَ فَلَمْ تَلِدْ مِنْهُنَّ إِلَّا وَاحِدَةٌ نِصْفَ إِنْسَانٍ فَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ لَوْ قَالَ إِنْ شَاءَ اللَّهُ لَمْ يَحْنَثْ وَكَانَ دَرَكًا لِحَاجَتِهِ

7701 - حدثنا عبد الله حدثني أبي ثنا عبد الرزاق ثنا معمر عن بن طاوس عن أبيه عن أبي هريرة قال قال رسول الله صلى الله عليه و سلم قال سليمان بن داود : لأطوفن الليلة بمائة امرأة تلد كل امرأة منهن غلاما يقاتل في سبيل الله قال ونسي ان يقول ان شاء الله فأطاف بهن قال فلم تلد منهن الا واحدة نصف إنسان فقال رسول الله صلى الله عليه و سلم لو قال ان شاء الله لم يحنث وكان دركا لحاجته
تعليق شعيب الأرنؤوط : رجاله ثقات رجال الشيخين و أخرجه البخاري 5242 ومسلم 1654

สุนัน บัยฮะกี

20402- حَدَّثَنَا السَّيِّدُ أَبُو الْحَسَنِ : مُحَمَّدُ بْنُ الْحُسَيْنِ بْنِ دَاوُدَ الْعَلَوِىُّ رَحِمَهُ اللَّهُ إِمْلاَءً أَنْبَأَنَا أَبُو حَامِدِ بْنُ الشَّرْقِىُّ حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ عَقِيلٍ حَدَّثَنَا حَفْصُ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ حَدَّثَنَا إِبْرَاهِيمُ بْنُ طَهْمَانَ عَنْ مُوسَى بْنِ عُقْبَةَ قَالَ أَخْبَرَنِى أَبُو الزِّنَادِ عَنْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ الأَعْرَجِ عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ رَضِىَ اللَّهُ عَنْهُ أَنَّهُ قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- :« قَالَ سُلَيْمَانُ بْنُ دَاوُدَ عَلَيْهِمَا السَّلاَمُ لأَطُوفَنَّ اللَّيْلَةَ عَلَى سَبْعِينَ امْرَأَةً كُلُّ وَاحِدَةٍ تَأْتِى بِفَارِسٍ يُقَاتِلُ فِى سَبِيلِ اللَّهِ فَقَالَ لَهُ صَاحِبُهُ قُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ فَلَمْ يَفْعَلْ وَلَمْ يَقُلْ إِنْ شَاءَ اللَّهُ فَطَافَ عَلَيْهِنَّ جَمِيعًا فَلَمْ تَحْمِلْ مِنْهُنَّ إِلاَّ امْرَأَةٌ وَاحِدَةٌ جَاءَتْ بِشِقِّ رَجُلٍ

หะดีษทั้งหมดระบุ นบีสุลัยมานมีเพศสัมพันธ์หนึ่งคืนกับภรรยาขั้นต่ำ90 คน  ตามรายงานที่แตกต่างกันไป เท่านี้คงเพียงพอแล้ว[/size][/b]

คำถามสำหรับซุนนี่

ช่วยอธิบายทีซิว่า   หนึ่งคืนมี สิบสอง ชั่วโมง  ไม่ทราบว่า  การใช้เวลาร่วมเพศกับภรรยา เก้าสิบคน ภายใน สิบสองชั่วโมง เขาทำกันอย่างไร
#570
นบีมุหัมมัด (วาฮาบี)สังวาสภรรยา คืนเดียว 11 คน

ศาสดาของวาฮาบี บ้ากามเพียงหนึ่งคืนมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาได้ถึง 11 คน

ซอฮีฮุลบุคอรี หะดีษที่ 268

حَدَّثَنَا أَنَسُ بْنُ مَالِكٍ قَالَ كَانَ النَّبِىُّ - صلى الله عليه وسلم - يَدُورُ عَلَى نِسَائِهِ فِى السَّاعَةِ الْوَاحِدَةِ مِنَ اللَّيْلِ وَالنَّهَارِ ، وَهُنَّ إِحْدَى عَشْرَةَ . قَالَ قُلْتُ لأَنَسٍ أَوَكَانَ يُطِيقُهُ قَالَ كُنَّا نَتَحَدَّثُ أَنَّهُ أُعْطِىَ قُوَّةَ ثَلاَثِينَ . وَقَالَ سَعِيدٌ عَنْ قَتَادَةَ إِنَّ أَنَسًا حَدَّثَهُمْ تِسْعُ نِسْوَةٍ

อะนัส บินมาลิกเล่าว่า :  ปรากฏว่าท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)เวียนเทียนภรรยาของท่าน เพียงหนึ่งชั่วโมงในยามกลางคืน  ซึ่งพวกนางมี(ทั้งหมด) 11คน
เศาะหิ๊หฺบุคอรี  หะดีษที่ 268

http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?Doc=0&Rec=451 

เวียนเทียนภรรยาหมายความว่าอะไร  ???

อัลมะนาวี นักวิชาการวาฮาบีอธิบายว่า  :


( كان يدور على نسائه ) كناية عن جماعهن
الكتاب : التيسير بشرح الجامع الصغير  ج 2 ص 534 المؤلف / الإمام الحافظ عبد الرؤوف المناوي     دار النشر / مكتبة الإمام الشافعي - الرياض - 1408هـ - 1988م

(ปรากฏว่าท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)เวียนเทียนภรรยาของท่าน ) คืออุปมาหมายถึง การร่วมเพศกับพวกนาง

อ้างอิงจากอัต-ตัยซีร  บิชัรฮิลญามิอิซ-ซอฆีร  โดยอัลมะนาวี  เล่ม 2 : 534    และ

7023 - ( كان يدور على نسائه ) كناية عن جماعه إياهن ( في الساعة الواحدة من الليل والنهار )
الكتاب : فيض القدير شرح الجامع الصغير  ج 5 ص 213  المؤلف : عبد الرؤوف المناوي
الناشر : المكتبة التجارية الكبرى – مصر   الطبعة الأولى ، 1356

(ปรากฏว่าท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)เวียนเทียนภรรยาของท่าน ) เป็นอุปมาถึง การร่วมเพศของนบีกับพวกนาง ในหนึ่งชั่วยามของยามกลางคืน

อ้างอิงจากฟัยฎุลก่อดีร ชัรฮิลญามิอิซ-ซอฆีร  โดยอัลมะนาวี  เล่ม 5 : 213


คำถามสำหรับวาฮาบี   

ช่วยอธิบายทีว่า  นี่ถือเป็นซุนนะฮ์ที่มุสลิมต้องปฏิบัติตามด้วยหรือปล่าว
#571
พระเจ้าของซุนนี่  วิ่งได้

7536 - عَنْ أَنَسٍ - رضى الله عنه - عَنِ النَّبِىِّ - صلى الله عليه وسلم - يَرْوِيهِ عَنْ رَبِّهِ قَالَ « إِذَا تَقَرَّبَ الْعَبْدُ إِلَىَّ شِبْرًا تَقَرَّبْتُ إِلَيْهِ ذِرَاعًا ، وَإِذَا تَقَرَّبَ مِنِّى ذِرَاعًا تَقَرَّبْتُ مِنْهُ بَاعًا ، وَإِذَا أَتَانِى مَشْيًا أَتَيْتُهُ هَرْوَلَةً »

อะนัสเล่าว่า    ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)ได้เล่าถึงพระเจ้าของท่าน  ท่านกล่าวว่า     เมื่อบ่าวคนหนึ่งได้เข้าหาข้าหนึ่งคืบ  ข้าก็จะเข้าหาเขาหนึ่งศอก....    และเมื่อเขา(บ่าว)ได้เดินมาหาข้า   ข้าก็จะรีบวิ่งไปหาเขาอย่างแน่นอน
เศาะหิ๊หฺบุคอรี  หะดีษที่ 7536

คำถามสำหรับซุนนี่     พระเจ้าของท่านทรงวิ่งอยู่บนอากาศหรือบนดิน  ในน้ำหรือใต้ดิน ?
#572
พระเจ้าของซุนนี่  คือชายหนุ่ม

4923 - حدثنا عبد الرحمن بن الحسين قال : نا إسحاق بن الضيف قال : نا زيد بن السكن الجندي قال : حدثني عبد الله بن عمرو بن مسلم ، عن أبيه ، عن عكرمة قال : سئل ابن عباس : هل رأى محمد صلى الله عليه وسلم ربه عز وجل ؟ قال : « نعم ، رآه في صورة شاب بين شعر من لؤلؤ ، كأن قدميه في خضرة » « لم يرو هذا الحديث عن عمرو بن مسلم إلا ابنه ، تفرد به : إسحاق بن الضيف »      المعجم الأوسط للطبراني    ج 10 ص 480
อิกริมะฮ์  เล่าว่า  อิบนุอับบาสถูกถามว่า  ท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)เคยเห็นพระเจ้าของเขาหรือไม่ ?
อิบนุอับบาส -  เคยสิ  ท่านนบี(ศ)เคยเห็นพระองค์ในรูปชายหนุ่มคนหนึ่ง
อ้างอิงจากอัลมุอ์ญะมุล เอาซัฏ  โดยอัต-ต็อบรอนี  เล่ม 10  : 480 หะดีษที่ 4923
942- أَخْبَرَنَا عَلِيُّ بْنُ أَحْمَدَ بْنِ عَبْدَانَ ، أَخْبَرَنَا أَحْمَدُ بْنُ عُبَيْدٍ ، حَدَّثَنَا إِسْحَاقُ بْنُ الْحَسَنِ الْحَرْبِيُّ ، حَدَّثَنَا أَحْمَدُ بْنُ عِيسَى الْمِصْرِيُّ ، حَدَّثَنَا عَبْدُ اللهِ بْنُ وَهْبٍ ، قَالَ : أَخْبَرَنِي عَمْرُو بْنُ الْحَارِثِ الأَنْصَارِيُّ ، عَنْ سَعِيدِ بْنِ أَبِي هِلالٍ ، عَنْ مَرْوَانَ بْنِ عُثْمَانَ ، عَنْ عُمَارَةَ بْنِ عَامِرٍ ، عَنْ أُمِّ الطُّفَيْلِ ، امْرَأَةِ أُبَيِّ بْنِ كَعْبٍ ، رَضِيَ اللَّهُ عَنْهُمَا ، قَالَتْ : سَمِعْتُ رَسُولَ اللهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : يَذْكُرُ أَنَّهُ رَأَى رَبَّهُ عَزَّ وَجَلَّ فِي الْمَنَامِ فِي صُورَةِ شَابٍّ
الكتاب : الأسماء والصفات    المؤلف : البيهقي  458 هجرية  
المحقق : عبد الله بن محمد الحاشدي  الناشر : مكتبة السوادي - جدة
الطبعة : الأولى     عدد الأجزاء : 2
นางอุมมุ ตุฟัยลฺ ภรรยาของอุบัย บินกะอับเล่าว่า   ฉันได้ยินท่นรอซูลุลลอฮ์(ศ)เล่าว่า  ท่านได้ฝันเห็นพระเจ้า(อัซซะวะญัล) ของท่านในรูปชายหนุ่ม
อ้างอิงจากอัลอัสมาอุ วัศ-ศิฟาต  โดยอัลบัยฮะกี  หะดีษที่ 942
รายชื่อหนังสือซุนนี่ที่บันทึกหะดีษอัลเลาะฮ์คือชายหนุ่ม มีดังต่อไปนี้
والطبراني في المعجم الكبير 25/143 رقم 346. والبيهقي في الأسماء والصفات 2/367-369 رقم 942. والدارقطني في الرؤية ص 190 رقم 316. والقاضي أبو يعلى في إبطال التأويلات 1/141. والخطيب في تاريخ بغداد 13/311. وابن الجوزي في العلل المتناهية 1/15 وفي الموضوعات 1/181 من طريق الخطيب. والهيثمي في مجمع الزوائد 7/179. والسيوطي في اللالئ المصنوعة 1/30. وابن عراق في تنزيه الشريعة 1/145. والشوكاني في الفوائد المجموعة ص 447-448. والمتقي الهندي في كنز العمال 1/228 رقم 1153

คำถามสำหรับซุนนี่    พระเจ้าของท่านเป็นหนุ่มอายุประมาณเท่าไหร่หรือ
#573
พระเจ้าของซุนนี่ มีอารมณ์เบื่อหน่ายและเซ็ง

عن عَائِشَةَ - رضى الله عنها - قَالَتْ كَانَتْ عِنْدِى امْرَأَةٌ مِنْ بَنِى أَسَدٍ فَدَخَلَ عَلَىَّ رَسُولُ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - فَقَالَ « مَنْ هَذِهِ » . قُلْتُ فُلاَنَةُ لاَ تَنَامُ بِاللَّيْلِ . فَذُكِرَ مِنْ صَلاَتِهَا فَقَالَ « مَهْ عَلَيْكُمْ مَا تُطِيقُونَ مِنَ الأَعْمَالِ ، فَإِنَّ اللَّهَ لاَ يَمَلُّ حَتَّى تَمَلُّوا »
ท่านหญิงอาอิชะฮ์เล่าว่า  มีสตรีจากบนีอะซัดคนหนึ่งอยู่กับฉัน แล้วท่านรอซูลุลลอฮฺได้เข้ามาหาฉัน ท่านกล่าวว่า นางเป็นใคร ฉันตอบว่าผู้หญิงคนหนึ่ง ที่จะยอมหลับยอมนอนตอนกลางคืน แล้วถูกกล่าวถึงการละหมาดของนาง  ท่าน(ศ)กล่าวว่า  จงหยุดเถิด  พวกท่านควรทำเท่าที่ทำได้จากการงานต่างๆ  เพราะแท้จริงอัลเลาะฮ์จะไม่เบื่อหน่าย จนกว่าพวกท่านจะเบื่อ(เสียก่อน)  
เศาะหิ๊หฺบุคอรี  หะดีษที่ 1083
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?hnum=1083&doc=0
 1869 - رَسُولُ اللَّهِ -صلى الله عليه وسلم- فَوَاللَّهِ لاَ يَسْأَمُ اللَّهُ حَتَّى تَسْأَمُوا ».
ท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ)กล่าวว่า  ขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่า อัลเลาะฮ์จะไม่เซ็งอารมณ์ จนกว่าพวกเจ้าจะเซ็ง(ก่อน)
เศาะหิ๊หฺมุสลิม
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?hnum=1307&doc=1

คำถามสำหรับซุนนี่   หมายความว่า ถ้าท่านเริ่มเบื่อ เริ่มเซ็ง  พระเจ้าของท่านก็จะมีอารมณ์เช่นนั้นด้วยหรือ
#574
พระเจ้าของซุนนี่  มีบัลลังค์ และทรงนั่งบนเก้าอี้
الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى (طه : 5)
พระผู้ทรงเมตตา(อัลเลาะฮฺ) ทรงประทับนั่งบนบัลลังค์
ซูเราะฮ์ตอฮา : 5
ซุนนี่(มัซฮับมุญัสสะมะฮ์) กล่าวว่า

ท่านอิหม่ามอะหมัด (ขออัลลอฮเมตตาต่อท่าน)กล่าวว่า
พวกท่านคัดค้าน ว่าอัลลอฮทรงอยู่บนอะรัชอย่างนั้นหรือ ทั้งๆที่ อัลลอฮ ตะอาลา ตรัสว่า " พระผู้ทรงเมตตาทรงสถิตย์เหนือบัลลังก์ - อัรรอด อะลา อัซซะนาดิเกาะฮวัลยะฮมียะฮ หน้า 48-49

อบูอาลี อัลหุสัยน์ บิน อัลฟัฎลิอัลบะญะลีย์ ถูกถามเกี่ยวกับการอิสติวาอฺ โดยมีผู้ กล่าวแก่เขาว่า \\\"คำว่า \\\"ทรงประทับบนบัลลังก์ของพระองค์นั้นเป็นอย่างไร?\\\" เขา(อบูอาลี)กล่าวว่า \\\" ฉันไม่รู้เกี่ยวกับบรรดาข่าวคราวที่เร้นลับ นอกจาก ปริมาณของสิ่งที่ถูกเปิดเผยให้เรารู้เท่านั้น และอัลลอฮ ผู้ซึ่งการสรรเสริญพระองค์สูงส่งยิ่งนัก ได้ทรงบอกให้เรารู้ ว่า แท้จริง พระองค์ทรงประทับบนบัลลังก์ โดยที่พระองค์ ไม่ได้บอกให้เรารู้ว่า ทรงประทับอย่างไร –
อะกีดะฮอัสสะลัฟ ของ อัศศอบูนีย์ หน้า 40  
การประทับบัลลังก์ของอัลลอฮ แสดงให้เห็นว่าทรงอยู่เบื้องสูง

http://www.moradokislam.org/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=11213

คำถามสำหรับซุนนี่   เราจะไม่ถามว่า  พระเจ้าของท่านนั่งอย่างไรหรอก แต่จะถามว่า พระเจ้าของท่านมีก้นเอาไว้นั่งด้วยหรือ
#575
วาฮาบียืนยันว่า  นบีมุฮัมมัดเห็น อัลเลาะฮ์ ที่มินา  ประเทศซาอุดิอารเบีย

حدثنا حماد بن سلمة عن وكيع عن أبي رَزِيْن بن لَقِيطِ بْنِ عَامِرٍ قال قَالَ رَسُولُ الله صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ   : رَأَيْتُ رَبِّيْ بِمِنَى
الكتاب : تاريخ دمشق   المؤلف : ابن عساكر  ج 27 ص 396  ح 3247

อบี ร่อซีน บิน ละกีฏ บินอามิรเล่าว่า  ท่านรอซูลุลลอฮฺ (ศ)กล่าวว่า  ฉันเห็นอัลลอฮฺที่มินา
ตารีคดามัสกัส โดยอิบนุอะซากิร  เล่ม 27 : 396 หะดีษที่ 3247

عن وكيع بن عدس، عن أبى رزين - مرفوعا: رأيت ربى بمنى
ميزان الاعتدال للذهبي  ج 1 ص 513

อบี ร่อซีนเล่าว่า  ท่านนบี (ศ)กล่าวว่า  ฉันเห็นอัลลอฮฺที่มินา
มีซานุลอิ๊อฺติดาล โดยอัซซะฮะบี  เล่ม 1 : 513

عن حماد بن سلمة، عن وكيع بن عدس، عن أبي رزين، عن النبي صلى الله عليه وسلم قال: \\\" رأيت ربي بمنى
سير أعلام النبلاء للذهبي  ج 18 ص 17

อบี ร่อซีนเล่าว่า  ท่านนบี (ศ)กล่าวว่า  ฉันเห็นอัลลอฮฺที่มินา
สิยัร อะอ์ลามุน-นุบลาอฺ โดยอัซซะฮะบี  เล่ม 18 : 17

عن حماد بن سلمة عن يعلى بن عطاء عن وكيع بن عدس عن أبي رزين مرفوعا رأيت ربي بمنى
لسان الميزان  لابن حجر  ج 2  ص 238

อบี ร่อซีนเล่าว่า  ท่านนบี (ศ)กล่าวว่า  ฉันเห็นอัลลอฮฺที่มินา
ลิซานุลมีซาน โดยอิบนุฮะญัร  เล่ม 2 : 238

คำถามสำหรับวาฮาบี
มิทราบว่า พระเจ้าของท่านเสด็จไปทำพระราชกรณียกิจอันใดที่มินาหรือ
#576
พระเจ้าของซุนนี่  หัวเราะได้

2826 - عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ رضى الله عنه أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ - صلى الله عليه وسلم - قَالَ « يَضْحَكُ اللَّهُ إِلَى رَجُلَيْنِ يَقْتُلُ أَحَدُهُمَا الآخَرَ يَدْخُلاَنِ الْجَنَّةَ ، يُقَاتِلُ هَذَا فِى سَبِيلِ اللَّهِ فَيُقْتَلُ ، ثُمَّ يَتُوبُ اللَّهُ عَلَى الْقَاتِلِ فَيُسْتَشْهَدُ » .
อบูฮุร็อยเราะฮ์รายงานว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์(ศ)กล่าวว่า  อัลเลาะฮ์ทรงหัวเราะยังชายสองคน...
เศาะหิ๊หฺบุคอรี หะดีษที่ 2826    

7437 - حَدَّثَنَا عَبْدُ الْعَزِيزِ بْنُ عَبْدِ اللَّهِ حَدَّثَنَا إِبْرَاهِيمُ بْنُ سَعْدٍ عَنِ ابْنِ شِهَابٍ عَنْ عَطَاءِ بْنِ يَزِيدَ اللَّيْثِىِّ عَنْ أَبِى هُرَيْرَةَ ...  يَزَالُ يَدْعُو حَتَّى يَضْحَكَ اللَّهُ مِنْهُ ...

เขายังคงวิงวอนดุอาอ์ จนอัลเลาะฮ์หัวเราะเยาะเขา...
เศาะหิ๊หฺบุคอรี หะดีษที่ 7437


http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?Doc=1&Rec=432  
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?Doc=0&Rec=11027  
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?hnum=26299&doc=6
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?hnum=3519&doc=0
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?hnum=3504&doc=1


คำถามสำหรับซุนนี่   พระเจ้าของท่าน หัวเราะอย่างไรหรือ  ช่วยอธิบายด้วย
#577
พระเจ้าของวาฮาบีมีบ้าน
7440 - حَدَّثَنَا قَتَادَةُ عَنْ أَنَسٍ - رضى الله عنه - أَنَّ النَّبِىَّ - صلى الله عليه وسلم - قَالَ ...قَالَ قَتَادَةُ وَسَمِعْتُهُ أَيْضًا يَقُولُ « فَأَخْرُجُ فَأُخْرِجُهُمْ مِنَ النَّارِ وَأُدْخِلُهُمُ الْجَنَّةَ ، ثُمَّ أَعُودُ فَأَسْتَأْذِنُ عَلَى رَبِّى فِى دَارِهِ فَيُؤْذَنُ لِى عَلَيْهِ
เกาะตาดะฮฺรายงานจากอะนัสว่า  แท้จริงท่านนบีมุฮัมมัด(ศ)...  เกาะตาดะฮ์กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอะนัสเช่นกันเล่าว่า   (ท่านนบี ศ.  กล่าวว่า) แล้วฉันออกมา แล้วพวกเขาได้ถูกนำออกมาจากไฟนรก  และพวกเขาถูกนำเข้าสวรรค์  ต่อจากนั้นแนได้ย้อนกลับมา  ฉันได้ขออนุญาติต่อพระเจ้าของฉันใน " บ้านของพระองค์ "  แล้วฉันได้รับอนุญาตให้เข้าไปในบ้านของพระองค์
เศาะหิ๊หฺบุคอรี  หะดีษที่ 7440

คำถามสำหรับวาฮาบี  พระเจ้าของท่านมีบ้านด้วยหรือ
http://hadith.al-islam.com/Display/Display.asp?hnum=6886&doc=0