Welcome to Q4wahabi.com (Question for Wahabi). Please login or sign up.

มีนาคม 29, 2024, 01:01:07 ก่อนเที่ยง

Login with username, password and session length
สมาชิก
Stats
  • กระทู้ทั้งหมด: 2,519
  • หัวข้อทั้งหมด: 647
  • Online today: 64
  • Online ever: 75
  • (มีนาคม 28, 2024, 11:51:59 หลังเที่ยง)
ผู้ใช้ออนไลน์
Users: 0
Guests: 55
Total: 55

อัลมุตะวักกิล ผู้ทำลายสุสานฮูเซนหลานนะบีมุฮัมมัด

เริ่มโดย L-umar, มีนาคม 25, 2010, 10:30:11 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

L-umar

อัล-มุตะวักกิล   (Al-Mutawakkil)  (คศ.233-297 -  คศ.847-911)


            เนื่องจากวาษิกสิ้นชีพลงโดยมิได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดสืบต่อแทน พวกขุนนางอำมาตย์ ของท่านจึงต้องการให้มุฮัมมัด โอรสซึ่งยังเยาว์วัยของท่านได้เป็นเคาะลีฟฮ์สืบแทน แต่ วัสซีฟ (Wessif) และอิตาก (ltakh) ผู้เป็นหัวหน้าชาวเตอรกีกลับต้องการให้ตำแหน่งนี้ได้แก่ ญะอ์ฟัร (Jafar) ผู้เป็นอนุชาของวาษิก ญะอ์ฟัรจึงได้รับตำแหน่งโดย  ใช้นามว่าอัล-มุตะวักกิล สิ่งแรกที่ทรงทำก็คือสังหารเสนาบดีชื่ออิบนุลซัยยาด (lbn al Zayyad) ศัตรูเก่าซึ่งเคยคัดค้านการแต่งตั้งท่านเสีย ทรัพย์สินของเขาและของคนอื่น ๆ ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับท่านก็ถูกยึดหมดสิ้น นายทหารเตอรกีที่เคยสนับสนุนให้ท่านได้รับตำแหน่งเคาะลีฟฮ์ ก็ถูกสังหารเหมือนกัน ผู้มีเหตุไล่ออกจากตำแหน่งงาน  และผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม ก็ต้องระกำลำบากเพราะไร้งาน  

อัล-มุตะวักกิลมีความเกลียดชังพวกชีอะฮ์ (Shi'itis) จึงทรงสั่งให้ล้อมอนุสรณ์ที่สร้างไว้เหนือที่ฝังศพท่านหุสัยน์ที่เมืองกัรบาลา (Karbala) พร้อมด้วยอาคารอื่น ๆ รอบ ๆ นั้นเสียและสั่งห้ามให้ผู้ใดไปเยี่ยมเยียนสถานที่นั้น

            ในปีคศ. 237 หรือ ค.ศ. 851 ได้มีการกบฏเกิดขึ้นที่อาร์มีเนีย ในปีต่อมานายทัพชาวเตอรกีชื่อโบกา (Bogha) ก็ปราบปรามกบฏได้สำเร็จ ในปีเดียวกันนั้นชาวไบแซนไตน์ได้เข้ามารุกรานฝั่งทะเลอียิปต์ทำลายป้อมปราการทั้งหลาย ที่ปากแม่น้ำไนล์ใกล้เมืองตูนิสและนำตัวเชลยศึกและทรัพย์สินกลับไป

            ส่วนมุสลิมกับกรีกผลัดกันรุกผลัดกันถอยอยู่ระยะหนึ่ง  กรีกรุกเข้ามาได้ถึงเมือง อนิด (Anid)  และนำตัวเชลยศึกไปถึงหมื่นคน แต่ในปี ค.ศ . 245 หรือ ค.ศ.  859 มุสลิมก็ได้โจมตีกองทัพกรีกแหลกลานและกองทัพเรือของมุสลิมเข้ายึด แอตาเลีย(Antalia) ได้

            ในปี คศ. 241 หรือ ค.ศ.855 ได้มีการกบฏเกิดขึ้นที่เมืองอิมส์ (Hims) แต่ก็ถูกปราบปรามลงได้

            ในปี ฮศ. 244 หรือ คศ.858 หลังจากทำการปกครองจากเมืองหลวง สะมัรรอ มาเป็นเวลา 12 ปีแล้วเคาะลีฟะฮ์ก็ได้ย้ายเมืองหลวงกลับมาที่กรุงบัฆดาด แต่ไม่ทรงเป็นสุข ณ ที่นั้นจึงทรงกลับไปที่สะมัรรออีกและทรงสร้างพระราชวังใหญ่ห่างจากตัวเมืองออกไป 3 ไมล์โดยให้ชื่อตามพระนามของท่านว่า กาฟาริยะฮ์ (gafariya)

            ความประพฤติในตอนหลัง ๆ ของท่าน เป็นเหตุให้มีผู้คิดล้างชีวิตท่าน กล่าวกันว่าในขณะที่ท่านบรรทมอยู่ในพระราชวัง ทหารองค์รักษ์ชาวเตอรกีที่ท่านโปรดปรานพร้อมทั้งอัล – มุนตะซิร (Al-Muntasir) โอรสของท่านผู้ซึ่งไม่พอใจในความประพฤติของราชบิดาก็ได้ลอบเข้าไปสังหารท่าน รัชสมัยอันมีระยะยาว 15 ปี ของท่านเต็มไปด้วยการแบ่งแยกของราชอาณาจักร ความโหดร้ายทารุณ และไม่สนพระทัยของท่านทำให้ท่านนำราชอาณาจักรไปสู่ความพินาศในที่สุด

            หลังจากอัล – มุตะวักกิลสิ้นชีพแล้ว อาณาจักรมุสลิมตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว เคาะลีฟะฮ์ท่านต่อ ๆ มาของราชวงศ์นี้ล้วนแต่ไม่มีความสามารถ ยิ่งกว่านั้นการที่พวกเตอรกี เข้ามามีอิทธิพลอยู่ยิ่งทำให้ราชอาณาจักรโค่นล้มลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น  ได้มีรัฐอิสระตั้งตัวเองขึ้นมากมายในระหว่างปีต่อ ๆ มา


อ้างอิงข้อมูลจากเวบมุสลิมชลบุรี
http://www.muslimchonburi.com/index.php?page=show&id=725
  •  

L-umar

ท่านจะเห็นได้ว่าบทความข้างต้น  เล่าแค่ว่ากาหลิบมุตะวักกิล อับบาซีแค่สั่งล้อมสุสานของอิม่ามฮูเซนเอาไว้มิให้มุสลิมเข้าไปซิยารัตกุโบร์


ภาพสุสานของอิม่ามฮูเซน  หลานชายท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ)
http://www.holykarbala.net/cards/pic/torath/1900-1990/020.jpg
และ
http://images.google.co.th/images?hl=th&gbv=2&tbs=isch%3A1&sa=1&q=%D8%AD%D8%B1%D9%85+%D8%A7%D9%84%D8%A7%D9%85%D8%A7%D9%85+%D8%A7%D9%84%D8%AD%D8%B3%D9%8A%D9%86&aq=f&aqi=&aql=&oq=&gs_rfai=&start=0


ความจริงกาหลิบมุตะวักกิลไม่ใช่แค่สั่งล้อมสุสาน   แต่เขาได้สั่งให้ทำลายสุสานอิม่ามฮูเซนบุตรอาลี   และที่ยิ่งกว่านั้นกาหลิบมุตะวักกิลยังสั่งให้เอาที่ดินตรงสุสานอิม่ามฮูเซนเป็นที่ทำไร่ทำนาอีกด้วย

ซึ่งเหตุการณ์น่าสลดใจนี้เกิดขึ้นในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่  236  

ท่านอิบนุล อะษีรบันทึกว่า


في هذه السنة أمر المتوكل بهدم قبر الحسين بن علي، عليه السلام، وهدم ما حوله من المنازل والدور، وأن يبذر ويسقى موضع قبره، وأن يمنع الناس من إتيانه، فنادى عامل صاحب الشرطة بالناس في تلك الناحية: من وجدناه عند قبره، بعد ثلاثة، حبسناه في المطبق! فهرب الناس، وتركوا زيارته، وحرث وزرع      كتاب الكامل في التاريخ  ج 3  ص 226

ในปีนี้(ฮ.ศ.236) อัลมุตะวักกิลได้ออกคำสั่งให้ทำลายสุสานของท่านอัลฮูเซน บุตรอาลี อะลัยฮิสสลาม และทำลายอาคารบ้านเรือนรอบๆสุสาน และให้ทำการหว่านเมล็ดพืชและรดน้ำตรงสุสานของท่านฮูเซน   และห้ามประชาชนมาที่สุสาน  แล้วเจ้าหน้าที่(ทางรัฐ)ได้ป่าวประกาศกับประชาชนในบริเวณด้านนั้นว่า  ถ้าเราพบผู้ใดตรงที่สุสานนี้หลังจากสามวันนี้  เราจะจับเขาเข้าตาราง  ดังนั้นประชาชนจึงหนีไปและละทิ้งการมาซิยารัตสุสาน และ(สุสาน)ถูกหว่านไถ(กลายเป็นเรือกสวนไร่นา)


ดูอัลกามิล ฟิตตารีค โดยอิบนุลอะษีร เล่ม  3 : 226


ท่านลองวาดภาพดูสิว่า  สุสานหลานสุดที่รักของท่านนะบี(ศ) ถูกทำลายไม่พอซ้ำกาหลิบมุตะวักกิลยังทำกุโบร์ให้เป็นเรือกสวนไร่นา  เหมือนภาพนี้
http://www.vcharkarn.com/uploads/164/164802.jpg

คำถามคือ   ทำไม  กาหลิบมุตะวักกิล จึงกล้าทำลายสุสานของท่านอิม่ามฮูเซน ?

คำตอบคือ   เพราะเขาสังกัดตนอยู่ในมัซฮับอะฮ์ลุลหะดีษ  ซึ่งก็คือ  พวกวาฮาบี ในปัจจุบันนั่นเอง


ซึ่งแสดงว่าพวกวาฮาบีมีความคิดชอบทำลายกุโบร์ลูกหลานนะบีมาตั้งแต่อดีตแล้ว
  •  

L-umar

รายชื่อนักประวัติศาสตร์อิสลาม  ที่กล่าวว่า   อัลมุตะวักกิลสั่งทำลายสุสานอัลฮูเซน

1.   ท่านอิบนุญะรีร  อัตต็อบรี
2.   ท่านอิบนุกะษีร
3.   ท่านซะฮะบี
4.   ท่านอะบุลฟิดาอ์
  •  

55 ผู้มาเยือน, 0 ผู้ใช้